บท
ตั้งค่า

ตอนที่สอง ร้านชาเซียงซือ 2

ตอนที่สอง ร้านชาเซียงซือ 2

สองตายายกอดกันนั่งร้องไห้อย่างเศร้าหมองด้วยไม่อาจสู้กับนักเลงร้ายพวกนั้นได้ อีกทั้งยังโดนทำลายของทำมาหากินจนพังพินาศ

“ของพังหมดแล้ว พวกเราคงไม่อาจเปิดร้านได้อีก ตาเฒ่าเอ๊ย พวกเรากลับไปอยู่บ้านที่นอกเมืองกันดีกว่า” ยายเหลียนยอมถอยอย่างง่ายดายด้วยไม่อยากต่อสู้ให้วุ่นวาย

“พวกเราลำบากแทบตายกว่าจะมีวันนี้ หากยอมกลับไปแล้วอาจูเล่า จะทำอย่างไร”

“อาจูเป็นสาวแล้ว หากพวกนักเลงนั้นอยากรังแกพวกเราจริงๆอาจมีภัยใหญ่หลวง พวกเราควรพานางไปอยู่ให้ห่างไกล”

“แต่ร้านของพวกเราสร้างมาถึง30กว่าปี จะทิ้งไปง่ายๆด้วยการข่มขู่เช่นนี้จริงๆหรือ”

“ตาเฒ่าหม่า พวกเราเริ่มจากไม่มีร้านจนมาถึงทุกวันนี้ก็เพียงพอแล้ว เก็บเงินทองที่เหลือเอาไว้ให้อาจูได้เป็นสินเดิมแต่งงานออกไปกับคนดีดีเถอะ” ยายเหลียนคิดอย่างง่ายๆ

“เจ้าคิดว่าพวกนั้นจะยอมรามือหรือ”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น พวกเขาต้องการเพียงที่ดินผืนนี้ หากพวกเรายอมถอยออกไป พวกเขาย่อมไม่ทำอันตรายเราแน่”

“ร้านชาเซียงซือของพวกเราคงถึงจุดจบแล้วสินะ” เสียงหมองเศร้าดังออกมาจากปากของตาเฒ่าเซียงหม่า สายตาอ่อนล้ามองกวาดไปทั่วร้านซึ่งมีเศษกระเบื้องและข้าวของแตกหักกระจัดกระจาย

เขาคิดค้นสูตรชาอยู่หลายปีกว่าจะสร้างชารสเลิศจนมีลูกค้าติดใจบอกกล่าวกันปากต่อปาก

มาถึงวันนี้ ร้านชาของเขานับว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง กระทั่งขุนนางใหญ่หรือเชื้อพระวงศ์ยังต้องแอบมาลองชิมหรือให้คนมาซื้อหาไปลิ้มลองอยู่บ่อยครั้ง

เขาคาดหวังให้ร้านชาอยู่รอดไปอีกหลายปีเพื่อให้หลานสาวได้มีกิจการของตนเองไม่ต้องพึ่งพิงเพียงชายหนุ่ม ที่ผ่านมาจึงพยายามสอนการชงชาและถ่ายทอดความรู้ให้หลานสาวจนหมดไส้หมดพุง

ผู้ใดจะคาดว่าวันหนึ่งกลับไม่มีร้านชาเซียงซือให้สืบทอดแล้วด้วยจู่ๆก็มีผู้ยิ่งใหญ่อยากได้ที่ดินตรงนี้ แล้วส่งนักเลงมาคุกคามสร้างเรื่องเกือบทุกวัน จนล่าสุดที่ถึงกับทำลายข้าวของจนพังเกือบทั้งร้าน

สองตาเฒ่าและยายเฒ่ายังครุ่นคิดไม่ตกว่าจะยอมถอยแต่โดยดีหรือจะสู้กลับด้วยการไปฟ้องร้องทางการ

มิคาดว่าพวกนักเลงโตกลับไม่ยอมปล่อยวางยกพวกมาปิดกั้นทางเข้าออกไม่ให้ลูกค้าได้มาถึงร้านชาง่ายๆอีกทั้งยังเข้ามาหาเรื่องทุบตีตาเฒ่าเซียงหม่าจนบาดเจ็บ

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ตาเซียงหม่าก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวประกอบกับความเสียใจจึงสิ้นลมไปในอ้อมกอดของเมียคู่ทุกข์คู่ยากและหลานสาว

เซียงเจินจูซึ่งเดิมเป็นเด็กสาวอ่อนแอเรียบร้อยถึงกับล้มป่วยไปอีกคนด้วยความเศร้าเสียใจ และนั่นก็เป็นวันที่ไข่มุกได้เข้ามาในร่างนี้พอดี

หมายความว่านายทุนใหญ่อยากได้ที่ดินตรงนี้จึงส่งนักเลงมาคุกคามสร้างเรื่องทำให้ตาของเซียงเจินจูต้องตาย

กว่าไข่มุกจะบีบอัดย่อยความทรงจำเหล่านั้นจนเข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น เหงื่อก็ออกจนเปียกท่วมตัว

หญิงสาวนอนนิ่งคิดอย่างกังวัลใจ เธอยังต้องตื่นไปดูแลร้านชานมไข่มุกของตนเอง แม้จะมีลูกน้องอยู่หลายคน แต่ด้วยร้านของเธอขายดีมากเพราะเธอใช้ใบชาที่ผสมผสานจากการคิดค้นอยู่หลายเดือน อีกทั้งยังมีสูตรการต้มที่ไม่เหมือนใครจึงทำให้รสชาติชาหอมอร่อย เพียงแค่กำลังต้มกลิ่นก็ลอยออกไปยั่วจมูกจนลูกค้าต้องมายืนออรอที่หน้าร้านแล้ว

ลูกน้องที่สลับสับเปลี่ยนกันมักจะชงชาให้ลูกค้าไม่ทันโดยเฉพาะช่วงพักซึ่งจะมีคนทำงานแห่มาสั่งพร้อมๆกันทีละหลายๆแก้วจนแม้แต่เธอยังหัวหมุน

หญิงสาวจึงไม่ใคร่ยอมไปไหนเพราะงกเงินไม่อยากพลาดการหารายได้ที่มีเข้ามา อีกอย่างเธอไม่เคยบอกสูตรการผสมใบชากับใคร ดังนั้นหากสต๊อกใบชาที่มีในร้านหมด พวกเขาคงไม่มีวัตถุดิบในการต้มชาอีกแน่

ถ้าเธอยังมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ คงพลาดการหาเงินไปหลายสตางค์ทีเดียว

ทำอย่างไรดี ไม่น่าเดินตามคุณยายคนนั้นมาเลย ต้องติดอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนกัน

เมื่อได้ยินเสียงดังที่หน้าประตูอีกครั้ง ไข่มุกจึงชันร่างลุกขึ้นเอนนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง

“เอ้า...ดื่มยาเสีย ขมสักนิด ยายเอาน้ำตาลกรวดมาให้อมแล้ว”

หญิงสาวเอื้อมมือรับถ้วยยาสีดำมาดื่มรวดเดียวแล้วอมน้ำตาลกรวดตามเข้าไปในปากขณะรีบพูด

“ยายจ๋า หนูอยากกลับไป ยายพาหนูกลับเถอะนะ หนูไม่อยากได้ผู้ชายอะไรที่ว่าแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel