บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ตำหนักปิงสุ่ยของข้า (2/2)

ฉงเสว่ปิงแหงนมองบิดา นางผละกายจากร่างสูงใหญ่ แล้วจึงสาวเท้าไปเบื้องหน้าเฉิงเหยา เอ่ยเสียงอ้อมแอ้มพลางทำสีหน้าออดอ้อน "เสด็จแม่เพคะ ท่านรักข้าหรือไม่"

"ปิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอันใดหรือ มีเรื่องไม่สบายใจใด" ผู้เป็นมารดาเอื้อมมือขึ้นลูบศีรษะบุตรธิดาด้วยความห่วงใย

"ท่านตอบข้าก่อน"

"หากพ่อแม่ไม่รักลูกจะให้ไปรักผู้ใดงั้นหรือเด็กโง่"

จากสีหน้าแย้มยิ้ม จู่ ๆ ก็มีน้ำตาพรั่งพรูออกมา เฉิงเหยาตื่นตระหนก ฉงเสว่ปิงรัดกายมารดาแน่นยิ่งขึ้น "เสด็จแม่ ฮึก...ฮือ...ข้าไม่อยากแต่งงานกับชินอ๋องเพคะ"

ฉงเจิ่งหมินและเฉิงเหยาตัวแข็งทื่อ จากนั้นจึงเรียกสติกลับ ฝ่ามือยังคงลูบศีรษะคนในอ้อมกอดเนิบช้า

"ทำไมเล่า ก่อนหน้าเจ้าก็มิได้ขัดอะไร อีกอย่างหากเจ้าไม่แต่งงานออกไปรู้หรือไม่จะเกิดเรื่องราวใหญ่โตเพียงไหน"

ฉงเสว่ปิงพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอ นางพยักหน้าหงึกหงัก แล้วจึงผละจากอ้อมแขนมารดา "แล้วถ้าหากลูกแต่งออกไป จากนั้นมีคนทำร้ายลูกจนถึงแก่ชีวิต เสด็จแม่และเสด็จพ่อจะทำอย่างไรเพคะ"

ทั้งสองตกใจเบิกตากว้าง ฉงเจิ่งหมินโพล่ง "ปิงเอ๋อร์ เจ้าเอ่ยวาจาอัปมงคลใด หากเป็นเช่นนั้นจริงพ่อหรือจะนิ่งดูดาย"

"ฮึก!..." ฉงเสว่ปิงสะอึกหนึ่งครา ดวงตาของนางแดงก่ำ "เช่นนั้นจะแต่งหรือไม่แต่งก็คงผลลัพธ์เดียวกันกระมัง ข้ายอมตายไม่ยอมอภิเษกกับชินอ๋องเพคะ"

"ปิงเอ๋อร์ พูดอะไรของเจ้า" เฉิงเหยายกมือทาบอก ร่างบอบบางแทบล้มตึง ฉงเจิ่งหมินรีบถลันเข้าประคองร่างชายาตนเอาไว้

"เอาล่ะ ๆ นั่งก่อน กินให้อิ่มแล้วเรามาคุยกัน" ฉงเจิ่งหมินเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย พลางประคองกายของเฉิงเหยานั่งบนเก้าอี้สีขาวเหลือบทองคำ นางกำนัลจึงเข้ามาปรนนิบัติพัดวีจนนางได้สติ

ฉงเสว่ปิงพยักหน้า นางค่อย ๆ หย่อนกายลงนั่ง มือเรียวยกตะเกียบขึ้นเนิบนาบ ทว่ายามนี้นางฝืนกินไม่ลงจริง ๆ เรียวมือจึงค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น

ฉงเจิ่งหมินถอนหายใจ เมื่อเห็นท่าทางเลื่อนลอยของนาง "ไหนเจ้าบอกพ่อสักหน่อย ว่าเหตุใดจึงไม่ต้องการอภิเษกกับชินอ๋อง"

นัยน์ตาทรงดอกท้อหลุบลง ตะเกียบในมือเขี่ยเม็ดข้าวสีขาวนวลไปมา จากนั้นจึงช้อนดวงตาขึ้น "เสด็จพ่อ เดิมทีแคว้นของเรายึดหลักเรื่องคู่ครองเดียวใช่หรือไม่เพคะ ท่านเองก็ไม่ได้มีสนมแม้สักคน ถึงให้กำเนิดได้เพียงข้าคนเดียวท่านก็ยังมีเพียงเสด็จแม่"

"อืม...พ่อรักแม่ของเจ้าผู้เดียว ที่เจ้าไม่อยากแต่งกับชินอ๋องเพราะเรื่องนี้หรือ"

"เดิมทีก็หลายเรื่อง ทว่าเรื่องนี้ด้วย หากข้าแต่งออกไปเขาก็ต้องมีสนมอยู่ดี แคว้นไต้เจียฮ่องเต้มีสนมนับร้อย แล้วเขาเล่าเป็นรองคนเพียงหนึ่งทว่าอยู่เหนือคนใต้หล้า ท่านว่าธิดาของท่านผู้นี้แต่งเข้าไปจะเป็นอะไรสำหรับเขาหรือ" ฉงเสว่ปิงเอ่ยด้วยแววตาสั่นระริก

ฉงเจิ่งหมินคิ้วขมวด "ปิงเอ๋อร์ เดิมทีบุรุษมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่ง อีกอย่างเขาเป็นถึงชินอ๋องผลงานการศึกมากมาย เงินทองล้นเหลือ เจ้าแต่งออกไปพ่อคิดว่าคงได้อยู่สุขสบาย"

"เสด็จพ่อ นั่นนับว่าความสุขหรือเพคะ แล้วไยท่านจึงมีเพียงเสด็จแม่ ท่านกำลังเข้าข้างเขาทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยพบหน้าหรือ"

"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพ่อยังไม่เคยพบเขา อีกอย่างนี่เป็นสัญญาของสองแคว้นซึ่งมีมาช้านาน เจ้าแต่งเข้าไปก็เป็นชายาสูงสุดของเขา หากเจ้าไม่แต่งวันข้างหน้าจะต้องเดือดร้อนไปทั่วหย่อมหญ้า"

"เสด็จพ่อ...ท่านทราบหรือไม่ว่าข้าได้เป็นเพียงชายารอง!" ฉงเสว่ปิงเหลืออด เหตุใดบิดาของนางจึงไร้เหตุผลนัก

คิ้วเข้มเคลื่อนเข้าหากันอีกครั้ง "ชายารอง? เจ้าหมายความว่าอย่างไร เขามีชายาเอกมาก่อนหรือ"

ฉงเสว่ปิงส่ายศีรษะ "เปล่าเพคะ"

"เจ้าไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากที่ใด ยังไม่เคยพบหน้าเขามิใช่หรือ"

นางจะบอกเช่นไรดี ตอนนี้นางตายแล้วได้มาเกิดใหม่ในช่วงเวลาที่ต่างกันถึงสามครั้งสามครา ย่อมรู้เช่นเห็นชาติของชินอ๋องผู้นี้ดี "ถึงตอนนี้เขายังไม่มีกระทั่งชายาและสนม ข้าก็ไม่แต่ง หากเขาไม่มีข้าผู้เดียวข้าไม่แต่งเพคะ"

ฉงเสว่ปิงทิ้งกายพิงพนักเก้าอี้ลายวิจิตร ใบหน้างามงอง้ำ "เอาล่ะ ๆ ปิงเอ๋อร์ เพียงเรื่องนี้ใช่หรือไม่เงื่อนไขของเจ้า เช่นนั้นพ่อจะลองเจรจาดูก่อน"

ฉงเสว่ปิงหันขวับ "เสด็จพ่อ นี่ท่านยังจะไปเจรจากับเขาอีกหรือเพคะ เรื่องใดก็ช่างข้าไม่แต่ง"

"ไม่แต่งก็ไม่แต่ง" เสียงทุ้มโพล่งจากหน้าโถงทางเข้า ทุกคนต่างหันมองในทิศเดียวกัน

เฉิงเหยาคลี่ยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นว่าใครมาเยือน ฉงเสว่ปิงกะพริบดวงตาถี่

"ถวายบังคมเสด็จพ่อ ถวายบังคมเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ" บุรุษสวมเสื้อเกราะร่างสูงสง่ายอบกายลงพลางค้อมศีรษะเล็กน้อย

ฉงเจิ่งหมินเอ่ย "เหยียนเฟิง มาแล้วหรือ เจ้าลุกขึ้นเถิด"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel