ตอนที่ 11 หมูสามชั้นทอดเกลือ
ร่างกายของเจิ้งเซียงเซียงได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทางด้านผิวพรรณและการประทินผิว แต่สำหรับด้านความแข็งแรงนั้นเธอแทบจะสู้เจ้าสองแสบนั่นไม่ได้เลย ทำไปแค่พักเดียวก็ต้องนั่งพักเสียแล้ว
มาหวนคิดแล้วก็น่าอายอยู่เหมือนกัน ตนเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่าทำงานสู้เด็กตัวเล็กๆไม่ได้ ต่อไปต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายให้มากกว่านี้ดีกว่า
อายุของเซียงเซียงปีนี้ก็เข้า 23 ปีแล้ว เธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 17 ปีและมีเจ้าใหญ่ภายในปีนั้นเลย ทันทีที่ตั้งครรภ์เธอก็ประกาศตัวขอแยกบ้านจากบ้านใหญ่ เพราะไม่ต้องการทำงานบ้านและแบ่งเงินที่หามาได้ของสามีให้ใคร
ระบบที่คนอื่นเป็นใหญ่ต้องแบ่งทุกอย่างอย่างเท่าเทียมกัน ทำงานงกๆทุกวันแบบนี้เธอไม่ต้องการ เจิ้งเซียงเซียงจึงยื่นคำขาดออกมาว่าไม่ขออยู่ร่วมกับพวกเขา
ป๋อเหวินกลายเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในตอนนั้น เขาเลือกไม่ถูกไม่รู้จะเข้าข้างใคร ระหว่างครอบครัวหรือว่าภรรยา
เมื่อไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากเรื่องนี้เจ้าของร่างเดิมจึงขู่ว่าจะกระโดดน้ำตาย แม่หวังและพ่อหวังจึงต้องยอมให้เธอและสามีแยกบ้านมา
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณในความเด็ดขาดนี้ ความขี้เกียจตัวเป็นขนและความเห็นแก่ตัวของเจิ้งเซียงเซียงจริงๆ วันนี้เธอและเด็กๆจึงได้อยู่อย่างสุขสบายและอิสระ ไม่ต้องแบ่งเงินเดือนที่สามีได้รับมาให้กับใคร...
ที่บ้านใหญ่มีคนจำนวนมาก ลูกชายทั้ง 3 คนของตระกูลหวังต่างก็มีภรรยาด้วยกันแล้วทั้งนั้น การต้องนอนรวมกันทั้งบ้านจะอยู่เข้าไปได้อย่างไร
ครอบครัวหวังมีคุณพ่อหวังเจ๋อเป็นหัวหน้าตระกูล มีบุตรชายคนโตคือหวังเฟยเทียนอายุ 32 ปี คนรองหวังลี่หมินอายุ 30 ปี คนที่สามคือสามีเธอหวังป๋อเหวินอายุ 25 ปี และบุตรสาวคนเล็กเพียงคนเดียวของตระกูลก็คือหวังลู่ซืออายุ 21 ปีที่ค่อนข้างสนิทสนมกับเธอ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า นานๆทีจึงจะกลับมาที่บ้านสักทีหนึ่ง เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้แต่งงาน
ตอนนั้นการที่เธอขอแยกบ้าน ใครๆต่างก็ตำหนิเธอว่าเห็นแก่ตัว ตัดภาพมาที่ตอนนี้มีแต่คนอิจฉาอยากจะแยกบ้านด้วยกันทั้งนั้น
แม่หวังเห็นว่าเธอออกมาได้จึงทำห้องแยกให้ทุกคนเป็นการชดเชย แต่ว่าตอนรับประทานอาหารก็มารับประทานร่วมกันตามกฎ
หากใครเจ็บป่วยหรือว่ากำลังตั้งครรภ์จะสามารถละเว้นงานจากตรงนี้ได้ คอยสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป
“แม่ไปเตรียมอาหารเย็นให้ก่อนนะ”
เธอปล่อยให้พวกเขานอนเล่นบนเตียงเตากันไปก่อนแล้วจึงเดินไปหุงข้าว ทอดหมูสามชั้นหมักเกลือ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบ้าน
จากนั้นก็ต้มจืดสาหร่ายใส่วุ้นเส้นและผักจากหลังบ้านเอาไว้ 1 หม้อใหญ่ๆ
ช่วงที่รอให้พวกเด็กๆตื่น เซียงเซียงเดินไปซักผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเปื้อนดินของเจ้าใหญ่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็จะมาซักผ้าที่นี่กัน เธอใช้ไม้ตีๆอยู่พักหนึ่งก็สะอาด
“อาสะใภ้มาซักผ้าเหรอคะให้หนูช่วยไหม”หวังต้าถังบุตรสาวของสะใภ้รองเดินมาถาม
“ต้าถังเหรอ ไม่ต้องช่วยหรอกอาซักเสร็จแล้ว”
“อาสะใภ้อยากได้ฟืนในช่วงฤดูหนาวไหมคะ หนูเห็นว่าพวกหวังหม่าและหวังเฉากำลังหาลูกค้าอยู่”
“อยากได้สิ ให้พวกเขาไปที่บ้านอาวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันอาว่าจะจ้างพวกเขาเก็บฟืนสักหน่อย”
“ค่ะเดี๋ยวหนูจะบอกให้”
“เอ่อ ต้าถังที่บ้านพอจะมีปูนและอิฐเหลืออยู่บ้างไหม อาอยากจะเอาไปทำเตาอบสักหน่อย”
เธอจำได้ว่าบ้านใหญ่เพิ่งมีการต่อเติมบ้านทำห้องครัวเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงคาดเดาเอาเองว่าพวกเขาน่าจะยังมีอิฐและปูนหลงเหลืออยู่
“มีค่ะ อาสะใภ้ใช้เยอะหรือเปล่าหนูเห็นมันกองอยู่หลังบ้าน”
“ไม่เยอะ อาฝากบอกคุณย่าที”
“ได้ค่ะ”หวังต้าถังกำลังจะเดินไปแต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมาพูดกับเซียงเซียงว่า
“ขอบคุณอาสะใภ้มากนะคะที่เอาน้ำตาลทรายแดงให้คุณแม่ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้หนูอีกก็เรียกได้เลยนะคะ”
“แม่ของหนูเย็บผ้าเก่งมากใช่ไหมอาอยากจะไหว้วานให้ตัดเย็บเสื้อบุผ้าฝ้าย ให้เจ้าใหญ่และเจ้าเล็กคนละตัวได้หรือเปล่า แลกกับน้ำทรายแดงอีก 2 ชั่ง”
“จริงเหรอคะ”เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินข้อเสนอที่แสนใจดีของอาสะใภ้
“หนูจะรีบไปบอกคุณแม่แล้วจะไปแจ้งคุณอาที่บ้านนะคะ”
เซียงเซียงดูท่าทางของหวังต้าถังแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ เด็กคนอื่นๆต้องทำงานทำการ ตักขี้วัวไม่ก็ต้องนั่งกระเทาะข้าวโพด ต้าถังก็เป็นหนึ่งในเด็กที่ต้องทำงานงกๆเช่นกัน
พี่สะใภ้รองมีบุตร 2 คนล้วนแต่เป็นผู้หญิง หวังว่าในครรภ์นี้หล่อนจะได้ลูกชายสักที ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่ก็มีบุตร 3 คนเป็นผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 1 คน พวกเขาเป็นเด็กดีไม่ได้ขี้อิจฉาเหมือนมารดา
อันที่จริงในสายตาของเธอพี่สะใภ้ทั้งสองก็ไม่ได้แย่นัก แต่พวกหล่อนมักจะมองว่าเซียงเซียงใช้ชีวิตอยู่ในระดับที่สูงกว่าหรือจะเรียกว่าใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
เธอไม่รู้จัดอดออมหรือปล่อยให้ตัวเองลำบากบ้าง ชอบซื้อเนื้อมาทำกินให้ลูกๆโดยไม่สนใจสายตาของใคร ต่างจากเด็กชาวบ้านคนอื่นๆ
แต่ความคิดเห็นส่วนตัวของเธอมองว่าในฐานะของคนเป็นแม่ มันผิดด้วยหรือที่แม่จะอยากให้ลูกของตนกินดีอยู่ดี พวกเขาอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต และเธอก็พอมีเงินที่จะเลี้ยงดูพวกเขา
อันที่จริงมันก็ไม่ผิดหรอกที่พวกชาวบ้านจะหมั่นไส้เธอ เพราะว่าทั้งชีวิตที่ผ่านมา นอกจากเรื่องฟุ่มเฟือยแล้วเธอเป็นแม่ที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบเท่าไร ภาพลักษณ์ของเธอจึงถูกคนอื่นมองไม่ดีก็เท่านั้น
เงินส่วนมากก็หมดไปกับการซื้อเสื้อผ้าและแต่งตัว ในขณะที่คนอื่นๆต้องตรากตรำทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ
ยืนมองดูเธอเดินแต่งตัวสวยเฉิดฉายงดงามราวกับนางไม้ เธอจะกลายเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงทั่วทั้งหมู่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ซักผ้าเสร็จเธอก็เดินกลับบ้านไปเจอพี่น้องตระกูลหวังที่เป็นเครือญาติกับสามีมายืนรออยู่ที่หน้าบ้าน
“หวังหม่า หวังเฉาทำไมมาวันนี้ล่ะ อาบอกให้มาวันพรุ่งนี้ไง”
“พอดีว่าอีกไม่กี่วันก็หมดฤดูเก็บเกี่ยวแล้วผมกับน้องจะมาตัดฟืนให้คุณอานะครับ”เด็กหนุ่มรีบรายงาน
“ได้จ้ะ มืดค่ำแล้วกลับบ้านกันดีๆ”
“ถ้ามีอะไรคุณอาเรียกใช้ผมได้เลยไม่ต้องเกรงใจนะครับ”
หวังหม่าอายุ 15 ปีพูด เขาทำงานหาเงินทุกอย่างเพื่อเลี้ยงน้องวัย 10 ขวบเพียงลำพัง น่าสงสารที่พวกเขาเป็นเด็กกำพร้าจึงต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก หากไม่ได้เงินจากการตัดฟืนแล้วพวกเขาจะต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆไปตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน
ก่อนที่เซียงเซียงจะเดินเข้าบ้าน ต้าถังก็รีบวิ่งมาบอกว่าแม่ของเธอตกลงที่จะตัดเสื้อให้เจ้าใหญ่และเจ้าเล็กแล้ว เธอจึงเข้าไปเอาฝ้ายที่เตรียมไว้มามอบให้หลาน
“แม่ผมหิวข้าวแล้วครับ หมูสามชั้นทอดหอมมากเกือบจะอดทนไม่ไหว เกือบจะกินก่อนแม่แล้ว”เจ้าเล็กร้องโอดโอย
“แม่ออกไปซักผ้ามาใครใช้ให้พวกลูกนอนขี้เซาเล่า มาช่วยแม่ตากผ้าก่อนแล้วพวกเราจะได้กินข้าวพร้อมๆกัน”
พูดจบลิงทะโมนทั้งสองตัวก็รีบกระโจนเข้าใส่ผ้าที่ตนทำเปื้อนอย่างไม่คิดชีวิต
กลิ่นหมูทอดหอมมากๆจนทำให้น้ำลายไหลไม่หยุดเซียงเซียงมองบุตรชายตัวน้อยด้วยความเห็นใจขนาดเธอได้กลิ่นหอมขนาดนี้ยังแทบทนไม่ไหวแล้วนับภาษาอะไรกับพวกเขาเล่า เร่งมือตากผ้าจนเสร็จก็ลงมือรับประทานอาหารทันที
“ค่อยๆกินกันนะ มีแกงจืดสาหร่ายที่แม่ทำเอาไว้ด้วยคิดว่าลูกคงจะชอบ”
“อร่อยมากๆเลยแม่ ผมรักแม่ที่สุดในโลก”เจ้าใหญ่พูด
“ผมก็รักแม่ที่สุดในโลก มีแต่คนอิจฉาที่ผมเป็นลูกแม่ทั้งนั้น”
เจ้าเล็กพูดบ้าง หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดออกมาจากปากที่มันแผล็บนั่น
หมูสามชั้นทอดอร่อยอย่างเหลือเชื่อขนาดเธอเป็นคนทานข้าวไม่มากยังต้องเติมข้าวเพิ่มอีกตั้ง 2 รอบเชียว แค่เพียงเธอยกถ้วยซดแกงจืดร้อนๆนั่นก็รู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์แล้ว
หลังจากอิ่มแล้วสัมผัสท้องที่เต่งตึงของตนเอง พลางคิดในใจว่าก่อนอาบน้ำคงต้องบริหารร่างกายเบาๆไม่อย่างนั้นต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ
