บท
ตั้งค่า

พี่เทค

“แม่เชื่อผมเถอะ…เราไปอยู่กันที่โน้นดีกว่า” เสียงชายคนหนึ่งกล่าว ซึ่งผมกำลังจะมาคุยกับบ้านที่ติดกับร้านมุมหมาล่า เพื่อขอซื้อที่นี้ และเมื่อผมได้ยินเช่นนี้

ก็สวยสิ!

“อ่าว…ลุงสวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายเพื่อนของลุงรัน

“สวัสดี…บ้านอยู่แถวนี้เหรอลูก?” ลุงกล่าวถามผม ซึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาที่หน้าบ้านก็คือยายแก่ๆคนหนึ่งที่น่าจะเป็นแม่ของเขา

“ไม่ไกลจากที่นี่ครับ…ที่นี่บ้านลุงเหรอครับ?” ผมกล่าวถามก่อนที่ลุงจะเชิญผมเข้าไปในเขตบ้าน

“บ้านของแม่ลุง…ลุงอยากพาแม่ไปอยู่ด้วยกันน่ะสิ” ลุงกล่าวด้วยความเซ็งๆ

“แล้วที่นี่ขายไหมครับลุง?” ผมกล่าวถามทำให้ลุงหันมามองหน้าผมทันที

“สองล้าน” ยายกล่าวออกมาเมื่อผมถามถึงบ้านของแก เดาว่าคงจะมีคนมากมายมาขอซื้อแน่นอน ยิ่งร้านเหล้าตรงข้ามก็น่าจะต้องการเพิ่มสถานที่บันเทิงของตัวเอง

“ลุงจะไปทำธุรกิจอะไรใช่ไหมครับ?” ผมไม่ได้ตอบยายแก แต่ผมหันไปถามเพื่อนของลุงรัน

“ถูกต้อง…ลุงจะเพิ่มบ่อกุ้ง” ลุงกล่าวตอบ ซึ่งเมื่อลุงพูดถึงกุ้ง ทำให้ผมยิ้มออกมาทันที

“สองล้าน…จะพอเหรอครับ?”

“ในอนาคตผมมีแพลนจะเปิดร้านอาหารเกี่ยวกับกุ้งโดยเฉพาะ”

“ลุงสามารถทำให้กุ้งของลุงดีที่สุดได้ไหมครับ?” ผมกล่าวถามออกไปเป็นนัยๆ ซึ่งทำให้ลุงคนนั้นตาเป็นประกายในทันที

“ถ้าเลี้ยงดีๆลุงเชื่อว่ากุ้งของลุงจะดีที่สุดอย่างแน่นอน” ลุงกล่าวทำให้ผมยิ้มออกมา

“ผมชื่อที…เรายังไม่รู้จักชื่อกันเลยนะครับลุง” ผมกล่าวแนะนำตัวเอง

“ลุงชื่อบอล” ลุงตอบกลับก่อนจะรอว่าผมจะพูดอะไรต่อไปอย่างคาดหวัง

“สองล้าน…บ้านนี้ผมซื้อ”

“และอีกหนึ่งล้าน…ผมจะลงทุนกับบ่อกุ้งของลุงบอล” ผมกล่าวทำให้ลุงถึงกับอ้าปากค้าง นี่ผมมีเงินมากมายขนาดไหนกันแน่!?

“พรุ่งนี้ติดต่อผมมานะครับ” ผมกล่าวก่อนจะยื่นนามบัตร Supreme ให้กับลุงบอลและไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองพร้อมกับเดินกลับไปที่รถ

วันถัดไป

18 : 15

“สวัสดีครับพี่โอ” ผมเดินมาที่บาร์ของร้านมุมหมาล่าแล้วกล่าว

“วันนี้ดื่มอะไรดี?” พี่โอกล่าวถามผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อได้ยินมาว่าบ้านข้างๆถูกขายไปเรียบร้อยแล้ว แผนการที่วางไว้จึงผิดแผนไปหมด

“ดื่มอันนี้ครับ” ผมกล่าวพร้อมกับมอบซองเอกสารสีน้ำตาลให้กับพี่โอ และทำให้พี่โอหยุดงานทันที

ฟึบๆ

“เดี๋ยว…ที…น้องที….น้องทีไอเหี้ย!” พี่โอถึงกับอุทานออกมาเมื่อได้อ่านเอกสารทะเบียนบ้าน

“ครับผม…มันเป็นของพี่แล้ว” ผมกล่าว

“แต่…ในอนาคตถ้าหากผมจะทำอะไรกับที่ตรงนี้”

“แน่นอนว่าพี่จะมีส่วนร่วมด้วย”

“และพี่ต้องยอมรับมันนะครับ” ผมกล่าวอีกครั้ง แต่สีหน้าของพี่โอก็ไม่ได้ดูแย่ลงเลย และดูยินดีมากกว่าเดิมเสียอีก

“ไม่มีปัญหาเลยน้องที”

“เดี๋ยวพี่ไปคุยกับครอบครัวก่อนนะ” พี่โอกล่าว ซึ่งผมก็ได้เดินออกไปจากร้านทันที เพราะผมรู้สึกเหนื่อยมากๆในการจัดการเรื่องต่างๆวันนี้

ส่วนในคืนนี้ผมก็ได้หนอนหลับปุ๋ยไปเลย โดยผมได้บอกฝันดีพี่เอมไปก่อนแล้ว ทำให้คืนนี้พี่เอมไม่ได้มานอนกับผม ผมก็ปล่อยให้เธออยู่กับครอบครัวบ้างอะไรบ้าง เพราะในวันต่อไปผมก็ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมจับสายเทคของสาขาอีก ถึงแม้มันจะน่าเบื่อ แต่ผมก็อาจจะได้เจอคนเก่งและชวนเข้ามาทำงาน อย่างเช่นพี่หยก

‘พี่หยกใช้คำใบ้แปลกๆจังนะ…’ ผมคิดในใจ ซึ่งพี่หยกแกเป็นดาวคณะในปีที่แล้ว และเก่งเรื่องการออกแบบสร้างสรรค์ที่สุดยอดมากๆ บางครั้งผมก็คิดไม่ถึงงานที่แกออกแบบ แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ร่วมงานกัน เพราะพี่หยกไปทำงานที่ต่างประเทศ และในตอนนี้ผมกำลังใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่ดูประวัติการจับสายเทคย้อนหลังอยู่ ซึ่งมันก็มีบอกหมดเลยว่ารุ่นพี่คนไหนใช้คำใบ้อะไร

และไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ผมถึงจับได้คำใบ้ของพี่หยกจริงๆ

“น้องที~” ซึ่งตั้งแต่ผมเริ่บล้วงมือลงไปจับจนถึงเปิดกระดาษที่ผมจับได้ขึ้นมา ก็มีเสียงเรียกผมไม่หยุด เหมือนจะต้องการผมไปเป็นน้องเทค หรือสายเทคของตัวเอง

“มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับคำใบ้ มิดไนท์ ไหมครับ?” รุ่นพี่ที่ถือไมค์กล่าวก่อนจะยื่นไมค์มาที่ผม

“คืนนี้หิวเหล้าเลยครับ” ผมกล่าวและจ้องมองไปที่พี่หยก ซึ่งทำให้เพื่อนพี่หยกแอบยิ้ม

“แหมงั้นคืนนี้เคลิ้ม…หยอกเล่นนะฮ่าๆ” พีธีกรกล่าวทำให้ผมยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปยืนข้างหลังห้อง ซึ่งแน่นอนว่าผมยืนอยู่กับเพชร เพชรมันเชื่อใจผมมากจึงกล้ามายืนกับผมด้วย ส่วนปีหนึ่งคนอื่นก็นั่งพื้น แต่ที่ผมทำแบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงอะไรผมสักคน

“ถ้าคืนนี้เจอพี่เทคที่ร้านเหล้าก็ว่าจะเลี้ยงเหล้าซะหน่อยวะเพชร” ผมกล่าวกับเพชรทำให้เพชรยิ้มออกมา ซึ่งคนที่ยืนข้างๆเพชรก็คือพี่หยกนั่นเอง

“ไปดิ…ไปปะ” เพชรกล่าว ซึ่งไอตัวนี้มันไม่ปฏิเสธอยู่ล่ะ มันอยู่ห้องมันเหงา ในชีวิตก่อนมันก็เลยชวนผมออกไปดื่มประจำ

“ไป…เพชรจองโต๊ะไว้หน่อย”

“ชวนเบียร์ไปด้วย” ผมกล่าวก่อนที่คนสุดท้ายในรุ่นจะจับคำใบ้เสร็จ

“ต่อมาเราจะคุยเรื่องตำแหน่งในสาขากันครับ…แล้วก็คนถือพานไหว้ครู” พิธีกรกล่าวซึ่งเมื่อพูดถึงคนถือพาน หลายคนต่างมองมาที่ผม ส่วนผู้หญิงก็คือแฟนเก่าของผมในชีวิตที่แล้ว

“น้องทีสนใจร่วมงานไหมครับ?” พิธีกรกล่าวถามเมื่อผมกลายเป็นจุดสนใจตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เพราะการที่พูดถึงจุดสนใจบ่อยๆ ทุกคนก็จะตั้งใจฟัง

“ผมไม่สนใจตำแหน่งอะไรทั้งนั้นครับ…แต่ถ้าเดินถือพานผมเดินได้ครับ” ผมกล่าว และผมมั่นใจแน่ๆว่าผู้หญิงที่จะถูกเลือกมาเดินคู่กับผม คงจะเป็นแฟนเก่าของผมในชีวิตที่แล้วอย่างแน่นอน

“งั้นตกลงตามนั้นเลยนะครับ…น้องทีถือพานผู้ชายส่วนน้องครีมถือพานผู้หญิง” พิธีกรกล่าว และก็ไม่มีใครขัดอะไรทั้งนั้น เพราะทั้งคู่ต่างสวยและหล่อ ทั้งยังมีรูปร่างดีอีกต่างหาก

ก็อกๆ

“เรียบร้อยไหมคะ?” สภานักศึกษาเดินเข้ามาถามเกี่ยวกับกิจกรรมจับสายเทค เพราะในตอนนี้สภานักศึกษาต้องเข้ามาควบคุมเพื่อไม่ให้มีการกดขี่กันเกิดขึ้น และมันก็เป็นผลดีพอสมควรเลยทีเดียว

“เรียบร้อยครับผม” พิธีกรกล่าวก่อนจะพูดเรื่องตำแหน่งต่อ

“เดี๋ยวคืนนี้ทีไปเคลิ้มนะครับ” ผมเดินไปกล่าวกับพี่เอม ซึ่งพี่เอมก็คือสภานักศึกษาที่มาดูแลพวกเรา

“พี่กำลังจะบอกพอดีว่าคืนนี้พี่ก็ไปกับเพื่อน” พี่เอมกล่าวก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มผม

“พี่ไปดูสาขาอื่นก่อนนะ” พี่เอมกล่าวก่อนผมจะยิ้มตอบรับ และพี่เอมก็เดินออกไปจากห้องทันที

“เรากลับละนะเพชร" ผมกล่าวเมื่อไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครห้ามผมเช่นกัน

‘พี่หยก…’ ผมกล่าวถึงพี่หยกเมื่อแกเดินผ่านหน้าผมออกจากประตูไป

ซืดด

“พี่สูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วยเหรอ?” ผมกล่าวถามเมื่อเห็นพอตสีชมพูที่พี่หยกเพิ่งจะสูบไป และในตอนนี้เราทั้งคู่ยืนกันอยู่หน้าตึก

“สูบๆ…พี่ชอบกลิ่นพีชมาก” พี่หยกกล่าว

“พี่ชื่ออะไรครับ?” ผมกล่าวถามก่อนที่พี่หยกจะปล่อยควันออกมาจากปาก

“พี่ชื่อหยก…คืนนี้เราไปเคลิ้มเหรอ?” พี่หยกกล่าวถาม

“ใช่ครับ…พี่ไปไหม?” ผมกล่าวถามก่อนที่พี่หยกจะจับข้อมือผมและกดลง ส่วนพี่หยกเองก็รีบเก็บพอตใส่กระเป๋าทันที ทำให้ผมรู้ว่าน่าจะมียามเดินมา

“พี่ยามสวัสดีครับ” เมื่อผมหันกลับไปก็ได้พบกับยามที่หน้าตาคุ้นเคยจึงยกมือขึ้นมาไหว้

“สวัสดีครับ…พอดีพี่เห็นควันแถวนี้น่ะสิเมื่อกี้เหมือนจะมีคนสูบบุหรี่นะ” พี่ยามกล่าวด้วยสายตาที่มีเลศนัย ส่วนพี่หยกกำลังเกร็งเพราะมือของพี่หยกยังคงจับข้อมือผมอยู่ ผมจึงรู้ว่ามือพี่แกสั่น

“ควันที่มาจากอันนี้ป่าวพี่ฮ่าๆ” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงและยื่นให้พี่ยาม

“น่าจะใช่แหละน้องฮ่าๆ…ขอบคุณมาก” พี่ยามกล่าวก่อนจะเดินจากไป

“ขอชิมรสพีชพี่หน่อยสิ” ผมกล่าวถึงพอตที่พี่หยกสูบ ซึ่งเมื่อพี่หยกเห็นว่าผมมีเส้นสายกับยามแกจึงหยิบขึ้นมาและยื่นให้ผม

ซืดด

“ดี…หวานมาก" ผมกล่าว แต่ไม่รู้เพราะอะไร ทำไมพี่หยกถึงไม่มองผมแต่หันหนีไปทางอื่น

“สรุปพี่ไปไหมครับ?” ผมกล่าวถามก่อนจะหยิบบุหรี่ไฟฟ้าของผมขึ้นมาสูบ

“ไปๆ…เพื่อนพี่จองโต๊ะเอาไว้แล้ว” เมื่อพี่หยกกล่าว ทำให้ผมยกยิ้มมุมปากออกมาทันที

ตื๊ดๆ ตื๊ด

“สวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายปลายสาย

“หะ…โอเคเดี๋ยวไป” ผมตอบกลับไปทันทีด้วยความเร่งรีบก่อนจะเดินจากไปทันที

“เจอกันที่ร้านนะครับ…พอดีมีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ” ผมกล่าวก่อนจะเปิดประตูรถ BMW และเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที

ณ โรงพยาบาลท่าศาลา

“สรุปคือมึงไม่ไป?” ผมกล่าวถามปลายสาย ซึ่งก็คือไอโดม และในตอนนี้ผมกำลังเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วยแบบรวม

“เออดิ…กูทำงานอยู่” โดมกล่าว ทำให้ผมยิ้มอย่างพอใจ

“เครๆ…สู้ๆ” ผมกล่าวก่อนจะวางสายและเดินไปหาเขตที่ไม่ค่อยมีคน ซึ่งมันคือเตียงของเฮงและโทนี่ เนื่องจากทั้งสองไปเจอเข้ากับมาเฟียอีกพวกหนึ่งเข้า พวกมันหวังจะมาครองที่นี้แทนเมื่อเฮงถูกจับเข้าคุก

“เป็นไง…สภาพดูไม่ได้เลยนะ” ผมกล่าวเมื่อได้เห็นสภาพสะบักสะบอมของทั้งสองคน รอยแผลเต็มไปทั้งตัว ทั้งรอยฟกช้ำ รอยมีดบาด และที่สำคัญคือหน้านี่เละมากๆ

“แม่งมากันตอนเราไม่ได้ตั้งตัวหรอก” โทนี่กล่าวด้วยความแค้น

“มันโดนคืนแน่” เฮงกล่าว สายตาของเขามันบ่งบอกว่าไม่เขาก็อีกฝ่ายที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง จะว่าไปมันก็ใจร้ายอยู่นะ เพราะพวกเขามีกันแค่สองคน ส่วนอีกฝ่ายน่าจะเกินสิบ ไม่งั้นสภาพพวกเขาคงไม่เป็นแบบนี้หรอก

“คนที่อาญัติบัญชีพวกมึงก็พวกมันนั่นแหละ" ผมกล่าวยิ่งทำให้พวกเขาแค้นมากกว่าเดิมไปอีก เพราะพวกเขาไม่มีตังค์จ่ายค่ารักษา

“ทำงานให้สำเร็จล่ะ” ผมกล่าวก่อนจะวางกระเป๋าเป้ให้ใบนึง ซึ่งในนั้นมีเงินจำนวนราวๆแสนกว่าบาท

“ไปล่ะ…มีธุระต่อ” ผมกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเดินของคนหลายคนมาที่บริเวณนี้

“น้องออกไป” ชายคนหนึ่งกล่าวและเดินเข้ามารุมล้อมเตียงของทั้งสองคน แต่ทั้งสองยังไม่ได้ขยับอะไรแม้แต่น้อย และมันน่าจะมีเพียงผมที่รู้ว่าพวกเขาหยิบแก้วกันไว้ใต้ผ้าห่ม

“ที่นี่โรงพยาบาลนะ”

“ไอพวกเวร” ผมกล่าวทำให้พวกมันหันมาหาผม

“มึงปากดีเหรอเด็กเวร" พวกมันกล่าวและจะกระชากคอเสื้อผม ซึ่งผมก็ปล่อยให้มันทำ แต่ร่างของผมไม่ขยับแม้แต่น้อย

“เหอะ” ผมสะบัดตัวออกก่อนจะเดินไปที่ระเบียง

“ไปสอนเด็กหน่อย” ทำให้คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากล่าว และชายสองคนก็เดินตามผมมา

ผลั๊วะๆ

เพียงสองกระบวนท่า พวกมันทั้งสองร่วงไปนอนบนพื้นทันที และผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับหยุมหัวชายคนที่สั่งและเดินออกไปที่ระเบียงพร้อมกับซัดมันจนหลับ ส่วนอีกสองคนก็ตามผมมา และผมก็จับหัวของพวกมันโขกกันพร้อมกับถีบคนหนึ่งออกไปที่ระเบียง ส่วนอีกคนผมจับหัวของมันโขกไปที่กำแพงอย่างจังจนมันร่วงไปคุกเข่าบนพื้น

ฟุบ ผลั๊วะ

ผมใช้ศอกกระแทกหัวของมันซ้ำทำให้มันโน้มตัวลงไปนอนบนพื้น ส่วนอีกคนพุ่งมาหาผม ผมก็หมุนตัวใช้เท้าเสยปลายคางมันไปซะหลับกลางอากาศ

“เอ่อ…” พยาบาลที่เดินมาเห็นถึงกับมือไม้สั่นด้วยความกลัว

“ไม่ต้องห่วงครับ…เดี๋ยวตำรวจก็น่าจะมาแล้วล่ะ” ผมกล่าว เพราะถึงยังไงตำรวจก็ต้องมาสอบปากคำของเฮงและโทน

“นั่นไงมาพอดีเลย”

“ฝากทุกอย่างต่อด้วยนะ” ผมกล่าวเมื่อตำรวจเดินมาสองคน และเมื่อพวกเขาเห็นผม พวกเขาก็ยกมือขึ้นมาทำความเคารพผมทันที ส่วนผมก็เดินออกไปจากที่นี่กลับไปที่ห้องพัก เพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนชุดเตรียมไปเคลิ้มต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel