ตอนที่ 9 : พบกันแล้ว
ตอนที่
[7]
พบกันแล้ว
ด้านหยวนซีเวยที่กำลังนอนหลับสบายจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นที่ด้านล่าง นางที่มีความระแวดระวังอยู่แล้วจึงสะดุ้งตกใจจนเกือบตกต้นไม้ที่กำลังนอนอยู่ ดีที่นางยังทันได้ตั้งสติและคว้าลำต้นของมันไว้ได้
อู้ว เกือบไปแล้ว....
แต่เมื่อมองลงไปด้านล่างก็พบกับแววตาคมกริบของใครบางคน
เจิ้งซีฮัน!
“เอ่อ…. คือว่าข้า....”
“เป็นสตรีจากที่ใดกัน นี่เจ้า......” เจิ้งซีฮันกำลังจะถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มาจากที่ใด แต่เมื่อเห็นใบหน้าของนางชัดเจนแล้ว นี่มันสตรีเมื่อวานนี้ที่เขาช่วยเหลือนี่
“เจ้ามาทำอันใดที่นี่” เขาเลือกถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทั้งยังกดสายตาลงเล็กน้อย พลางนึกถึงคำของมารดาที่กล่าวกับเขา
หรือว่าสตรีผู้นี้จะคิดเช่นนั้นจริง ๆ
คิดจะเข้าหาเขา....
ด้านหยวนซีเวย นางกำลังคิดว่านางจะตอบเขาอย่างไร ยิ่งได้สบกับสายตาคู่นั้น ขนก็ลุกไปทั่วสรรพางค์กาย
เหตุใดต้องทำสายตาเย็นชาทั้งยังน่ากลัวเช่นนั้นเล่า!
“คุณชาย ข้ามาดีนะเจ้าคะ ไม่ได้มาร้ายแต่อย่างใด”
“สตรีดี ๆ ที่ใดจะมาปีนต้นไม้มานอนที่ข้างของเรือนของบุรุษเช่นนี้”
“ข้ามิใช่สตรีที่ดีมาก แต่ข้าก็ไม่ได้เลวร้าย” หยวนซีเวยกล่าวเสียงแผ่ว
“เช่นนั้นเจ้าลองบอกข้า ว่าเจ้าทำเช่นนี้เพราะเหตุใด”
นางเม้มปากทั้งยังมีแววตาสับสน แต่หากวันนี้ไม่ทำสิ่งใด เขาคงไม่ให้นางมาอีก
เอาละ
บอกก็บอก!
“ข้า.... ข้าเพียงอยากเห็นหน้าท่านก็เท่านั้น”
“…..”
พูดออกไปแล้ว
นางไม่กล้าสบสายตาเขาเลยสักนิด
ด้านเจิ้งซีฮันที่ได้ยินเช่นนั้น ก็มีความคิดบางอย่างในใจ
นางเป็นที่ดังมารดาว่าจริง ๆ
“เจ้ากลับไปซะ แล้วอย่าทำเช่นนี้อีก เพราะไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”
“ไม่นะ คุณชายข้าไม่กลับ ข้าเพียงจะอยู่บนนี้เท่านั้น ข้าจะไม่รบกวนท่านเลยแม้แต่น้อย อย่าไล่ข้าเลย”
“ไม่ว่าเจ้าจะทำเช่นไรข้าก็ไม่ยินยอม”
“เพราะเหตุใด....”
ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกน้อยใจขึ้นมา
เขาเย็นชาเหลือเกิน
และเมื่อเขากล่าวประโยคต่อมา นางก็มองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะข้าไม่ชอบสตรีที่หวังสบายทางลัด”
“…..”
“เจ้าเข้าหาข้าเช่นนี้ คงมีจุดประสงค์ในใจ ฉะนั้น เก็บความคิดของเจ้าแล้วกลับไปซะ”
นี่เขาคิดว่านางจะ...
แม้จะมีส่วนถูกที่นางเข้าหาเขา แต่...นางไม่ได้หวังไปไกล นางเพียงอยากเห็นเขาไปนาน ๆ ก็เท่านั้น
“ข้าไม่กลับ คุณชายข้าหวังเพียงได้เฝ้ามองท่านจากที่ไกล ๆ ไม่ได้หวังเข้าหาเพื่อปีนเตียงท่านเสียหน่อย”
“สรุปว่าเจ้าจะไม่ไปใช่หรือไม่”
“ใช่ ข้าจะไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น” นางและเขาจ้องตากันอย่างไม่มีผู้ใดยอมละสายตา
จนในที่สุดเขาก็กล่าวขึ้น
“หึ ได้ วันนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้า หลังจากวันนี้ผ่านไปแล้ว จงอย่ากลับมาที่นี่อีก เพราะหากเจ้ามา ข้าจะตัดต้นไม้นี่ทิ้งทั้งยังจะให้คนของทางการจับตัวเจ้าไปด้วย!”
“คนใจร้าย!” ว่าแล้วนางก็ทำท่าคล้ายจะร้องไห้ แต่ก็สกัดกั้นตัวเองไว้ พร้อมทั้งปีนขึ้นไปยังจุดที่สูงขึ้นและหันหน้าหนีเขา
เจิ้งซีฮันที่เห็นเช่นนั้นก็หันหลังเดินไปที่เรือนของตนและปิดประตูเสียงดัง
ปัง!
ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ไปที่ไหนไกล เพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือของตนที่อยู่หลังบานประตูนั่น
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนกระทั่ง
โครกกก
เสียงบางอย่างดังขึ้นมา นี่มันเสียง...
ว่าแล้วก็เปิดประตูและมองไปที่ต้นไม้ด้านนอกกำแพงนั่น เขาไม่แน่ใจจึงเดินออกไปดูใกล้ ๆ อีกครั้ง
นางหายไปแล้ว!
ก่อเรื่องแล้วก็หายไปหรือ
ด้านหยวนซีเวยที่รีบกระโดดลงจากต้นไม้ด้วยความรวดเร็ว ก็ได้แต่กุมท้องของตนเองวิ่งจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด
ทุกอย่างกำลังจะดีแท้ ๆ
แต่ท้องเจ้ากรรม จู่ ๆ ก็ดังโครกครากขึ้นมา
ใช่แล้ว! นางกำลังหิว คิดแล้วนี่ก็น่าจะปลายยามเว่ยแล้ว นางยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ไม่แปลกที่นางจะหิวเช่นนี้ แล้วเขาผู้นั้นเล่า
นางไม่รู้ว่าเขาได้กินอันใดบ้างหรือยัง เพราะเขาปิดประตูหน้าต่างมิดชิด แต่อย่างไรแล้วเจิ้งฮูหยินคงไม่ปล่อยให้บุตรชายทนหิวเป็นแน่
เมื่อคิดได้ดังนั้น นางจึงเดินไปหาอะไรกินก่อน วันนี้คงต้องพอเพียงเท่านี้ไม่เช่นนั้น เขาอาจจะรำคาญนางจนให้คนมาจับนางไปจริง ๆ ก็ได้
เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปใหม่ และนางจะต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้
วันรุ่งขึ้น
วันนี้นางเตรียมตัวดีกว่าเดิม เรื่องเมื่อวานนางได้บอกกล่าวให้ท่านแม่ฟังบางส่วนแล้ว ท่านแม่ฟาดเข้าที่ไหล่ของนางอย่างไม่จริงจัง ทั้งยังกล่าวว่านางกล้านัก มีสตรีผู้ใดกล้าทำเช่นนี้บ้าง แต่ก็เพียงเท่านั้นไม่ได้ว่ากล่าวอันใดรุนแรง ทั้งยังบอกให้นางระวังตัวอีก
นางเดินมองซ้ายมองขวาจากนั้นก็รีบเดินไปที่กำแพงด้านข้างจวนนายอำเภออีกครั้ง จวบจนกระทั่งถึงจุดต้นไม้ใหญ่ นางก็ปีนขึ้นไปเพื่อประจำที่จุดเดิมทันที
“นี่เจ้า เหตุใดจึงมาอีก”
!!!
เมื่อได้ยินเสียงเยือกเย็นจากด้านล่าง หยวนซีเวยก็สะดุ้งตกใจทันที เหตุใดวันนี้เขาจึงเห็นนางเร็วนัก
“คุณชาย ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่รบกวนท่าน เมื่อวานข้าก็ทำได้ดีมิใช่หรือ”
“ดีอย่างไร เมื่อวานนั่นเสียงอะไร”
เขาได้ยินจริง ๆ ด้วย!
นางก็ยังแอบหวังว่าเขาจะไม่ได้ยิน
“ข้าเพียงแค่หิวเท่านั้น แต่วันนี้ข้าเตรียมนี่มาด้วย” ว่าแล้วนางก็หยิบบางอย่างออกจากถุงผ้าที่เตรียมมา
“คุณชาย ข้าเตรียมแป้งย่างมันเทศมา รับรองว่าวันนี้ไม่มีเสียงอันใด รบกวนท่านแน่” กล่าวจบก็ยิ้มกว้าง เจิ้งซีฮันชะงักไปครู่หนึ่งกับรอยยิ้มนั่น
เหตุใดสตรีผู้นี้จึงมีรอยยิ้มที่สดใสนัก...
แต่ไม่นานเขาก็กลับมาเป็นเช่นเดิม
“คุณชายท่านเอาด้วยหรือไม่ ข้าเตรียมมาเผื่อท่านด้วย” นางยื่นถุงแป้งย่างที่ว่าออกมา
“ไม่!” แต่เขากลับปฏิเสธและเดินไปที่เรือนและปิดประตูเสียงดังอีกแล้ว
หยวนซีเวยมีท่าทีเศร้าสร้อย แต่ไม่นานก็สามารถปลุกใจตนเองขึ้นมาได้ ดีเพียงใดแล้วที่เขายังไม่ไล่นางตอนนี้ ทั้งยังไม่ได้ให้คนมาตัดต้นไม้และให้คนมาจับนาง ดีแล้ว ๆ
จากนั้นเวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม เขาก็เปิดประตูออกและเดินมาหานางที่ต้นไม้อีกครั้ง
เจิ้งซีฮันมองสตรีตรงหน้าที่มีท่าทางดีใจเมื่อเห็นเขา ในใจของเขาก็รู้สึกมีความผิดปกติเกิดขึ้น
“นี่ หยวน....” เขาเอ่ยเรียกนาง จากนั้นก็เงียบเสียงไป
“หยวนซีเวย คุณชายข้าชื่อหยวนซีเวย ท่านมีอันใดจะพูดกับข้าหรือ”
“อ้อ อืม มีน่ะมีแน่ แต่เจ้าจะให้ข้าแหงนคอเพื่อพูดคุยกับเจ้าเช่นนี้ตลอดไปเลยหรือ ไม่คิดว่าจะเป็นการเสียมารยาทบ้างหรือ”
“อ่า แล้วคุณชายจะให้ข้าทำอย่างไร”
“ลงมานี่”
