ปฐมบท 2
ริมระเบียงห้องนอนชั้นสาม
หญิงสาวคนหนึ่งยืนเหม่อลอย ดูหดหู่ไร้ชีวิตชีวา เธออายุแค่ยี่สิบกว่าปี นับเป็นช่วงเวลาที่ควรจะดีที่สุด สวยสดใสเปล่งประกายที่สุดด้วยวัยที่สะพรั่งดุจดอกไม้เบ่งบานเต็มที่ บัดนี้กลับคลับคล้ายดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาพร้อมโรยราเต็มที
ทั้งที่เธอเพิ่งแต่งงานอยู่กินกับสามีแสนดีไม่ถึงปี พ่อแม่สามีก็รักและใส่ใจเธอดีเหมือนลูกสาวแท้ๆ
แต่ทำไมถึงรู้สึกว่างเปล่าไร้จุดหมายมากขนาดนี้
เหงาเหลือเกิน...
เหงาทั้งกาย เหงาทั้งใจ
ลลนา ถอนหายใจเหนื่อยกับสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่ในหัว มันคือภาพชวนปวดใจของผู้หญิงทุกคน
ภาพนั้นคือสามีของเธอกำลังเล่นรักเริงสวาทอยู่กับผู้หญิงอีกคน
เป็นคลิปวีดีโอที่เริ่มต้นด้วยฝ่ายหญิงยั่วยวนก่อน ตอนแรกสามียังปฏิเสธ ออกท่าทางขัดขืนทำเหมือนถูกผู้หญิงกระทำชำเราฝ่ายเดียว แต่ไม่นานก็เริ่มทนไม่ไหว ค่อยๆเคลิ้มแล้วก็เปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกอย่างร้อนแรง กระทั่งเรียกได้ว่า ‘แซ่บตัวพ่อ’ เลยทีเดียว
คลิปนั้นถึงมือเธอได้อย่างไรน่ะเหรอ
ก็เพราะฝ่ายหญิงคงอยากให้เธอรู้จึงส่งมาให้ดู
พอถามสามีถึงได้รับคำตอบที่แสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษแสนดีมีความรับผิดชอบเต็มเปี่ยม
‘มันพลาดไปแล้ว ไม่รับผิดชอบไม่ได้’
‘แต่วินไม่ได้รักเขา วินรักแค่นาคนเดียว’
‘นา ผู้หญิงคนนั้นท้อง วินต้องรับผิดชอบ’
‘วินรับแค่นาเป็นคู่สมรส ภรรยาออกหน้าออกตา แม่กับเด็กก็อยู่ในที่ทางของเขา พวกเราอยู่กันด้วยดีเถอะ’
พูดแบบนั้นแท้ๆ แต่ตอนนี้ก็ไปอยู่กับนังนั่น!
‘เขาโทรมาร้องไห้บอกว่าลูกป่วย วินต้องไปดูแล เด็กไม่มีความผิดอะไร วินไม่ดูดำดูดีได้เหรอ’
เป็นเด็กอ้วนท้วนสมบูรณ์ที่บังเอิญป่วยทุกวันและเวลาเดิมซ้ำๆ เพิ่มเติมคือต้องดูแลกันทั้งคืน
ลลนากำลังหมุนตัวเดินห่างจะระเบียงเพื่อเข้าห้อง แต่แล้วจู่ๆ พลันมีมือคนหนึ่งผลักเธอจนเซถอยหงายหลัง
“กรี๊ด! คุณผู้หญิงฆ่าตัวตาย!”
ท่ามกลางแรงลมหน้าหนาวที่กรีดผิวหน้าจนแสบกับสติที่พร่างพราย เสียงกรีดร้องของป้าแม่บ้านดังแทรกเข้ามาเบียดบังความอื้ออึงที่ข้างใบหูของลลนา ทำเอาเธอได้ยินอย่างชัดเจน
‘ฆ่าตัวตาย’ เหรอ?
เปล่านะ! เธอถูกผลักตกลงมาต่างหาก!
อั่ก! ลลนากระอักเลือดออกมาทันทีที่ร่างของเธอกระแทกพื้นคอนกรีตอย่างแรง สติที่พร่าเลือนเห็นภาพเลือนลางท่ามกลางเสียงพูดคุยอ่อนจางของคนงานที่วิ่งมามุงดู พวกเขาโวยวายอะไรอีก เธอไม่รู้ เพราะภาพต่อมาคือความดำมืดเหมือนไฟดับตัดฉับ
งานศพของลลนาถูกจัดขึ้นในวัดกลางเมืองอย่างสมเกียรติตามฐานะทางสังคม
แม่กับพ่อเลี้ยงนั่งเคียงกันอยู่ด้านหน้าสุด รวมถึงพ่อแท้ๆกับแม่เลี้ยงของลลนาก็อยู่ด้วย
พวกเขาทั้งสี่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่อายสายตาของบรรดาแขกเหรื่อในงาน ต่างโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของตน ทั้งยังปลอบใจกันและกันอย่างไร้อคติ
ไม่ไกลกันคือสามีของลลนาที่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์ แบบนี้จึงไม่มีใครเห็นสีหน้ากับแววตาของเขา ต่างต้องคาดเดาไปเองว่าเสียใจหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน
ห่างออกมานอกศาลาสวดอภิธรรมค่อนข้างไกลคือกลุ่มเพื่อนๆ ของลลนา
พวกเธอกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
“ยัยนาฆ่าตัวตายจริงใช่มั้ย? ฉันไม่แปลกใจ”
“นั่นสิ ฉันก็คิดว่างั้น เป็นคุณหนูลูกคนเดียวก็จริง แต่บ้านแตกสาแหรกขาด มีทั้งพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงครบ หึหึ”
“แต่นางโชคดีได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ แบบกวินนะ แถมพ่อแม่สามียังรวยมาก เอ็นดูนางสุดๆ ทั้งซื้อบ้านให้แถมส่งแม่บ้านกับคนงานให้รับใช้หลังแต่งงานอีก
“อีกอย่าง เพิ่งได้แต่งแท้ๆ ควรดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ถึงจะถูก”
“โอ๊ย แกก็ทำเป็นใสซื่อเนาะ นางเป็นคนนิสัยโลภ ทั้งโง่ทั้งบ้า เห็นแก่ตัวเอาแต่ใจไม่สิ้นสุด ดีแค่ไหนก็ไม่พอ นางไม่เคยถูกใจอะไรสักอย่าง”
“เอ๊ะ! หรือว่าผัวแอบมีเมียน้อย”
“ไม่น่าใช่! ผัวนางเรียบร้อยจะตาย รักนางมากด้วย เชื่อฟังทุกอย่าง ครับๆ ทุกคำ คบกันตั้งแต่ยังเรียนไม่ใช่รึไง ถ้าคนจะมี มันมีนานแล้วไหม”
“ใช่ๆ แต่ถ้ามี ต่อให้เป็นแค่กิ๊กล่ะก็ หูตาสัปปะรดอย่างพวกเราเนี่ย ต้องได้ข่าวได้เห็นอยู่แล้ว”
“แหม ทำเป็นพูด ถ้ามีจริง แกจะไปเตือนนางรึไง”
“เรื่องอะไรต้องไปเตือน แค่มีเรื่องให้เม้ามอยเพิ่มขึ้นอีกเรื่องเท่านั้นแหละย่ะ” อีกอย่าง” หล่อนกระซิบ “ผัวนางหล่อตรงไหนก่อน”
“ไม่หล่อแต่ดี๊ดี เรียบร้อยไร้พิษภัยนะแก”
“โอ๊ย! แต่เป็นฉันไม่เอานะผู้ชายแบบนี้”
“ฉันก็ไม่เอา ใครจะเอา”
“แหม ว่าไปเรื่อย ยัยนาเอานะ”
“งั้น ยัยนาคงฆ่าตัวตายเพราะผัวดีเกินไป ไม่แซ่บ”
“นั่นดิ”
“เออ ฮ่าๆ”
เปล่าเว้ย! ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย
ลลนาตะโกนก้อง
ร่ำร้องแบบนั้นซ้ำๆ แต่ไม่มีใครได้ยินสักคน
มันเป็นฆาตกรรมเฟ้ย สรุปว่าฆ่าตัวตายกันอยู่ได้! ทำไมไม่สงสัยแล้วช่วยกันหาหลักฐานพิสูจน์ตัวคนร้าย? สืบสาเหตุการฆ่าสิ! อะไรจงใจให้ฆาตกรทำแบบนั้น?
ปล่อยให้เธอตายอย่างค้างคาใจได้ไง?
ลลนายืนมองงานศพตัวเองอย่างโมโหจนร้องไห้ กระทั่งสองตาแดงก่ำกลายเป็นสีเลือดน่าเกลียดน่ากลัว
นี่มันเรื่องบ้าอะไร เธอทำอะไรผิดพลาดไปงั้นเหรอ
ทำไมสิ่งที่เห็นมันกลับตาลปัตรไปหมด
เพื่อนที่คบหากันด้วยความสนิทใจอย่างดีมาตลอด อยู่ด้วยกันและห่วงใยกันสุดๆ ตอนที่เธอไม่มีใครก็มีแต่พวกหล่อนที่อยู่เป็นเพื่อน ชวนเที่ยวคลายเหงา ตอนนี้กลับนินทาหยาบคายและดีใจที่เธอตาย
แต่พ่อๆ แม่ๆ ที่เธอไม่สนิท ไม่เคยวางใจได้ ทั้งยังทะเลาะบาดหมางตลอดเวลาจนห่างเหินไม่อยากมองหน้า ไม่เคยห่วงหา ไม่คิดอยู่ด้วยกัน แทบจะเรียกว่าเกลียดกันด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกท่านกลับร้องไห้เหมือนจะขาดใจ เอาแต่โทษตัวเองไม่หยุด อยู่โยงเฝ้าโลงศพเธอทั้งวันทั้งคืนไม่เป็นอันกลับไปหลับไปนอนที่บ้าน ธุรกิจการงานก็ยกเลิกทั้งหมดเพื่ออยู่จัดงานศพด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ
ที่แท้พวกท่านทุกคนรักเธอขนาดนั้น
แล้วก่อนนี้เธอทำอะไรลงไป
ทุกเรื่องที่ผ่านมามันเริ่มผิดพลาดตรงไหน
ลลนาคิดจนตาร้อน ปวดหัวแทบระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
เรื่องเพื่อนชั่วช่างมันเถอะ เสียดายก็แต่พ่อๆ แม่ๆ ที่เธอเหมือนจะทำพลาดไปในหลายๆ เรื่อง
อยากขอโทษพวกท่านเหลือเกิน
หากมีโอกาสกลับไปแก้ตัวใหม่ก็คงดี
