บทที่ 2 ทดสอบ
วันนี้เธอเช็ดตัวให้เขาด้วยความคล่องแคล่ว คงเพราะทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จึงได้เคยชินหลังเช็ดตัวเสร็จเธอก็สวมเสื้อผ้าให้เขาใหม่ อยู่ ๆ ผ้าที่ปิดอยู่ตรงกลางร่างกายของเขาก็เลื่อนลงมาจนเผยให้เห็นส่วนที่ไม่ควรเห็นเข้า หยางซินเผลอมองอย่างเต็มตา เขาเห็นชัดว่าใบหน้าของเธอแดง จากนั้นเธอก็หลับตาดึงผ้าขึ้นมาคลุมดังเดิม
คนสองคนไม่พูดอะไรกัน มีเพียงบรรยากาศแห่งความเงียบเท่านั้นที่ปกคลุม จนกระทั่งเธอให้เขาแปรงฟันบ้วนปากจนเสร็จ จึงพยุงเขาลงนอนและห่มผ้าให้
"คืนนี้ให้พี่ฝันดีนะ พรุ่งนี้เจอกัน"
เธอมักจะพูดแบบนี้ทุกวัน และในเช้าวันต่อมาเขาก็จะเห็นหน้าของหยางซินเป็นคนแรก หยางซินปิดไฟดวงเล็กในห้องจากนั้นก็เดินออกไปเงียบเชียบพร้อมกับปิดประตูเบา ๆ ในตอนนั้นนั่นเองจางเฮ่อก็ขยับตัวลงจากเตียง และเขาก็เริ่มฝึกเดิน
เขาล้มป่วยมาเกือบจะครึ่งปีแล้ว ใคร ๆ ก็คิดว่าเขาจะเดินไม่ได้ แต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังพยายามที่จะฝืนสังขารตัวเอง และทำให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง และจากที่เคยล้มลุกคลุกคลาน ตอนนี้เขาก็สามารถเดินได้แล้ว แม้จะไม่กี่ก้าวแต่ความก้าวหน้านี้ก็ทำให้เขาพอใจ
หากว่าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเขาก็คงจะกลับมาเดินได้เป็นปกติ หลังจากฝึกเดินไปครู่หนึ่ง เขาก็กลับมาที่เตียงอย่างช้า ๆ ในตอนนั้นดูเหมือนว่าประตูห้องของเขากำลังจะเปิดออก โชคดีที่เขาล้มตัวลงนอนแล้ว
และคนที่ก้าวเข้ามาก็ทำให้เขาประหลาดใจ เพราะใจหนึ่งยังหวังว่าจะเป็นภรรยาของตัวเอง แต่คนที่มากลับกลายเป็นหยางซิน
การเข้าห้องพี่เขย ในช่วงกลางดึกอันเงียบสงัดแบบนี้ ต้องไม่สมควรอยู่แล้ว ทว่าหญิงสาวกลับเดินตรงมาด้วยความตั้งใจแน่วแน่ จากนั้นก็หยุดที่ข้างเตียง
จางเฮ่ออยากรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ เขาจึงนอนหลับตานิ่ง ๆ จากนั้นหญิงสาวก็พูดขึ้นมาว่า
"ขอโทษที่ฉันวางยานอนหลับพี่ แต่ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าพี่ใช้งานได้หรือเปล่า"
จากนั้นมือของเธอก็ค่อย ๆ ลูบคลำมาที่ร่างกายผอมแห้งของเขา ไต่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงถึงแท่งเนื้อใหญ่ที่ไม่ได้เล็กหรือหดสั้นไปเหมือนส่วนอื่นเลยและกุมเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วเริ่มคลึงเบา ๆ
ในตอนนั้นนั่นเองที่จางเฮ่อ ถึงกับกลั้นหายใจเอาไว้ และส่วนนั้นของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ
จางเฮ่อกลั้นลมหายใจที่เริ่มถี่ขึ้น เมื่อปลายนิ้วนุ่มของหยางซินขยับเร็วขึ้นจนกระทั่งท่อนเนื้อของเขาแข็งจนเต็มลำ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอได้ยินมาว่าหลังจากได้รับบาดเจ็บส่วนนี้ของเขาก็ใช้งานไม่ได้จึงไม่ได้แต่งงานใหม่อีก แต่ว่าสิ่งที่ขยายจนเต็มมือนี่คืออะไร
"ทำไมใหญ่แบบนี้"
ให้ตายเถอะ แค่เพียงจะพิสูจน์ว่าเขายังใช้งานได้หรือเปล่าแต่ตอนนี้เมื่อเห็นของใหญ่อยู่ตรงหน้า แถมเป็นของผู้ชายที่เธอคิดจะยั่วยวนเขาเธอจึงเปลี่ยนความคิดทันที
เธอหันมามองหน้าเขา จางเฮ่อยังคงหลับตาและเธอคิดว่าเขายังหลับและไม่รู้สึกอะไร ทั้ง ๆ ที่ในตอนนี้ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำจนไปถึงใบหู เธอไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เพราะว่าในห้องนี้นับว่ามืดเกือบจะสนิท
เพียงแต่ว่าแม้จะมืดแค่ไหน ร่างกายขาวผ่องของหยางซินกลับสะท้อนออกมาราวกับเรืองแสงได้ เขาหรี่ตามองผู้หญิงร่างอวบที่กำลังกอบกุมแท่งเนื้อของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกกระหายอยาก
หยางซินสวมชุดนอนบางเบา สีขาวกลืนไปกับผิวของเธอ เต้าของเธอใหญ่กว่าเต้านมของหยางเหมยภรรยาของเขา รูปร่างก็อวบอัดน่าฟัดน่ากอด ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความคิดเป็นอื่นกับน้องเมียคนนี้มาก่อน จนกระทั่งหลังจากที่หยางซินเริ่มเอาใจใส่เขา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาก็เริ่มสั่นคลอน
เธอบอกว่าเธอเอายานอนหลับให้เขากิน แน่นอนว่าต้องเป็นยาประหลาดสีขาวที่เพิ่มขึ้นมาใหม่เม็ดหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาไม่ได้กินเพราะเกรงว่าหยางซินจะถูกพี่สาวสั่งให้วางยาและฆ่าเขา
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่ายานั่นจะเป็นยานอนหลับ และน้องเมียของเขากำลังก่อเรื่องที่ไม่สมควรขึ้น
เขาไม่ใช่คนเลวที่คิดจะลากน้องเมียเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทว่าริมฝีปากเล็กที่เผยออ้าแล้วพูดออกมาว่า
"ฉันอยากดูดเอ็นใหญ่พี่จังเลย"
จากนั้นก็ครอบปากลงมาอย่างเร่งร้อน เพียงริมแท่งเนื้อของเขาผลุบเข้าไปในปากเล็ก จางเฮ่อก็แทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ จากที่เขาหมดแรงเพราะฝึกเดินมาเมื่อครู่ ตอนนี้แทบจะลุกขึ้นมาแล้วอุ้มน้องเมียเย่อไปรอบ ๆ ห้องให้หนำใจ
เต้านมใหญ่อวบนุ่มกำลังเสียดสีหน้าขาของเขา มือหนาของจางเฮ่อต้องกำเอาไว้แน่น ไม่ให้ตัวเองเผลอขยับไปขยำ สองมือของหยางซินรูดแท่งเอ็นใหญ่เป็นจังหวะ ปลายลิ้นไล้เลียไปรอบ ๆ หัวบานแดงฉ่ำทั้งจูบทั้งดูดจนเขาต้องกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้ส่งเสียงครางออกมา
เสียงหวานกระเส่าพูดเบา ๆ
"พี่ผอมไปทั้งตัวจนเหลือแค่กระโดก ที่จริงเนื้อทั้งหมดของตัวพี่มารวมกันที่ตรงนี้ใช่หรือเปล่า"
เธอดูดเลียอย่างเชี่ยวชาญ ลากลิ้นตวัดเลียที่ปลายหัววนรอบ ๆ และวนต่ำลงมาเลียไปจนถึงไข่ของเขายังอมเอาไว้ในปาก จากนั้นก็ดุนลิ้นไปมา จากเฮ่อแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว ในใจได้แต่สงสัยว่า
เด็กสาวที่ยังไม่แต่งงานอย่างหยางซินทำไมถึงได้มีท่าทางที่ชำนาญขนาดนี้กัน!
