ฉันคือหลี่ฟางซินคนใหม่ 1.1
บทที่ 2 ฉันคือหลี่ฟางซินคนใหม่
ฟางซินได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนเล่าให้ฟัง ก็เริ่มคิดตามทันทีตามเนื้อเรื่องที่เคยได้อ่าน จำได้ว่าทุกอย่างที่เป็นสิทธิ์การตัดสินใจภายในบ้านตระกูล
หลี่จะขึ้นอยู่กับย่าหลี่เพียงคนเดียว คุณปู่ของหลี่ฟางซิน ซึ่งก็บังเอิญว่ามีชื่อตรงกับเธอในโลกแห่งความเป็นจริง ได้เสียไปนานแล้ว พ่อของหลี่ฟางซินในนิยายเป็นลูกชายคุณรองของบ้าน แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ครอบครัวของเธอถูกดูถูก นั่นก็เป็นเพราะครอบครัวของเธอไม่มีลูกชายเป็นคนสืบเชื้อสายเพื่อเป็นทายาทของตระกูล ซึ่งแตกต่างจากครอบครัวของลุงใหญ่ ที่มีลูกชายเพียงคนเดียวแต่กลับไม่เอาไหนถึงขนาดนั้นก็ยังได้รับการดูแลเลี้ยงดูอย่างดี!
“ลูกนอนพักให้หายดีก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะไปทำอาหารมาให้กิน จะได้แข็งแรงเร็วๆ พี่เถอะพี่ ไปก่อไฟให้ฉันหน่อย” หลี่จินเอียนพูดขึ้น พร้อมกับเดินออกไปจากห้องพร้อมหลี่เกา
ฟางซินพยักหน้ารับรู้ เธออยากใช้เวลาช่วงนี้ทบทวนเนื้อหาในนิยายที่ตัวเองอ่านมา เพราะรู้ว่าตัวเองคงต้องติดอยู่ในร่างนี้ไปอีกนานแน่ ๆ พลันคำพูดของเด็กน้อยก็ดังขึ้นมาในหัว
‘เห็นแก่ที่พี่สาวเป็นคนทำงานด้วยความซื่อสัตย์ เพราะฉะนั้นฉันจะให้โอกาสได้กลับไปเลือกคู่ชีวิตอีกครั้งนะคะ’
“นี่เหรอโอกาสที่ได้รับ ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย” ฟางซินพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แต่ทันใดนั้น
‘ก็ใช่น่ะสิ แถมฉันยังให้มิติพิเศษให้พี่ด้วยนะ พี่จะได้อยู่ที่นี่อย่างไม่ลำบากเลย แต่อย่าทำอะไรให้เกินเลยเกินขอบเขตนะคะ’ เสียงเด็กน้อยดังขึ้น แต่ฟางซินมองไม่เห็นตัว
“มิติพิเศษอะไรกัน” ฟางซินถามออกไป แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา ก่อนที่เธอจะตกใจเพราะมีบางอย่างปรากฏขึ้นมา
****
วันต่อมา
ปัง ปัง ปัง
เสียงทุบประตูหน้าบ้านดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจ ทั้งที่ยังมีคนป่วยนอนพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เป็นฮั่วอันหนานได้ชื่อว่าเป็นป้าสะใภ้ที่ทุกคนในตระกูลหลี่ต้องยำเกรง ที่มาทุบอย่างไม่เกรงใจ
“ตื่นได้แล้วฟางซิน แกจะนอนขี้เกียจไปถึงไหน” ฮั่วอันหนานทั้งทุบประตูและตะโกนเข้ามาในบ้านด้วยเสียงอันดังลั่น “เอะอะ อะไรกันแต่เช้าพี่สะใภ้ ข้างในลูกสาวของเรายังนอนพักรักษาตัวอยู่เลยนะคะ” หลี่จินเอียนรีบไปเปิดประตูและถามกลับไปอย่างไม่พอใจ
“จินเอียน เธออย่าเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้นักสิ ลูกของเธอเป็นลูกสาวก็ต้องออกมาทำงานเช็ดถูปัดกวาดบ้านให้สะอาด ไม่อย่างนั้นจะมีลูกสาวไว้ทำไมถึงสองคน” ฮั่วอันหนานเท้าเอวพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจเช่นกัน เพราะตอนนี้ที่บ้านรกรุงรังไปหมดเพราะไม่มีคนไปทำความสะอาด
“พี่สะใภ้ ซินเอ๋อร์เพิ่งจะรู้สึกตัวได้แค่ไม่กี่วัน ทำไมถึงจะต้องรีบร้อนให้ลูกสาวของเราไปทำงานที่บ้านของแม่สามีด้วย ถ้าหากว่าเป็นลมแล้วล้มลงไปอีก จะมีใครพาไปหาหมอได้ทัน”
“คนเราถ้าลองได้เป็นแล้วสักครั้ง ก็คงจะต้องรู้ตัวว่าเมื่อไหร่จะเกิดอาการหน้ามืด ในเมื่อเห็นว่าเดินไปมาอยู่ในบ้านได้แล้ว ก็ไม่ควรที่จะนอนขี้เกียจสันหลังยาวให้ชาวบ้านมองได้ว่าไม่เอาไหน แต่ไหนแต่ไรมา ตระกูลหลี่ของเราถ้าเป็นลูกสาวก็ต้องทำตัวให้ทุกคนรู้สึกยกย่องชื่นชม เธอเองก็เป็นสะใภ้เหมือนกันกับฉัน อย่าบอกนะว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
ระหว่างที่แม่กับคนชื่อฮั่วอันหนานกำลังโต้เถียงกันเรื่องของเธอ ฟางซินก็พยายามนึกถึงเรื่องราวของตัวละครคนนี้
ฮั่วอันหนานถือตัวว่าเธอนั้นมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ เดิมทีเป็นชาวประมงซึ่งมีเรือออกหาปลาในเขตทะเล มีการทำธุรกิจขายปลาในตลาดปลาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่มีการก่อตั้งตลาด จึงทำให้พอจะมีคนรู้จักและเป็นลูกค้าขาประจำเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้พบรักกับหลี่ปิงลุงใหญ่ของบ้าน พวกเขาตัดสินใจแต่งงานกันและโยกย้ายมาอยู่ที่นี่ จนกระทั่งมีลูกชายคนหนึ่งที่ชื่อหลี่คุณ
ดูเหมือนโชคจะช่วย เนื่องจากเมื่อมีลูกคนแรกก็ได้ลูกชาย ถือเป็นหลานชายคนโตและเป็นหลานคนแรกของตระกูล หลี่คุณมีอายุห่างจากฟางซินสองปี มีอายุห่างจากน้องสาวของเธอสี่ปี ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ย่าของเธอจึงทั้งรักและดูแลหลานชายคนแรกซึ่งได้สืบเชื้อสายเป็นทายาทของตระกูลอย่างดี โดยที่ไม่สนใจและมักจะมองข้ามหัวหลานสาวอย่างเธอและน้องสาวอยู่เสมอ ทำให้ป้าสะใภ้คิดว่าตัวเองสามารถมีอำนาจตัดสินใจสั่งคนภายในบ้านได้ตามความพึงพอใจ และหากใครคัดค้าน ก็จะนำเรื่องไปฟ้องย่าหลี่ ทั้งที่บางครั้งก็ไม่เป็นความจริง
“ร้ายกาจมากนะยัยป้าสะใภ้” ฟางซินพูดกับตัวเองเบา ๆ และตั้งใจฟังการโต้เถียงต่อ
“เร็วเข้า ใบไม้ในสวนด้านหน้ารกรุงรังขนาดนั้น ฉันกลัวว่างูจะเลื้อยเข้าห้องของแม่สามีเข้า หรือพวกเธออยากจะให้ท่านถูกสัตว์มีพิษพวกนั้นทำร้ายล่ะ ช่างอกตัญญูเสียจริง” ฮั่วอันหนานพูดขึ้นมาเหมือนคนบ้านรองหลี่เป็นคนขี้เกียจจนอาจจะทำให้ย่าได้รับอันตราย
“ทั้งที่อาคุณก็อยู่ห้องใกล้เคียงกับแม่ แล้วเพราะอะไรพี่ถึงไม่ให้
ลูกชายของพี่ทำความสะอาดให้แม่สามีไปก่อนล่ะ” หลี่จินเอียนโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ที่ลูกสาวของเธอเกือบตายก็เพราะไปทำงานให้บ้านใหญ่ไม่ใช่หรือยังไงกัน
“พูดแบบนี้แสดงว่าลืมไปแล้ว ว่านี่คือหน้าที่ของบ้านรอง ถ้าหากยังขืนดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน เรื่องนี้จะต้องถึงมือของแม่สามี เพื่อสะสางความแข็งกร้าวของเธอกับลูกสาว” ฮั่วอันหนานพูดออกมาอย่างไม่พอใจมากขึ้น หล่อนถึงกับยกเอาแม่สามีมาข่มขู่ทีเดียว
“เอาล่ะๆ อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่กันนักเลย ฉันจะเป็นคนไปทำความสะอาดแทนซินเอ๋อร์เอง”
