บท
ตั้งค่า

ฉันจะเอาคืนอย่างสาสม 1.2

“แม่เห็นหรือยังคะว่า เด็กคนนี้เราจะใช้ไม้นวมไม่ได้อีกแล้ว วันนี้ยังกล้าเถียงพวกเราถึงขนาดนี้ ต่อไปเชื่อว่าคงจะต้องกล้าทำมากกว่าที่เห็นแน่ แบบนี้จะต้องจัดการให้เด็ดขาดนะคะ” ฮั่วอันหนานหันมาฟ้องแม่สามีอีกครั้งเพื่อให้จัดการกับหลานสาวคนนี้

“ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้อยู่ภายในห้องนี้ ห้ามออกไปแม้แต่ก้าวเดียว สำนึกความผิดตัวเองให้ได้ว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง ที่สำคัญห้ามใครส่งข้าวส่งน้ำให้กินเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนให้ไล่ออกไปจากบ้านตระกูลหลี่ทันที” ย่าหลี่ที่ถูกยุยงก็ออกคำสั่งเสียงดังทันที เพราะรู้ว่าลูกสะใภ้รองอย่างหลี่จินเอียนต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วงลูกสาวแน่ ๆ

หลี่ฟางซินได้ยินก็ไม่ได้คิดตื่นเต้นหรือตื่นกลัว เพราะเธอเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคนพวกนี้ไม่กล้าที่จะทำอะไรเธอมาก

หากเป็นหลี่ฟางซินเป็นคนก่อน เธอคงจะกลัวจนตัวสั่นและรีบร้อนคุกเข่าลงแล้วก็ขอรับโทษทั้งที่ตัวเองไม่ผิดอย่างแน่นอน แต่หลี่ฟางซินคนนี้ยังคงกอดอกยืนอย่างสง่างามอยู่กลางห้อง ปล่อยให้ป้าสะใภ้ประคองย่าหลี่เดินออกไปด้วยความรู้สึกโกรธจัด ที่ไม่สามารถทำให้เธอหวาดกลัวได้แม้แต่น้อย

เธอมองขึ้นไปบนหิ้งป้ายบรรพบุรุษ เห็นป้ายวิญญาณของคุณปู่ที่เสียชีวิตไปแล้วก็ได้แต่ยืนบ่นออกมาเบา ๆ

“ถ้าคุณปู่ยังอยู่ก็คงจะรู้สึกเสียใจมากที่หลานสาวสุดที่รักถูกรังแก แต่ไม่เป็นไรนะคะ พวกเขาก็ทำอะไรฉันมากไม่ได้เช่นเดียวกัน เรื่องนี้ยังไงก็ต้องมีทางแก้มือ” หญิงสาวพูดพร้อมกับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย

ผ่านไปอีกวันหลังจากที่หญิงสาวออกมาจากห้องเก็บป้ายวิญญาณบรรพชนแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอพบว่ามารดาของเธอนั่งร้องไห้อย่างหนักจนตาแดง จึงรีบเดินเข้าไปพร้อมกับนั่งลงข้างๆ พร้อมกับถามขึ้นอย่างอ่อนโยน

“ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้คะ ใครทำร้ายหรือเปล่า”

“แม่เป็นห่วงลูกน่ะสิ พอพวกเรารู้ว่าลูกถูกลงโทษขังไว้ในห้องบรรพชนและยังสั่งให้อดข้าว พ่อของลูกถึงแม้จะไปคุกเข่าขอร้องให้ย่ายกโทษให้ แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจ พ่อของลูกก็นอนไม่หลับ แต่เช้านี้ก็ต้องไปทำงาน แม่ผิดเองที่ไม่สามารถดูแลลูกได้ หิวไหมลูก” หลี่จินเอียนพูดออกมาพร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนจะถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

เมื่อได้ยินอย่างนั้นใบหน้าของหลี่ฟางซินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยเพื่อให้แม่เห็นว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอเก็บซ่อนความโกรธเอาไว้ในใจเพื่อรอวันเอาคืน เธอถูกขังแต่คนที่เจ็บปวดหัวใจก็คือพ่อแม่ จึงรีบยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้มารดาพร้อมกับเอ่ยปลอบใจ

“แม่ไม่ต้องกังวลใจไปหรอกนะคะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ทุกคนกังวล วันนี้จะกินให้อิ่ม นอนให้หลับชดเชยเมื่อคืน แบบนี้ดีหรือเปล่าคะ”

“ดีสิ ดีมากๆ วันนี้พ่อได้หัวไชเท้าหัวอวบกลับมาจากตลาดด้วย เดี๋ยวแม่จะทำของอร่อยให้ลูกกิน กินให้มากๆ แล้วเข้าห้องไปพักผ่อนนะ การไม่ได้นอนหลับสนิทมันเป็นทรมานร่างกายอย่างมาก แต่อย่ารบกวนถงเอ๋อร์นะ น้องก็อยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้เหมือนกัน ความหวังของพ่อกับแม่ฝากไว้ที่ลูกแล้ว” หลี่จินเอียนพูดจบก็รีบเข้าไปในครัวทันทีเพื่อทำอาหารให้ลูกสาวคนโต

คำพูดไม่กี่คำของแม่ ทำให้คนอย่างเธอรู้สึกอยากทำบางสิ่งบางอย่าง หลังจากที่ทุกคนเข้านอนแล้ว เธอชักชวนน้องสาวให้ออกมาจากห้องตอนกลางคืน ในมือข้างหนึ่งถือพัด อีกข้างหิ้วเตาขนาดเล็ก หลังจากที่ดูว่าทุกคนน่าจะหลับสนิทกันทั้งบ้านแล้ว จึงจุดไฟขึ้น พร้อมกับใส่เศษกิ่งไม้และเถ้าถ่านเข้าไปภายในเตาไฟมากขึ้นเพื่อให้เกิดควัน จากนั้น ค่อย ๆ พัดให้ควันลอยเข้าไปภายในห้องนอนของป้าสะใภ้และลุงใหญ่

“ทำแบบนี้จะดีแน่แล้วหรือพี่ใหญ่ ไม่กลัวพวกเขามาเห็นเข้า แล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อีกหรือไงคะ” หลี่ถงเอ๋อกระซิบถามขึ้นมาเบา ๆ

“คนพวกนี้ต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน เขาไม่ชอบสู้ในที่สว่างพวกเราก็ต้องเล่นอยู่ภายหลังความมืดเหมือนกัน เพียงแค่เสร็จงานแล้ว เราเอาเตานี้ไปเทเถ้าถ่านคืนไว้ในครัว ทุกอย่างก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่มีใครหาหลักฐานพบ ต่อให้พบ ก็จับมือใครดมไม่ได้หากเราไม่ยอมรับ” หลี่ฟางซินพูดไปก็พัดควันให้เข้าไปในห้องป้าสะใภ้ไปด้วย

“พี่ใหญ่ นับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาทำไมถึงได้เป็นคนที่ลงมือได้อย่าง เลือด เย็นขนาดนี้ อันที่จริงพวกเราสมควรที่จะทำอย่างนี้มาตั้งแต่แรกแล้วจริงหรือเปล่า” หลี่ถงเอ๋อพูดขึ้นอย่างเด็กแก่นเซี้ยวเหมือนกัน เธออยากเอาคืนป้าสะใภ้ใหญ่มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสและไม่กล้าที่จะลงมือ เพราะกลัวจะเดือดร้อนไปถึงพ่อแม่

“ถูกต้อง คนพวกนี้ไร้ศีลธรรม แม้แต่คำพูดบางคำพูดออกมายังไม่ใช้สมองคิดก่อนจะพูด เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องเกรงใจพวกเขา เอาล่ะ ควันก็เริ่มเข้าไปมากพอแล้ว คราวนี้เรารีบเอาเราไปเทกลบขี้เถ้ากันดีกว่า หลังจากนั้นก็กลับไปนอน จำเอาไว้ให้ดีว่า ต่อให้ใครถามฟ้าถล่มก็อย่าพูดเด็ดขาด เข้าใจไหม” หลี่ฟางซินรีบบอกน้องสาวและไม่ลืมกำชับเรื่องสำคัญ

“รับรองว่าฉันจะไม่เปิดปากพูดแน่นอน พี่ใหญ่วางใจได้เลยค่ะ” ซึ่ง หลี่ถงเอ๋อก็พยักหน้ารับพร้อมกับพูดอย่างแข็งขัน

*****

เช้าวันรุ่งขึ้น ป้าสะใภ้กับคนในครอบครัวต้องรีบไปหาหมอเพราะมีอาการน้ำตาไหลแสบเคืองตาอย่างมาก ร้ายไปกว่านั้นคือลุงใหญ่ไอตลอดทั้งวันเพราะสูดควันเข้าไปจำนวนมาก เสียงไอเสียงดังโขลก ๆ และเสียงโวยวายของป้าสะใภ้ตั้งแต่ตอนเช้า ช่างฟังดูรื่นหูเหลือเกิน

หลี่ฟางซินนั่งกินข้าวอย่างสบายใจ เธอคีบหัวไชเท้าสีขาวอวบเข้าปากพร้อมกับยิ้มไปด้วย อาหารมื้อเช้าวันนี้ช่างเป็นมื้อที่แสนอร่อยเหลือเกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel