บท
ตั้งค่า

2.2

หลิงฟางรู้นิสัยของฟู่จูดี ตอนนี้พวกเรายืนอยู่หน้าจวนอันมีสายตาของผู้คนนอกบ้านมองมารอบข้าง เขาคงมิกล้าเข้าข้างคนผิดอย่างเปิดเผยหรอก นางจึงเลือกถามเขาอย่างไรเล่า

“เอ้อ เราอย่าได้มัวแต่ชักช้าเลย รีบขึ้นรถม้ากับเถอะเจ้าค่ะ”

เป็นฮูหยินรอง หลิวเยี่ยนจือ เอ่ยแทรก ก่อนที่โชคร้ายทั้งหมดจะตกมาอยู่กับบุตรีของนางเอง แม้นจะยังติดใจเรื่องนิสัยสู้คนที่เปลี่ยนไปของหลิงฟางมากก็ตาม

จวนตระกูลหลี่มีคุณหนูอยู่ห้าคน แต่คุณหนูห้านั้นยังเล็กเกินไปจึงไปเพียงสี่ โดยคุณหนูสามได้ไปกับคุณหนูสี่ ส่วน

เยี่ยนจือนั้นขึ้นรถม้านั่งไปกับหลิงเจิน ทำให้หลิงฟางนั้นไม่รู้ว่าควรนั่งรถม้าคันใด

หากเป็นตามความเหมาะสมแล้วย่อมต้องขึ้นคันหลักอย่างคันของเยี่ยนจือนั่นแหละ

“เจ้าไปขึ้นคันหลังสิ มิเห็นหรือว่าคันนี้ข้ากับท่านแม่นั่งแล้ว”

หลิงฟางคิดไว้แล้วล่ะว่าคงเป็นเยี่ยงนี้ เพียงแต่เรื่องอันนางจะยอมง่าย ๆ กันเล่า

“โอ เพียงแต่ธรรมเนียมเรื่องลำดับขั้นในจวนน้องรองไม่คล่องไม่พอ ยังมิรู้ว่าควรให้ความเคารพแก่พี่อย่างไร เรียกเจ้าอย่างนั้น เจ้าอย่างนี้จนเคยชินแล้วกระมัง อ้อ แล้วก็ยังเรื่อง...”

ก่อนที่หลิงฟางจะสาธยายเรื่องผิดธรรมเนียมของ

หลิงเจินไปมากกว่าผู้เป็นมารดาที่รู้อยู่เต็มอกว่าบุตรีของตนทำสิ่งใดผิดบ้างจึงรีบตัดบทโดยการให้หลิงฟางขึ้นรถม้าทันใด

ภายในรถม้านั้นไร้สายตาคนภายนอกแล้ว ฉะนั้น

ฮูหยินรองที่เอื้อเฟื้อต่อบุตรีภรรยาเอกจึงมลายหายไป เหลือเพียงสตรีหน้าบึ้งตึงแต่ไม่ถึงขนาดแสดงความโกรธเกรี้ยวชัดเจนเยี่ยงผู้เป็นบุตรีที่นั่งข้างเคียง

“เจ้าออกมางานครานี้ได้เพราะข้าอนุญาตหรอกนะ อย่าได้สำคัญตัวผิดคิดว่าตนเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่แล้วจะวางอำนาจบาตรใหญ่อันใดก็ได้”

หลิวเยี่ยนจือเอ่ยเสียงกดข่ม ซึ่งหากเป็นยามปรกติ

หลิงฟางที่ถูกข่มย่อมต้องก้มหน้ารับคำนางอย่างง่ายดายแล้ว แต่นี้กลับยังนิ่งเฉยอีกทั้งทำเหมือนว่าคำพูดของนางไม่เข้าโสตประสาทอย่างไรอย่างนั้น

“เหอะ แล้วที่พามาครานี้ยามต้องแสดงความสามารถก็ให้เจ้าทำแต่พอตัว และทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้อย่าให้ขาดตกบกพร่อง มิเช่นนั้นกลับไปจะถูกทำโทษสถานหนักล่ะ เข้าใจหรือไม่”

เทศกาลซีซีของเมืองนี้นอกจากจะมีร้านรวงเปิดขายของตามข้างถนนแล้ว ยังมีบริเวณหน้าพระราชวังที่ทางกรมพิธีจัดตั้งเวทีให้เหล่าคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนลงสมัครเพื่อประชันความสามารถได้ โดยไม่จำกัดศาสตร์ศิลป์ หากคนใดชนะใจกรรมการที่ถูกเชิญในแต่ละปีย่อมกลายเป็นคุณหนูอันดับหนึ่งของเมืองหลวงในปีนั้นที่เหล่าบุรุษชนชั้นสูงหมายปอง

ในปีที่แล้วคุณหนูตระกูลหลี่ก็เข้าร่วมประชันสองนาง คือ คุณหนูรอง หลี่หลิงเจิน และคุณหนูสาม หลี่หลิงเสีย โดยทั้งสองถูกจัดอันดับติดหนึ่งในห้า เป็นหลี่หลิงเจินที่ได้ที่หนึ่งไปด้วยศาสตร์การร่ายรำ มาปีนี้หลิงเจินย่อมหวังชัยชนะอีกแน่พร้อมทั้งหวังจะทำให้ตนเป็นที่ชื่นชอบขององค์ชายรองที่มาเป็นกรรมการในวันนี้ด้วย

สตรีในเมืองหลวงต่างก็รู้ว่า องค์ชายรองชื่นชอบการดีดพิณเป็นที่สุด ซึ่งหลิงเจินร่ำเรียนและฝึกซ้อมมาอย่างดีก็เพื่อการนี้ ทว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นนิ้วเรียวอันเป็นอวัยวะสำคัญในการดีดพิณกลับมีบาดแผลเข้าเสียอย่างนั้น ฉะนั้นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งให้เยี่ยนจือต้องพาหลิงฟางมาให้ได้นั่นแหละ

บุตรีของนางบาดเจ็บที่นิ้วก็ดีเพราะนางวางแผนว่าจะให้หลิงฟางอันมีฝีมือดีดพิณเก่งกาจไม่แพ้ผู้เป็นมารดาของมัน มาดีดอยู่ข้างหลังเสีย ดีดในเพลงที่ยากยิ่งและถือว่าหากใครดีดเพลงในตำนานนี้ได้ย่อมถูกยกย่องว่ามีพรสวรรค์ในการดีดเป็นเลิศ

หลิงเจินก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่ยังไม่ไพเราะเท่าหลิงฟางบรรเลงก็เท่านั้น นางผู้เป็นมารดารู้อยู่แก่ใจแต่มิคิดบอกลูกให้สะเทือนใจหรอก แต่นางจะใช้เหตุบังเอิญนี้ปลอมแปลงเสีย ในส่วนของหลังเวทีเยี่ยนจือจัดการเตรียมไว้หมดแล้ว เหลือเพียงให้บุตรีของนางขึ้นแสดงก็เป็นพอ

หลิงฟางหันมองคนพูดด้วยสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์ใด ก่อนพยักหน้าเข้าใจ นางทำตามข้อตกลงนั้นแน่อยากให้นางดีดเพลงที่ท่านแม่ประพันธ์ไว้ก็มิมีปัญหาอะไร เป้าหมายของทั้งสองคือบุรุษผู้นั้นที่นางหาได้ต้องการไม่

ชาติที่แล้วหลิงเจินดีดเพลงนั้นด้วยฝีมือตนเองแล้วสามารถคว้าที่สามมาได้ อีกทั้งยังสามารถคว้าหัวใจขององค์ชายรองจนกลายเป็นพระชายารองในที่สุดได้เลย ไม่พอเพียงเท่านั้นยังอุตส่าห์ใส่ความเติมแต่งเรื่องราวให้หลิงฟางดูไร้ความสามารถทั้งที่นางนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ที่จวนได้

มาคราวนี้หลิงฟางได้มาด้วยก็ยังถูกใช้งานอีกทั้งยังกดข่มมากมาย หากเป็นหลิงฟางคนก่อนย่อมทำตามอย่างเชื่อฟังทุกขั้นตอนไม่มีผิดพลาดแน่นอน แต่สำหรับหลิงฟางคนนี้นางทำให้ได้แต่ย่อมต้องมีสิ่งใดแลกเปลี่ยน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel