บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 อุ่นใจ

บทที่ 8 อุ่นใจ

เรื่องราววุ่นวายได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วและถูกจัดการอย่างเงียบๆ ท่านน้าของซินหยานถูกเรียกตัวกลับบ้านเป็นการด่วน หลังจากนั้นแค่วันเดียวหนังสือหย่าก็ถูกเขียนขึ้นมา อดีตเซียวฮูหยินถูกส่งกลับบ้านเดิมของนาง แต่แล้วก็ถูกคนเหล่านั้นส่งนางไปอยู่ที่วัดอันห่างไกลอีกที

“คุณหนูมั่นใจได้อย่างไรเจ้าคะว่าจะไม่มีใครสืบสาวมาถึงเรา”

ซือเจียยังคงสับสนไม่หายที่เรื่องราวจบไปทั้งแบบนั้น

“แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้กันเงียบๆ ถ้าปล่อยให้คนนอกรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้น่าอับอายมากเท่านั้น”

สำหรับท่านน้าและท่านตาของนางแล้วพวกเขาต้องเลือกที่จะรักษาหน้าเอาไว้ หากใครถามก็คงจะอ้างว่านางอยากไปขัดเกลาจิตใจที่วัด

ส่วนสวี่ฮูหยินนั้นนางมีความน่าสงสารอยู่บ้าง เพราะมีบุตรด้วยกันแล้วจึงไม่สามารถทำตามใจได้ ไหนจะครอบครัวเดิมที่ไม่สนับสนุนการแต่งงานครั้งนี้ตั้งแต่แรกจนเลือกที่จะตัดขาดกันไปแล้วทำให้นางไม่มีที่ไป

“แล้วต่อไปคุณหนูจะทำอย่างไรต่อเจ้าคะ” ซือเจียถามน้ำเสียงกระตือรือร้น ดวงตาของนางวาววับด้วยความตื่นเต้น

ในแววตาของซือเจียตอนนี้เต็มไปด้วยความเคารพนับถือคุณหนูของนาง ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าก็ตาม

“สนุกขนาดนั้นเลยหรือ” ซินหยานระบายยิ้มถาม

ถ้าให้เทียบกันแล้วดวงจิตที่อยู่ด้านในของซินหยานมีอายุมากกว่าซือเจียในตอนนี้ นางจึงเอ็นดูอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย

“ไม่เชิงเจ้าค่ะ แต่ข้าตื้นตันใจมากกว่าที่คุณหนูของข้าเก่งขนาดนี้” ซือเจียยิ้มกว้าง

“หลังจากนี้ก็คงไม่มีใครให้จัดการไปสักพัก แต่ข้ากำลังมีแผนการใหญ่” ซินหยานกระซิบเสียงแผ่ว บนใบหน้านางดูมีชีวิตชีวา

“แผนการอะไรหรือเจ้าคะ”

“กลับเมืองหลวง”

“กลับเมืองหลวง ! ” ซือเจียเผลอตะโกนด้วยความตกใจ

จะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไร เมืองหลวงก็เหมือนนรกสำหรับคุณหนูของนาง ทั้งเครือญาติที่แทบไม่นับว่านางคือคนสกุลเฉิน ไหนจะมารดาของนางที่ทำร้ายจิตใจคุณหนูของนางจนถึงที่สุดนั่นอีก

ชู่ววว !

“อย่าเสียงดังไปสิ” ซินหยานรีบเอามือปิดปากซือเจียไว้ ดวงตาเบิกกว้างด้วยกลัวว่าแผนการจะรั่วไหล

“อื้อๆ” ซือเจียพยักหน้าหลายทีแสดงออกว่านางเข้าใจแล้ว

“ช่วงนี้ข้าเขียนจดหมายหาท่านปู่บ่อยๆ อีกไม่นานข้าจะลองขอให้เขาส่งคนมารับพวกเรากลับไป”

“แต่...คุณหนูอยู่ที่จวนนั้นแล้วไม่มีความสุข” ซือเจียมีสีหน้าสลดลง

“ข้ามีเหตุจำเป็น แต่ถ้าหากเจ้าอยากอยู่ที่นี่ต่อข้าก็จะไม่ขัด”

ถ้าเลือกได้นางก็อยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ไหนๆก็จัดการสตรีผู้นั้นได้แล้ว แต่ซินหยานไม่สามารถทำใจปล่อยให้สกุลเฉินล้มไปต่อหน้าทั้งๆที่นางอาจจะช่วยไว้ได้

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะติดตามคุณหนูตลอดไป” ในน้ำเสียงของนางประกอบไปด้วยความจริงใจเต็มเปี่ยม

“อืม เจ้าไปเตรียมของให้พร้อมวันนี้ท่านอาจารย์คงจะมาแล้ว”

“เจ้าค่ะ”

ณ จวนสกุลเฉิน

“วันนี้แล้วใช่หรือไม่ที่จะส่งอาจารย์ไปให้นาง” เสียงทุ้มทรงอำนาจของเฉินรุ่ยเซียวถามอวี้หลางคนสนิทของเขา

“ขอรับนายท่าน”

“นางเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามทั้งๆที่ยังก้มหน้าทำงานอยู่

“คุณหนูเปลี่ยนไปมากขอรับ ราวกับคนละคน” อวี้หลางยังแคลงใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเฉินซินหยานไม่หาย

“งั้นหรือ” เขาไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นตกใจอะไรมากนัก

เฉินรุ่ยเซียวเป็นเช่นนี้เสมอ สงบนิ่งเย็นชาต่อทุกสิ่งต่อให้จะเอาดาบมาจ่อที่คอเขาก็ไม่แสดงอาการแม้แต่น้อย

“น่าแปลกนะขอรับทั้งๆที่ดูจะเป็นคนฉลาดมากแท้ๆแต่กลับไม่อยากเรียนหนังสือ”

“อืม แต่จดหมายที่นางเขียนมาก็น่าสงสัยอยู่บ้าง”

เด็กแปดขวบคนนึงจะเขียนตัวหนังสือได้บรรจงงดงามขนาดนั้นได้อย่างไรกัน ไหนจะคำที่เด็กๆไม่ควรจะรู้จักด้วยซ้ำนั่นอีก

“แต่คุณหนูก็ยืนยันว่านางเขียนเองกับมือทุกฉบับ”

“แล้วเรื่องเบี้ยเลี้ยงนางตอบว่าอย่างไร” นี่ต่างหากคือสิ่งที่เขาใคร่รู้

เรื่องเบี้ยเลี้ยงนี้แทบจะไม่ถูกพูดถึงกันในครอบครัว เพราะเป็นคำสั่งของเขา เด็กๆนั้นยังไม่มีวิจารณญาณมากพอที่จะตัดสินใจหากให้ไปแล้วอาจจะไม่เป็นผลดี

“คุณหนูตอบว่าแอบได้ยินพ่อกับแม่ของนางคุยกันขอรับ”

“หึ ปลิ้นปล้อนเสียจริง” เขายกยิ้มมุมปาก

การที่หลานสาวอายุเพียงแปดขวบแต่มีเล่ห์เหลี่ยมถึงเพียงนี้ก็พอจะทำให้เขาพอใจขึ้นมาบ้าง

“คุณหนูยังถามข้ามาอีกเรื่องด้วยนะขอรับ”

“นางถามว่าอะไร หรือว่าต้องการเงินเพิ่ม” นอกจากเงินทองแล้วเด็กๆจะอยากได้สิ่งใดอีก

“คุณหนูถามว่านายท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ นางถามถึงสุขภาพของท่านว่าแข็งแรงดีหรือไม่ คุณหนูเป็นห่วงนายท่านนะขอรับ”

“งั้นหรือ” เขาตอบเสียงเรียบจนคนบอกรู้สึกผิดหวัง

อวี้หลางอุตส่าห์มีความหวังขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยก็ยังมีคนเป็นห่วงเจ้านายของเขาอย่างน้อยหนึ่งคน

“ดูจากการแสดงออกของนางแล้วข้ายืนยันได้เลยขอรับว่านางเป็นห่วงนายท่านด้วยใจจริง”

ถึงเฉินรุ่ยเซียวจะแสดงท่าทีเย็นชา แต่เขารับรู้ได้ว่ามีความรู้สึกบางอย่างที่แปลกไป มันอุ่บวาบในหัวใจที่ได้รู้ว่ามีคนเป็นห่วงเขา

“ให้คนจับตาดูนางให้ดี อย่าให้เกิดเรื่อง”

ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่นี่คือการสั่งให้อารักขานางให้ดี อย่าให้ใครมาแตะต้องคุณหนูหกสกุลเฉินได้

“นายท่านมิต้องกังวลขอรับ ขนาดอดีตภรรยาของใต้เท้าเซียวคุณหนูก็จัดการนางจนอยู่หมัดไปเลย”

“เช่นนั้นหรือ หึหึ วันนี้อากาศดีออกไปดื่มชาที่ศาลาสักหน่อยดีกว่า” เฉินรุ่ยเซียววางพู่กันในมือและก้าวขาไวๆไปทิศทางที่เขาต้องการ

“อากาศดีจริงๆ” อวี้หลางอมยิ้ม ดูเหมือนสกุลเฉินจะมีหวังขึ้นมาบ้างแล้ว

ณ จวนสกุลเซียว

“เดินทางมาไกลคงเหนื่อย ท่านอาจารย์ไปพักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ”

ซินหยานยิ้มทักทายอาจารย์ของนาง พลางให้คนนำชาและขนมออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี

“รบกวนคุณหนูแล้ว”

“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ” ซือเจียนำทางไปยังห้องพักของเขา

อาจารย์ที่มาท่านนี้ทำให้ซินหยานพอที่จะหายใจหายคออย่างโล่งใจขึ้นมาบ้าง เขานับว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็มองว่านางคือคุณหนูสกุลเฉินเช่นเดียวกับพี่น้องคนอื่นๆ

“ดูแลเขาให้ดี หากขาดเหลืออะไรให้มาแจ้งข้าได้เลย” ก่อนจะไปซินหยานก็กำชับเอาไว้

เช้าวันถัดมาซินหยานตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเรียนวันแรก นางตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำให้เต็มที่

“วันนี้พวกเราจะเริ่มทำการทดสอบระดับความรู้ของคุณหนูกันก่อนนะขอรับ” ท่านอาจารย์ของนางบอกพลางยื่นกระดาษแบบทดสอบให้นาง

“ท่านอาจารย์เรียกข้าว่าซินหยานก็ได้เจ้าค่ะ ท่านเป็นอาจารย์ข้าต่างหากต้องเป็นฝ่ายที่เคารพท่าน”

“ถึงอย่างไรคุณหนูก็เป็นหลานของนายท่านข้าว่ามันไม่เหมาะสม”

ซินหยานยกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดต่อ

“ถือว่าเป็นคำขอจากลูกศิษย์แล้วกันเจ้าค่ะ”

“ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มทำแบบทดสอบเถิด”

ในระหว่างที่ซินหยานกำลังตั้งใจทำแบบทดสอบเขาก็นั่งสังเกตนางไปด้วย ไม่เหมือนเด็กแปดขวบจริงๆ สมแล้วที่เป็นหลานของนายท่าน ถึงหลานคนอื่นๆจะไม่ค่อยได้เรื่องแบบนางก็เถอะ

ซินหยานใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามก็ทำแบบทดสอบเสร็จ นางทวนคำตอบอีกครั้งก่อนจะนำส่งให้เขา

“อืม ทำได้ดีมาก” เขายิ้มด้วยความพึงพอใจ

ความจริงแล้วเขายิ่งกว่าพึงพอใจเสียอีก นี่มันอัจฉริยะชัดๆ ชีวิตนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้มีโอกาสสอนคนมีอนาคตไกลเช่นนี้ เสียดายที่เป็นสตรีโอกาสย่อมน้อยกว่าบุรุษหลายส่วน

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ซินหยานจ้องเขาพลางกะพริบตาอย่างอยากรู้อยากเห็น

นางตั้งใจตอบผิดในบางข้อเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยเกินไป

“ถูกเกือบหมด วันนี้ก็พักเท่านี้ก่อน ข้าขอตัวไปเตรียมบทเรียนสำหรับวันต่อไป”

“เจ้าค่ะ ถ้าข้าทำได้ดีอาจารย์ต้องชมข้าให้ท่านปู่ฟังเยอะๆเลยนะเจ้าคะ” ซินหยานบอกน้ำเสียงสดใส

ถึงนางจะเคยไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็คงต้องยกความดีความชอบให้มารดาของนางที่บังคับนางคัดตำราทุกวัน หากไม่เสร็จก็จะไม่ได้กินข้าว ถ้าไม่ตั้งใจก็จะโดนตีจนมือขึ้นรอย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel