บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 อเมซิ่งต่างโลก

“อืม ทำไมรู้สึกอึดอัดจัง” หวานเจี๊ยบรู้สึกอึดอัดหายใจแทบไม่ออก เหมือนมีอะไรบางอย่างกดทับที่หน้าอกด้านขวาของตน ไม่ว่าจะพยายามพลิกตัวอย่างไรก็ไม่สามารถขยับได้ดั่งใจเอาเสียเลย

แต่ก่อนที่หญิงสาวจะลืมตาตื่นขึ้น กลับมีภาพหนึ่งในความทรงจำเก่าหวนกลับมามากมาย แต่แปลกตรงที่ตัวเธอเองไม่ได้รู้สึกปวดหัว หรือปวดร่างกายเลยสักนิด ทุกอย่างมันไหลเวียนเข้ามาไม่หยุดหย่อน ภาพความทรงจำเก่าก่อน

ยิ่งภาพความเดิมไหลเวียนเข้ามามากเท่าไหร่ น้ำตาของเธอก็หลั่งไหลออกมาเป็นสายมากเท่านั้น สตรีนางหนึ่งที่ทอดทิ้งทั้งลูกและสามีไปเพื่อเอาตัวรอดเพียงคนเดียว เด็กน้อยวัยเพียงสี่หนาวร้องไห้น้ำตานองหน้า ร้องหาท่านแม่ เขาเอาแต่ร้องเรียกท่านแม่อย่าไป อย่าทิ้งเสี่ยวหลงไป ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับเลยสักนิด

สามีที่ป่วยนอนติดเตียงขยับตัวไม่ได้ เอาแต่จ้องมองและตัดพ้อในความใจร้ายภรรยารัก

ลูกก็ยังเล็กสามีพิการกลับทิ้งพวกเขาไปอย่างไม่ไยดี ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนางเองที่เป็นคนอยากได้พวกเขามา พอได้ความรักแล้วกลับไม่เห็นคุณค่า หนีไปพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายทิ้งให้สองพ่อลูกต้องอดตายในกระท่อมหลังเก่าผุพัง

สมควรแล้วที่ในชาตินี้ตัวเธอถูกพ่อทอดทิ้ง ส่วนแม่ก็ไม่เคยจะดูแลหรือให้ความสนใจเธอเลยสักนิด ขอบคุณสวรรค์ที่ให้เธอได้กลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง คราวนี้จะขอแก้ตัวใหม่ไม่ทิ้งพวกเขาอีกแล้ว

หลังจากภาพทุกอย่างมลายหายไป หวานเจี๊ยบหรือก็คือจือหลินในโลกนี้ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น ภาพแรกที่นางเห็นเป็นเจ้าก้อนกลมๆ สีดำอยู่ตรงหน้าอก และยังมีแขนเล็กๆ ของเจ้าตัวพาดผ่านกอดคอนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย หญิงสาวเผลอยิ้มออกมากับความน่ารักของบุตรชาย ‘เสี่ยวหลง’ คงจะแอบมานอนกับมารดาอีกแล้วสินะ

นางคงย้อนเวลามาในช่วงที่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกำลังมีปัญหา เพราะตัวนางเองที่กำลังหูเบาหลงเชื่อสตรีนางหนึ่งในหมู่บ้าน เป่าหูให้หนีไปกับชายอื่นพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของสามี ต่อไปนี้จะไม่มีจือหลินหญิงสาวหูเบาและอ่อนแอผู้นั้นอีกต่อไปแล้ว จะมีเพียงแม่และภรรยาผู้ถวายชีวิตเพื่อครอบครัว

“ท่านแม่ ข้าขอโทษอย่าโกรธเลยนะขอรับ” เด็กน้อยที่เพิ่งตื่นนอน แต่กลับพบว่ามารดาจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ร่างเล็กรีบถดถอยกายลงจากตัวมารดาทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกดุด่าเหมือนเช่นเคย

เมื่อคืนด้วยความที่อยากนอนกับมารดามาก เขาแอบเข้าห้องท่านแม่คิดว่าขอให้ได้นอนกอดเพียงเล็กน้อยก็จะกลับมานอนห้องของตนเช่นเดิม แต่ไม่คิดว่าจะหลับลึกจนถึงเช้าอีกทั้งท่านแม่ยังตื่นมาเห็นก่อนที่เขาจะตื่นด้วยซ้ำ

เด็กน้อยกลัวจะทำให้มารดาโกรธและไล่เขาออกจากห้องไปเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง จากนั้นก็จะทำโทษโดยการให้เขาอดอาหาร พร้อมกับลงมือและดุด่า ด้วยหลายเดือนให้หลังมานี้ท่านแม่แปลกไปมาก ไม่ใจดีและอ่อนหวานเช่นเดิมอีกต่อไปแล้ว

โธ่ ลูกรักแม่ขอโทษ จือหลินให้สัญญากับตนเอง ต่อไปนี้แม่จะไม่ทำให้เจ้าต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว เมื่อเห็นบุตรชายเริ่มสะอื้นเพราะรู้สึกผิดที่ขัดคำสั่งมารดา หญิงสาวก็แทบจะร้องไห้ตามบุตรชายด้วยความสงสาร

“เสี่ยวหลงไม่ต้องร้อง” มือบางยื่นออกไปหมายจะเช็ดน้ำตาให้ ทว่าเด็กน้อยกลับถอยกายออกห่างอย่างรวดเร็ว

“ขอรับ ข้าจะเชื่อฟังท่านแม่” เสี่ยวหลงรีบกลั้นก้อนสะอื้นทันที หากเขาทำตัวดีๆ มารดาก็จะรักเขามากขึ้นอย่างแน่นอน

“หิวหรือไม่ เดี๋ยวแม่จะทำอะไรให้กินนะ” ตอนนี้ก็สายมากแล้ว เสี่ยวหลงของนางกำลังโตไม่ควรอดอาหารสักมื้อ นางอยากจะหยิกตนเองให้เนื้อเขียวนักใจร้ายกับลูกชายที่น่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร

“ขอรับ” เสี่ยวหลงเริ่มยิ้มทั้งน้ำตา ถึงจะยังหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่จิตใจที่อ่อนแอมันเรียกร้องหาความรักความอบอุ่นมากกว่า เป็นครั้งแรกเชียวนะที่ท่านแม่พูดจาดีกับเขาเช่นนี้

“เสี่ยวหลงเจ้าช่วยไปดูซิว่าท่านพ่อตื่นหรือยังถ้าตื่นแล้วเอาน้ำให้ท่านพ่อบ้วนปากก่อนนะ”

“ขอรับท่านแม่” ท่านแม่ว่าอย่างไรเขาก็ว่าอย่างนั้น ขอเพียงได้ความรักแค่นี้ก็พอแล้ว เด็กน้อยวิ่งออกไปนอกบ้านกลับมาอีกครั้งพร้อมกับขันน้ำในมือ เดินตรงไปห้องนอนของบิดาพร้อมกับร้องเรียกเสียงดัง

“ท่านพ่อ”

จือหลินที่ได้เห็นความสดใสของเด็กน้อยกลับมา นางก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ลูกก็น่ารักถึงเพียงนี้ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนางทิ้งไปได้อย่างไรกันนะ

หญิงสาวเข้ามาในครัวพร้อมกับสำรวจหาของที่พอจะทำอาหารได้ แต่สิ่งที่เห็นมันแทบไม่มีอะไรเลย ถังข้าวสารที่มีเพียงข้าวแค่หนึ่งกำมือ เครื่องปรุงก็มีแค่เกลือนิดหน่อย และมีข้าวโพดแห้งที่ตากไว้อยู่เสาบ้านสองฝักเท่านั้นเอง

“เฮ้อ.. ไม่มีอะไรพอจะทำอาหารได้เลยสินะ”

หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง ถ้าหากย้อนกลับมาแล้วมีของวิเศษเหมือนดั่งในนิยายบ้างก็คงจะดี แต่มันจะมีได้อย่างไรในเมื่อมันไม่ใช่นิยาย จือหลินเตรียมก่อกองไฟเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องกับข้าวค่อยว่ากัน ตอนนี้มีข้าวหนึ่งกำมือก็ต้มมันใส่เกลือทิ้งไว้ก่อน คิดเอาไว้ว่าจะเดินออกไปดูป่ารอบบ้านสักหน่อย เผื่อได้อะไรมาทำเป็นกับข้าวบ้าง

“แมลงหวี่นี่ก็ตื่นเช้าเหลือเกิน ตอมหน้าอยู่ได้” หญิงสาวบ่นอุบ เมื่อมีแมลงหวี่บินวนไปมาตรงหน้าจนนางรู้สึกรำคาญ จึงได้เผลอตบไปครั้งหนึ่ง

ปิ๊ง!!

นั่นมันไอแพดที่ป้าแตนให้เธอมาก่อนจะตกน้ำตายนี่นา มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน หญิงสาวเอื้อมมือไปจับปรากฏว่ามันจับได้แตะต้องได้ทำทุกอย่างได้เป็นปกติแต่ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจก็คือ นอกจากหน้าจอที่ฉายเมนูแอปพลิเคชันต่างๆ แล้วมันยังฉายเป็นภาพใหญ่ขึ้นมาราวกับเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่เคยดูในหนังเรื่องไอรอนแมนเลย

“อเมซิ่งมาก ไหนลองเข้ากูเกิลดูหน่อยซิว่าจะได้ไหมนะ” นิ้วเรียวงามพิมพ์คำว่าชอปปิงมาร์เก็ต จากนั้นจึงหาวัตถุดิบอาหารต่าง ๆ ก่อนจะกดค้นหาทุกอย่างก็ได้ปรากฏออกมาทั้งสองหน้าจอ จากนั้นนางได้ลองปล่อยมือทว่าไอแพดก็ไม่ร่วงลงสู่พื้นดินมันยังคงลอยอยู่อย่างนั้นบนอากาศ

นี่ว่าแปลกแล้ว ยังมีน่าประหลาดใจยิ่งกว่า หากนางจิ้มนิ้วลงสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะออกมาจากหน้าจอทันที

“โห เป็นของจริงหรือนี่ สบายแล้วเรา” จือหลินเอาออกมาเพียงของที่จำเป็น หากนำออกมามากกว่านี้คนในบ้านก็จะสงสัยเอาได้ เอาไว้บอกความจริงแล้วค่อยว่ากัน ถึงตอนนั้นก็คงจะไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่างนี้

หญิงสาวจัดการเทข้าวสารเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งถ้วย ข้าวต้มที่มีแต่น้ำมันจะไปอร่อยได้อย่างไรกัน ต้องได้กินเต็มเม็ดเต็มหน่วยสิถึงจะถูก จากนั้นจึงได้ทำกับข้าวเป็นผัดผักน้ำมันหอย ครั้นจะใส่เนื้อเข้าไปก็ไม่ได้อีกยุคนี้หากไม่ร่ำรวยจริงก็จะไม่มีเนื้อให้กิน หรือถ้าจะกินชาวบ้านตาดำๆ ก็จะเก็บเงินไว้แล้วค่อยซื้อเนื้อมาทำกินฉลองปีใหม่ได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น เธอจึงเลือกที่จะทำไข่ตุ๋นเนื้อเนียนแทน คิดว่าเสี่ยวหลงของนางต้องชอบมันแน่

หลังจากจัดการเรื่องในครัวเสร็จ จือหลินก็ได้นำอาหารกับข้าวต้มเกลือร้อนๆ ออกมาจัดวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะเข้าไปในห้องของสามี เพื่อจะได้ช่วยเขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวป้อนกินข้าว แต่ทว่าพอเปิดประตูเข้าไปกลิ่นเหม็นจากในห้องได้โชยเข้าจมูกอย่างจัง พร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นตามมา

“ออกไป ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel