๑๒.๑ ประจักษ์พยาน
หม่อมหลวงพระพายหิ้วกรงของเจ้าจ้อยเข้ามาในเรือนหลังเล็กด้วยสีหน้ากังวล ภายในกรงว่างเปล่าไร้เงาของนกน้อยคู่ใจ วันนี้มันไม่ยอมกลับเข้ากรงอีกแล้ว ไม่รู้ว่าไปเที่ยวเตร่อยู่ที่ใดหรือว่ามีใครเอาตัวมันไป ที่ร้ายกว่านั้นหวังว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่ดี ไม่ถูกคนใจร้ายจับไปถอนขนสับจนเละแล้วเอาไปผัดเผ็ดเช่นที่หม่อมปรางทิพย์เคยแช่ง
“เจ้าจ้อยไม่ยอมกลับบ้านหรือ?”
“ครับคุณแม่”
“ประเดี๋ยวมันก็คงกลับมา อยู่แต่ในกรงมันคงเบื่อกระมัง”
“ช่วงหลังมานี้มันดื้อมากเลยครับ มันไม่เชื่อฟังลูกเหมือนที่เชื่อฟังพี่ชายพี”
หลังจากนั้นพระพายก็เล่าเรื่องราวความหลังเมื่อครั้งที่หม่อมราชวงศ์รพียังไม่เดินทางไปประจำที่ต่างแดน ทุกถ้อยคำที่เจื้อยแจ้วออกมาเจือไปด้วยความคะนึงหาจนสร้อยฟ้าสัมผัสได้ และใช่ว่าเธอเป็นแม่ที่ไม่ใส่ใจความเป็นไปของลูกชาย พระพายโตเป็นหนุ่มเต็มตัวและมีหัวใจรักที่บริสุทธิ์ และเจ้าของหัวใจของลูกชายของเธอก็หนีไม่พ้นคุณชายรพีผู้ปกครองแสนดีในช่วงเวลาหนึ่ง แม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งสองใกล้ชิดกันแต่มันยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของพระพายเสมอ แววตาคู่เศร้ามักล่องลอยไปไกลในยามที่หนุ่มน้อยเผลอ ซึ่งเธอรู้ดีว่าลูกชายกำลังคิดถึงใคร
“คิดถึงพี่เขามากหรือลูก”
“คิดถึงครับ”
เพราะเหลือกันเพียงสองคนแม่ลูก พระพายจึงไม่คิดปิดบังมารดาว่าตนรู้สึกอย่างไรกับคุณชายรพี
“นี่ก็ผ่านมาหกเดือนแล้ว ประเดี๋ยวก็ครบขวบปี อีกประเดี๋ยวก็ครบสี่ปี”
“มันนานเหลือเกินครับคุณแม่ แต่ลูกก็จะรอ”
สร้อยฟ้านอนไม่หลับเพราะความคิดสะระตะที่อยู่ในหัว เมื่อเช้าเธอนำชุดทับทิมไปคืนให้ท่านชาย แต่หม่อมเจ้าตะวันฉายไม่ยอมรับ ท่านตรัสบางอย่างกับเธอจนสร้อยฟ้ามิอาจขัดหทัยท่านได้
“ก่อนน้องหญิงจะสิ้นใจเธอมอบชุดเครื่องประดับให้ฉันไว้สามชุด บอกว่าให้ฉันมอบมันให้หม่อมคนใหม่ที่จะมาช่วยดูแลฉันและชายพี ชุดไพลินกับชุดมรกตน้องหญิงตามใจฉันจะมอบมันให้หม่อมคนไหนก็ได้ แต่ชุดทับทิมน้องหญิงสั่งไว้ว่าหากมีโอกาสขอให้ฉันมอบมันให้เธอ… สร้อยฟ้า”
“แต่สร้อยรับไว้ไม่ได้ ท่านชายก็ทรงทราบดีว่าเพราะอะไร”
“บางครั้งฉันก็อิจฉาพศุตม์เหลือเกิน แม้ไม่อยู่บนโลกนี้แล้วแต่เธอก็ยังรักมั่นเพียงเขา หลายครั้งฉันก็เสียดายที่ต้องสูญเสียความรักของเธอไปเพราะความขี้ขลาดของตัวฉันเอง”
“บางทีที่มันเป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะเบื้องบนได้กำหนดไว้แล้ว ท่านชายล้มเลิกเรื่องนี้เสียเถิดค่ะ ถึงอย่างไรสร้อยก็ไม่รับ ต่อให้คนจะร่ำลือกันไปทั้งพระนครว่าสร้อยเป็นหม่อมของท่านชาย แต่ท่านชายย่อมรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่ใช่ความจริง อย่าพยายามให้เสื่อมเกียรติไปมากกว่านี้เลยค่ะ”
“หากเธอไม่ยอมรับเรื่องที่จะเป็นหม่อมของฉัน ก็จงรับมันไว้ในฐานะที่เราจะดองกันในอนาคตเถิด”
“ท่านชายหมายความว่าอย่างไรคะ?”
“ชายพีฝากฝังพระพายเอาไว้ เธอคงเข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร เธอหมดรักในตัวฉัน ฉันยอมรับได้ แต่โปรดอย่าใช้เรื่องของเราเป็นเงื่อนไขที่จะขัดขวางความสุขของพวกเขา เพราะฉันรู้ซึ้งแก่ใจว่าการไม่ได้ครองคู่กับคนที่รักมันทรมานเพียงใด”
“สร้อยเข้าใจดีค่ะและไม่คิดจะกีดกันลูก”
“ฉันยอมแพ้แล้วสร้อยฟ้า สิ่งเดียวที่ฉันปรารถนาในตอนนี้ก็คือการได้เห็นเธอกับพระพายอยู่ดีมีสุข วันข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้รู้ไว้ว่าที่ฉันทำลงไปก็เพราะความรัก”
สร้อยฟ้าพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้งกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้ แต่เพียงไม่นานที่เธอเข้าสู่นิทรา พศุตม์ก็ปรากฏกายเข้ามาในความฝัน
“คุณชาย!”
นานเหลือเกินที่ไม่ได้พบกัน หม่อมราชวงศ์พศุตม์ผู้เป็นสามีไม่เคยมาเข้าฝัน ไม่เคยมาปรากฏให้เห็นไม่ว่าจะรูปแบบใด จนสร้อยฟ้าเชื่อหมดใจว่าคุณงามความดีของสามีจะหนุนนำให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดี หรือไม่ก็สถิตเป็นองค์เทพเทวัญอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า แต่ครั้นเมื่อพบหน้ากันในความฝัน รอบกายโปร่งใสของพศุตม์นั้นกลับดูหมองเศร้าเต็มไปด้วยความทุกข์ตรม
“คุณชาย…”
สร้อยฟ้าพยายามไขว่คว้าร่างของสามี แต่ดูเหมือนเธอยิ่งวิ่งตาม พศุตม์ก็ยิ่งล่องลอยห่างออกไป
“คุณชาย คุณชายเป็นอย่างไรบ้าง สุขสบายดีหรือไม่คะ หรือมีเรื่องทุกข์ใจใดบอกสร้อยสิคะ”
เพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนานมากกว่าอายุของพระพายจึงทำให้สร้อยฟ้าอ่านสายตาของสามีได้ว่าเขากำลังมีเรื่องทุกข์ใจ
แต่พศุตม์กลับไม่พูดอะไร ร่างนั้นลอยห่างสร้อยฟ้าไปเรื่อย ๆ เธอซอยเท้าวิ่งตามผ่านสวนหลังวัง ทิศทางนั้นตรงสู่เรือนหลังใหญ่ ไกลแสนไกลและยาวนานจนกระทั่งร่างของพศุตม์สลายหายไป
“คุณชาย!”
สร้อยฟ้าสะดุ้งเฮือก ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนเตียง ตอนนี้เธอยืนคว้างอยู่กลางสวนไม่ไกลจากเรือนใหญ่มากนัก เธอยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาจากการเดินมาไกลจากเรือนเล็กท้ายวัง
“นี่เราละเมอเดินมาถึงที่นี่เชียวหรือ?”
สร้อยฟ้ายกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ เธอคิดว่าเพียงฝันไปแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เธอเดินออกมาจากเรือนหลังเล็กในยามวิกาลเพียงเพราะฝันเห็นสามีจริง ๆ
“คุณชายกำลังจะบอกอะไรสร้อยคะ?”
สร้อยฟ้ารำพันขึ้นมาอย่างสงสัย เหตุเพราะคุณชายพศุตม์ไม่เคยมาเข้าฝันเธอมาก่อน หรือเป็นเพราะสองสามวันมานี้เธอหมกมุ่นเรื่องของเขามากเกินไป
สร้อยฟ้าสลัดศีรษะและกำลังจะหมุนตัวเดินกลับไปทางท้ายวัง แต่แสงสว่างวูบวาบที่ด้านหลังเรือนใหญ่ทำให้สร้อยฟ้าหยุดชะงักหันไปมองอย่างสงสัย
“ใครกันมาจุดไฟยามดึกดื่นเช่นนี้”
