บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ตำหนักปิงสุ่ยของข้า (1/2)

"องค์หญิง องค์หญิงเพคะ"

อีกแล้วหรือ เสียงผู้ใดกัน ครานี้เรียกข้าองค์หญิงรึ

แพขนตางอนไหวระริก เปลือกตาบางขยับแผ่ว ดวงตากลมโตเปิดปรือเชื่องช้า ดูเหมือนครานี้นางไม่รู้สึกตื่นเต้นใดแล้ว ปรโลกไม่ต้องการ สวรรค์กลั่นแกล้ง หรือการจบชีวิตโดยวิธีกรอกสุราไม่อาจทำให้นางตายได้จริง ๆ กันเล่า

"องค์หญิง ตื่นบรรทมเถิดเพคะ"

ฉงเสว่ปิงผินหน้ามองอีกฝ่าย ดวงตากลมโตกะพริบขึ้นลงปริบ ๆ "มู่หลิน เจ้าเองหรือ"

"หม่อมฉันเองเพคะ ตะวันทอแสงแล้วฝ่าบาทและพระชายารอองค์หญิงที่ห้องเสวยแล้วเพคะ"

ฉงเสว่ปิงเลิกคิ้ว พลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ดวงตากลมโตเป็นทุนเดิมเบิกกว้างตื่นตะลึง "นะ...นี่..."

"นี่อะไรหรือเพคะ" มู่หลินกะพริบตางุนงง

ฉงเสว่ปิงหันหน้าขวับ "มู่หลิน ข้าแต่งงานหรือยัง!"

"องค์หญิง ท่านยังไม่ได้อภิเษกนะเพคะ ถึงจะมีสัญญาหมั้นหมายกับชินอ๋อง แต่ว่ากำหนดวันอภิเษกคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเพคะ"

ฉงเสว่ปิงฉีกยิ้มลิงโลด "หนึ่งเดือนข้างหน้า มู่หลินบอกข้าทีว่าตอนนี้ข้าอยู่ในตำหนักปิงสุ่ย"

มู่หลินพยักหน้าหงึกหงัก "เพคะ ยามนี้องค์หญิงอยู่ตำหนักปิงสุ่ยแคว้นสุ่ยเหอขององค์หญิงและฝ่าบาทเพคะ"

ฉงเสว่ปิงลุกพรวด ร่างบอบบางกระโดดโหยงตื่นตูม พลางจับบ่าสาวรับใช้ของตนเขย่าด้วยสีหน้าดีอกดีใจ "ไชโย ข้าได้กลับสุ่ยเหออีกครั้งแล้ว ฮือ...คันฉ่อง คันฉ่อง เร็ว"

"พะ...เพคะ" มู่หลินละล่ำละลักหยิบคันฉ่องขนาดเล็กส่งให้นาง

ฉงเสว่ปิงคว้าหมับจากนั้นจึงเบี่ยงปอยผมหลบไปอีกด้าน มองดูจุดสีแดงข้างลำคอพลันเบิกตากว้างฉีกยิ้มดีใจ

แต้มพรหมจรรย์!

"มู่หลิน มู่หลิน ดูสิเจ้าดูนี่" นิ้วเรียวชี้บริเวณต้นคอของตนเร็วรี่

"เพคะ ดูแล้ว ทำไมหรือ" มู่หลินงุนงง

"เจ้าเห็นหรือไม่ แต้มพรหมจรรย์ของข้ายังอยู่ มันยังอยู่" ฉงเสว่ปิงฉีกยิ้มกว้างเผยความสดใสระคนดีใจเป็นล้นพ้น นางเขย่ากายมู่หลินจนหัวสั่นคลอน

"อะ...องค์หญิงเป็นอันใดไป กระโตกกระตากเช่นนี้ไม่งามนะเพคะ อีกอย่างท่านยังไม่อภิเษกกับบุรุษใด แต้มพรหมจรรย์ก็ต้องอยู่สิเพคะ" มู่หลินหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน

"อ้อ...อ่า...ขอโทษ ขอโทษ" ฉงเสว่ปิงเอ่ยจบจึงปัดป่ายจัดแจงเสื้อผ้าของมู่หลินให้เข้าที่

"องค์หญิงหม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ" มู่หลินหลุบดวงตาด้วยความกริ่งเกรง

"เอาน่า...จะเกร็งไปไย ในที่สุดก็ไม่ต้องกลับไปพบหน้าตาอ๋องโง่เง่าแล้ว หนำซ้ำยังได้กลับมาเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผาด" ฉงเสว่ปิงสีหน้ารื่นรมย์เสียจนมู่หลินต้องยกมือขึ้นเกาแก้มเกาศีรษะด้วยความงุนงง

"ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงไปเตรียมตัวนะเพคะ ฝ่าบาทรอนานมากแล้ว"

"เอาสิ ข้าคิดถึงเสด็จพ่อเสด็จแม่ใจแทบขาด"

ยิ่งมองท่าทีเริงร่าของฉงเสว่ปิงมู่หลินก็ยิ่งบังเกิดความฉงน ดูเหมือนองค์หญิงของนางคงฝันดีมากไปหน่อยกระมัง วันนี้จึงตื่นสายกว่าปกติ ซ้ำยังแย้มยิ้มจนน่าพิกลนัก

.

.

"เสด็จพ่อ เสด็จแม่" ร่างบอบบางสาวเท้าเร่งร้อน พลางกระโจนสวมกอดผู้เป็นบิดาประดุจไม่พบหน้ากันมาช้านาน

เดิมทีสมัยฉงเสว่ปิงเยาว์วัย นางติดบิดาแจ เพราะชอบออกไปล่าสัตว์ยิงธนูเฉกเช่นบุรุษ ผู้เป็นมารดาปรามอย่างไรนางไม่เคยเชื่อฟัง ทว่าเจ้าแคว้นสุ่ยเหอกลับให้ท้ายบุตรธิดานัก เฉิงเหยาจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้ว หวังว่าการอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้นที่จะมาถึงอาจช่วยดัดนิสัยให้ฉงเสว่ปิงเป็นกุลสตรีเช่นองค์หญิงแคว้นอื่น ๆ เสียบ้าง

"ปิงเอ๋อร์ ระวังหน่อย เป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้นสุ่ยเหอ ไยทำตัวเยี่ยงม้าดีดกะโหลก" เสียงทุ้มเอ่ยต่อว่า ทว่าริมฝีปากผู้เป็นบิดายังคงแย้มสรวล ฝ่ามืออุ่นลูบไล้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรักใคร่ ส่วนมารดาทำได้เพียงส่ายศีรษะ ยืนมองสองพ่อลูกกอดกันกลมอย่างนึกระอาใจ

ฉงเสว่ปิงเอ่ยเสียงอู้อี้ "ก็ข้าคิดถึงท่านนี่นา เสด็จพ่อวันนี้ลูกมีเรื่องจะทูลเสด็จพ่อเพคะ"

"หืม...เรื่องใดเล่า" เจ้าแคว้นสุ่ยเหอเหลียวมองหน้าชายา ทั้งสองประสานสายตาทว่าไม่มีผู้ใดทราบเช่นกันว่าบุตรสาวต้องการสิ่งใด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel