อีกาทองคำ
‘เอาดีๆ’ ผมคิดในใจเมื่อได้เห็นรถยนต์สีดำเกือบสิบคันขับผ่านร้านซักผ้าไป
‘แม่งมากกว่าการตั้งค่าหัวชัวร์’ ผมคิดในใจอีกครั้งเมื่อได้เห็นแก็งค์มอเตอร์ไซต์ขับผ่านไปอีก ผมมั่นใจว่าพวกมันอาจจะไม่ได้มาด้วยกัน แต่เป้าหมายคือสิ่งเดียวกันแน่ๆ นั่นก็คือผม
“เอ๊ะ” ผมส่งเสียงออกมาเมื่อได้เห็นรถทหารวิ่งผ่านไป ซึ่งป้ายทะเบียนมันก็คุ้นๆคล้ายกับรถของหน่วยรบพิเศษที่ผมรู้จัก ทำให้พวกรถยนต์สีดำพากันหลีกทาง แต่ทั้งสองฝ่ายก็เข้าไปในซอยเดียวกัน มันคือซอยหอพักของผม
‘ถ้าเราหนี…มันก็จะตามไปเรื่อยๆและเริ่มเล่นแรงขึ้น’ ผมคิดในใจเมื่อนึกถึงครอบครัวและตนรอบตัว เพราะถ้ามันหาผมไม่เจอ ซึ่งผมสามารถเก็บตัวเงียบๆได้อยู่แล้ว แต่คนรอบตัวของผมจะไม่ปลอดภัย และผมก็ไม่มั่นใจว่าคุณเบนซ์จะสามารถปกป้องพวกเขาได้ตลอดหรือเปล่า แล้วนั่นยังรวมถึงเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกมากมาย
แต่ถ้าเราตัวคนเดียว…
เดี๋ยวนะ
สื่อไง!
เมื่อผมคิดอะไรได้ ผมจึงไม่รอช้าที่จะโพสข้อความบนแอปพูดคุยของมหาลัยวลัยลักษณ์ทันที ซึ่งในแอปนี้มันจะไม่บ่งบอกตัวตนของคนโพส และผมก็โพสไปว่าในซอยแสงตะวันมีทหารและกลุ่มคนจำนวนมาก มันเกิดอะไรขึ้น และจะทำให้ผู้คนลองออกมามองดูสักทาง
ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันต้องทำทุกอย่างโดยเงียบๆ แต่ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันอาจจะเป็นข่าวได้ เวลาก็ได้ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงจนรถยนต์สีดำมากมายได้ออกมาจากซอย ดูเหมือนสิ่งที่ผมทำไปมันจะได้ผล ถ้าเป็นข่าวขึ้นมามีหวังโดนสืบกันทั้งโคตรแน่ๆ
ครืด ครืด
“ผมไม่ได้อยู่หอพักผมอยู่หน้าซอย” ผมกล่าวไปเงียบๆเมื่อเบอร์ที่โทรมาคือหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ ก่อนที่จะตัดสายไปในทันที
“ฮัลโหล…คุณเบนซ์…ผมคิดว่าผมไม่สามารถซ่อนไปได้ตลอด”
“จบที่นี่แล้วผมจะเล่นพวกมันคืนครับ” ผมคิดในใจก่อนจะตัดสายกล้องวงจรปิดที่ร้านออกและดึงเมมออกมา
“ผมเชื่อใจคุณนะคุณที…แต่ครั้งนี้ผมไม่สามารถปกป้องคุณได้อย่างเต็มที่”
“เบื้องหลังของการตั้งค่าหัวมีบุคคลที่มีอำนาจมาก…รวมถึงยังมีพวกทหารรับจ้างที่หิวเงินสนับสนุนการตั้งค่าหัวนี้ด้วย” คุณเบนซ์กล่าว ซึ่งดูเหมือนเขาจะพยายามช่วยเหลือผมเท่าที่จะทำได้แล้ว
“สื่อเองก็มีอำนาจเหมือนกันครับคุณเบนซ์”
“และผมจะใช้สื่อนี่แหละพลิกเป็นโอกาสของผมรวมถึงโอกาสก้าวหน้าของบริษัท”
“เวรเอ้ย” ผมสบถออกมาเบาๆเมื่อพวกมันจอดรถหน้าซอยและเดินไปเดินมา ผมรู้ได้ทันที พวกมันคิดว่าผมจะมาแอบบริเวณนี้เพราะมีร้านมากมาย และอยู่ใกล้ถนน มันคงจะเป็นผลดีกับผมที่มาแอบบริเวณนี้มากกว่าเข้าไปในป่า เพราะพวกมันจะสามารถเก็บผมไปเงียบๆได้เลย
“อีกหนึ่งชั่วโมงทีมของเราจะถึง” คุณเบนซ์กล่าวให้กำลังใจผม
“ผมต้องการข้อมูลกับการสนับสนุนครับ…ส่วนที่เหลือผมจะจัดการด้วยตัวเอง” ผมกล่าวออกไปตรงๆ เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณเบนซ์เข้ามายุ่งมากกว่านี้ มีหวังแกอาจจะเป็นอันตรายไปด้วยได้
“อืม” คุณเบนซ์ส่งเสียงตอบกลับมาก่อนที่ผมจะวางสายไป
“เป็นไงเป็นกันวะ!” ผมกล่าวออกมาก่อนจะหยิบปืนที่คุณเบนซ์มอบให้ ซึ่งมันได้ใส่ที่เก็บเสียงไว้เรียบร้อยแล้ว
ฉึบๆ
เพล้ง
และเป็นฝ่ายผมที่ยิงเข้าไปที่คนขับรถคนแรก จนทำให้พวกมันทั้งหมดก้มตัวลงและหาต้นเสียง ซึ่งพวกมันก็บอกข้อมูลกันจนพบว่าต้นเสียงอยู่หลังร้านซักผ้า
บรื้นน
และในเวลานั้นรถทหารของหน่วยรบพิเศษก็ออกมาจากซอยพอดี พวกเขาได้ลงจากรถและหวังจะเข้าควบคุมสถานการณ์ ทำให้พวกมันหยุดชะงักและยอมกลับขึ้นรถไปแต่โดยดี
“ไม่คุ้ม!…ไม่คุ้ม!” เสียงวอร์ของคนที่อยู่ใกล้ผมดังขึ้นก่อนที่มันจะเดินกลับไปที่รถ
ฉึกๆๆๆ
แต่ไอพวกเวรที่ขับรถมอเตอร์ไซต์มันดันไม่กลัวนี่สิ พวกมันถล่มยิงปืนมาที่บริเวณหลังร้านซักผ้า ทำให้พวกรถยนต์พากันหลบเลี่ยงเพราะไม่อยากปะทะกันเอง ส่วนพวกหน่วยรบพิเศษก็ยกปืนขึ้นมายิงล้อรถของพวกมันทันที
กึกๆๆๆ
และทำให้พวกมันพยายามยิงสวนกลับไปที่รถของทหาร ฝ่ายรถยนต์จึงไม่รอช้าเมื่อสถานการณ์เป็นใจให้ พวกมันวิ่งเข้าประชิดผมอีกครั้ง
ผลั๊วะ ฉึก ฉึบๆ
พวกมันคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชาร์จผม แต่ก็โดนผมจับล็อคและจ่อปืนไปที่ขมับของมันก่อนจะยิงทะลุสมองของมันไป ก่อนที่ผมจะเล็งพวกมันอีกสองคนและยิงพวกมัน แต่ก็ไม่ได้โดนจุดสำคัญทำให้พวกมันสามารถกลิ้งหลบได้ทัน ผมจึงพลิกตัวกลับมาหลบเช่นกัน
บรื้นนๆๆ
“ค่าหัวเพิ่มเป็นห้าล้านแล้ว!” เสียงวอร์ของพวกมันดังขึ้น ไม่แปลกว่าทำไมพวกมันถึงกล้ายิงสวนหน่วยรบพิเศษแบบนี้ รวมถึงยังมีรถกลุ่มใหม่เข้ามาอีกด้วย ทำให้ผมไม่สามารถออกไปจากข้างหลังร้านซักผ้าได้
ฉึกๆๆๆๆ
แต่การยิงของพวกนักฆ่ายังคงใช้ปืนแบบเก็บเสียง ถึงแม้สถานที่ในตอนนี้จะเริ่มเละแล้วก็ตาม ส่วนพวกหน่วยรบพิเศษพวกเขาเองก็ยังไม่สามารถออกมาจากหลังรถหุ้มเกราะนั่นได้เช่นกัน เพราะพวกเขาเองก็เป็นเป้าสำหรับพวกทหารรับจ้าง
สถานการณ์ได้ตึงเครียดอยู่พอสมควร แต่ไม่ว่าใครหน้าไหนจะผ่านเข้ามาในเขตของผม ผมก็สามารถจัดการพวกมันลงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และมันดีมากที่ทางข้างข้างซ้ายของผมมันตัน ผมจึงไม่ต้องระแวงข้าง แต่ข้างหลังของผมก็ยังเป็นป่าอยู่ดี ทำให้ผมต้องมุดกระจกเข้าไปในร้านซักผ้า เพื่อรับการโจมตีจากข้างหน้าเพียงอย่างเดียว
ฉึกๆๆ
เพล้งงๆๆๆๆ
และการยิงปะทะกันทำให้กระจกและเครื่องใช้ต่างๆภายในร้านซักผ้าแตกกระจายเต็มไปหมด ซึ่งก็ไม่มีพวกมันคนไหนกล้าเข้ามาหาผม เพราะพวกมันก็ยังต้องแย่งค่าหัวกันเองอีกด้วย และยิ่งในปัจจุบันมีถึงสามกลุ่มใหญ่ด้วยกัน จนสุดท้ายแล้วกระสุนของผมก็หมดลง แต่ยังดีที่ผมหยิบปืนของพวกมันติดมาด้วยกระบอกหนึ่ง
ฟึบๆๆ
ฟึบๆ แกร้งๆ ฟูมมม
ผมได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ และมันทำให้พวกนักฆ่าพากันหยุดการโจมตีลงก่อนที่จะมีเสียงอะไรกระทบพื้นคล้ายกับขวดกระป๋อง ซึ่งขวดนั้นก็ได้สร้างควันออกมาที่รถของพวกมัน แต่แทนที่พวกมันจะถอย กลับกันพวกมันรีบขึ้นรถกันทันที
ฟึบ ฟุบๆๆๆๆ
“หืม” ผมส่งเสียงออกมาเมื่อได้ยินเสียงการโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ แต่มันทำให้ผมแปลกใจมากที่พวกนักฆ่าพากันหนี เพราะพวกมันอุตส่าห์เดินหน้ากันมาถึงขนาดนี้แล้ว
‘น้าเอก!’ เมื่อผมเห็นคนที่นำเข้ามาในร้านซักผ้าคือใคร ผมถึงกับขนลุกทันที เขาคือหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ กองกำลังอีกาทองคำ คือหน่วยรบพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย และครั้งหนึ่งผมเคยได้รับการฝึกสอนโดยตรงจากน้าเอกก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งจอมพลบัญชาการสูงสุด แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมมีความสามารถในการเป็นผู้นำมากกว่าการเป็นผู้ตาม เขาจึงสร้างทีมให้ผมขึ้นมาเป็นของตัวเอง
เมื่อผมเห็นหัวหน้าที่ผมเคารพที่สุดเดินตรงมาหาผม ผมจึงยกมือขึ้นมาวันทยหัตถ์น้าเอกทันที ผมเคารพเขามากๆ ในตอนที่ผมมีปัญหาที่สุดเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยจนต้องรับแรงกดดันมากมายถึงขั้นเกือบจะถูกพักงานกันเลยทีเดียว เพราะถูกโหวดจากสภาว่าช่วยเหลือคนผิด ผมจึงส่งข้อความหาเขาว่าไม่ต้องช่วยผม ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และนั่นทำให้ผมถูกตามจนเจอจากการส่งข้อความ
“?” เมื่อผมยกมือขึ้นมาทำความเคารพ ทำให้น้าเอกสับสนพอสมควร
“น่าสนใจดีนี่” น้าเอกกล่าวด้วยสีหน้าคาดหวังก่อนที่พวกทหารหน่วยรบพิเศษจะเข้ามาทำความเคารพน้าเอก
“ขอบคุณมากๆครับ” ผมกล่าวแทรกออกมาและยกมือไหว้ทุกๆคน ผมไม่แน่ใจว่าน้าเอกแกมาทำอะไรที่นี่ แต่ถ้ามันทำให้ผมรอดชีวิตไปได้อย่างปลอดภัย ผมก็ยินดี
บรื้นๆๆ
และอยู่ๆก็มีรถยนต์สามคันมาจอดหน้าร้านซักผ้า ซึ่งคนที่ลงมาก็คือกลุ่มคนชุดดำที่มีสัญลักษณ์ของซูพรีม ผมมั่นใจได้ทันทีว่าพวกเขาคือคนของคุณเบนซ์
“บอกคุณเบนซ์ว่าผมตอบรับ” น้าเอกกล่าวกับหัวหน้าทีมของซูพรีม ซึ่งเขาก็พยักหน้าและเดินมาหาผมทันที
“ได้รับบาดเจ็บไหม?” เขาเดินมากล่าวถามผมอย่างเป็นมิตร
“ไม่ครับ…ขอบคุณมากครับ” ผมกล่าวและยกมือขึ้นมาไหว้พวกเขาเช่นกัน
“ไม่ๆ…เราต้องช่วยกันอยู่แล้ว” เขารีบยกมือขึ้นมารับไหว้และกล่าวออกมา ทำให้ผมรู้สึกสบายใจมาก
ครืด ครืด
และในระหว่างที่พวกระดับหัวหน้าเขาคุยกัน โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นทันที ผมจึงยกมันขึ้นมาดูและพบว่าเป็นคุณเบนซ์ ผมจึงกดรับสายทันที
“ดีที่เอกเขามาช่วย”
“ลองคุยกันดูเดี๋ยวจะไปดูเรื่องให้” คุณเบนซ์กล่าวก่อนจะตัดสายผมไป
“ไอเด็ก…กูสนใจมึงว่ะ”
“มาทำงานกับกูไหม?” น้าเอกกล่าว ซึ่งแกก็เป็นคนดิบๆเถื่อนๆแบบนี้แหละ แต่ทุกคนล้วนเคารพแกและไม่เคยล่วงเกินแก แต่คำถามของน้าเอกทำให้ผมคิดหนักมาก
“ผมอยากทำตามความฝันของผมครับ…แต่ผมไม่ปฏิเสธถ้าหากน้าต้องการความช่วยเหลือจากผม”
“ผมจะตอบแทนบุญคุณแน่นอน” ผมกล่าวออกไปตรงๆ และมันทำให้น้าเอกจ้องผมตาเขม็ง
“ก็แล้วแต่…มึงอนาคตไกลมาก…กูอยากจะปั้นมึง” น้าเอกกล่าวและมันทำให้ผมขนลุกอีกครั้ง เพราะในตอนที่เราพบกันครั้งแรก แกก็พูดกับผมแบบนี้แหละ
“ส่วนเรื่องค่าหัวเดี๋ยวกูจัดการให้”
“มึงกลับไปนอนพักให้สบายได้เลย”
“อนาคต…ถ้าเปลี่ยนใจกูพร้อมต้อนรับมึงเสมอ” น้าเอกกล่าวทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายพอสมควร
“ครับ…ขอบคุณมากๆครับ” ผมกล่าวก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้น้าเอกอีกครั้ง
“พรุ่งนี้กูยังอยู่นคร…มากินข้าวด้วยกัน…พวกมึงด้วย” น้าเอกกล่าวก่อนจะหันไปมองพวกพี่ๆหน่วยรบพิเศษที่มาช่วยเหลือผมเช่นกัน
“ครับผม” ทหารทุกคนต่างยกมือขึ้นมาทำความเคารพรวมถึงตัวผมด้วยเช่นกัน และน้าเอกก็เดินกลับไปขึ้นฮอ* ส่วนผมก็ได้พูดคุยกับพี่ๆทหารและคนของซูพรีมไปพอสมควร
บรื้นน
ฟึบๆๆ
และเมื่อมีรถบิกไบค์คันหนึ่งมาจอดหน้าร้านซักผ้าพร้อมกับคนสองคนที่อยู่บนรถ ทุกคนต่างหันปืนไปหาพวกมันในทันที แต่ที่แปลกคือพวกมันแต่งชุดคนป่วยมานี่สิ
“เดี๋ยวครับ!…นั่นคนรู้จักผมเอง!" ผมตะโกนบอกทุกคนเมื่อพอเดาได้ว่าทั้งสองคือใคร
“ไอเฮงกับโทนี่?" หัวหน้าหน่วยรบพิเศษกล่าวก่อนจะหันมองพวกมันกับผมสลับไปมา
“ปลอดภัยไหมครับ?” เฮงรีบเดินมากล่าวถามผม ซึ่งทุกสายตาต่างจับจ้องที่มัน
‘ไม่กลัวเลยเหรอ…แถมยังออกมาดูฉันด้วย?’ ผมคิดในใจและเริ่มคิดว่าเฮงมันก็ใจถึงเหมือนกัน
“ไม่มีอะไรแล้ว…พวกมึงกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปกินข้าวกัน” ผมกล่าวก่อนที่จะขอตัวลาทุกคนโดยพวกพี่ๆทหารก็ได้ขับรถพาผมกลับเข้าไปในซอยหอพักและผมก็ขึ้นหอพักของตัวเองทันที ซึ่งก็มีหัวหน้าทีมจากซูพรีมมานอนกับผมด้วย ทั้งบอดีการ์ดที่เป็นลูกทีมยังช่วยกันเฝ้ายามรอบๆตึกอีกด้วย เพราะกลัวว่าเรื่องมันยังไม่จบ
แต่ถึงยังไงข่าวที่ผมมีเบื้องหลังก็ต้องออกไปบ้างแล้วแหละ ทั้งหน่วยรบพิเศษปราบปรามยาเสพติดมาช่วยเหลือผม และยังมีหน่วยรบพิเศษอีกหนึ่งหน่วยที่วงการทหารและในโลกมืดรู้จักกันดี อีกาทองคำ มาออกตัวช่วยผม นั่นยังไม่จบ ซูพรีม บริษัทบอดีการ์ดก็ยังมาคุ้มกันผมเช่นกัน
หลังจากนี้ใครจะทำอะไรก็คงต้องคิดกันดีๆแล้วล่ะนะ
เพราะนอกเหนือจากนั้นความสามารถของผมเองก็ยังไม่ใช่เด็กๆที่จัดการง่ายๆอีกด้วย
