ตอนที่สาม ควรทำอย่างไรดี
หลังจากนอนพักอีกไม่กี่วันด้วยได้ยาที่ฮูหยินใหญ่ส่งเข้ามาให้ สาวน้อยไป่เหลียนฮวาจึงแข็งแรงจนลุกขึ้นมาช่วยงานได้บ้าง
“อาหนิง กำลังจะไปที่ใดหรือ” ไป่เหลียนฮวาเห็นสาวใช้กำลังเดินอย่างเร่งรีบจึงเอ่ยถามขึ้น
“วันนี้มีขุนนางผู้ใหญ่จองตัวคุณหนูรอง บ่าวต้องรีบออกไปช่วยยกอาหารและสุราเจ้าค่ะ”
“ข้าออกไปช่วยเจ้าด้วยดีหรือไม่” ด้วยอยากออกไปดูบรรยากาศหอเริงรมย์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เผื่อนำมาคิดอีกทีว่าควรทำอย่างไร สาวน้อยไป่เหลียนฮวาจึงเสนอตัวช่วยเหลือ
“แต่...” อาหนิงกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ ไป่เหลียนฮวาจึงรีบยกข้ออ้างออกมา
“ข้าอยากเห็นด้านนอกบ้างเผื่อทำใจเอาไว้ ข้าสวมชุดซอมซ่อถึงเพียงนี้คงไม่มีผู้ใดใส่ใจ หากเจ้ากังวลใจ ข้าจะก้มหน้าก้มตาเอาไว้ อ้อ...ข้าจะเอาขี้เถ้านี่ทาหน้าด้วย ดีหรือไม่” ไป่เหลียนฮวาคว้าขี้เถ้าบนเตาข้างๆมาทาหน้านิดหนึ่งเพื่อไม่ให้ดูเปล่งปลั่งจนเกินไป
“หากคุณหนูสามต้องการเช่นนั้นก็เดินตามบ่าวมาเจ้าค่ะ คุณหนูเดินระมัดระวังอย่าได้หลงทางนะเจ้าคะ ตึกนอกนี้มีห้องหับมากมาย คณิกาแต่ละนางล้วนมีห้องส่วนตัวคล้ายๆกัน หากหลงทางไปคงลำบากมาก” อาหนิงบอกก่อนจะรีบพานายสาวเดินตามกันไปอย่างรวดเร็ว
ตึกนอกนี้ดูโอ่โถงหรูหราผิดกับด้านหลังราวฟ้ากับเหว สาวใช้และผู้ดูแลเดินว่อนกันไปมาขวักไขว่
“คุณหนูตามมาทางนี้เจ้าค่ะ เร็วเข้า” อาหนิงส่งเสียงเรียกเมื่อเห็นว่านายสาวมัวแต่หยุดมองรอบข้าง
ไป่เหลียนฮวาเดินตามจนมาถึงมุมหนึ่งของตึกใหญ่โต
“เจ้าไม่ต้องบอกพี่หญิงรองว่าข้ามาด้วย ข้าจะคอยช่วยหยิบจับอาหารอยู่ด้านนอก” ไป่เหลียนฮวารีบบอกอาหนิง
อาหนิงพยักหน้าก่อนจะรีบผลักประตูเข้าไปเพื่อจัดโต๊ะและเตรียมออกไปนำอาหารจากโรงครัวเข้าไป
“คุณหนูยืนรออยู่ละแวกนี้ก่อนอย่าได้ไปที่ใดไกลนัก ข้าจะไปนำอาหารและสุรามาเจ้าค่ะ”
ไป่เหลียนฮวาพยักหน้าก่อนจะถอยตัวเองหลบเข้ามุมเสาไป
ไม่นานก็ได้ยินเสียงครวญครางดังลั่นมาจากห้องตรงข้าม ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงอดไม่ได้ที่จะค่อยๆย่องไปแอบดูจากหน้าต่างด้านข้าง
ภาพที่เห็นทำให้ไป่เหลียนฮวาถึงกับอ้าปากค้างด้วยชายหญิงในห้องไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากการกระแทกกระทั้นกันอย่างรุนแรง
“คุณชาย อา...โอว...แรงอีกเจ้าค่ะ...อา....”
“เป็นอย่างไร แรงดีใช่หรือไม่ แรงอีกหรือไม่ โอว...เจ้านี่ช่าง...อู้...”
สองร่างเปลือยกายสอดใส่กันด้วยท่วงท่าอันชวนหวาดเสียว ด้วยฝ่ายหญิงโก้งโค้งสะโพกจนโดดเด่นในขณะที่มือเท้าอยู่กับโต๊ะ ส่วนฝ่ายชายสอดใส่เข้ามาจากทางด้านหลัง สองมือโอบทรวงอกหญิงสาวขยำขยี้อย่างแรง พร้อมการกระแทกไม่ยั้ง
เสียงครวญครางดังลั่นจนบัวสโรชินีต้องหลบออกมาเสียเอง แม้จะเคยเห็นเรื่องอย่างนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีประสบการณ์มากมายขนาดนั้น ส่วนร่างนี้ของไป่เหลียนฮวาน่าจะยังเป็นสาวน้อยบริสุทธิ์
อาหนิงเคยเล่าว่า ชายคู่หมั้นแซ่เฉาพยายามหลอกล่อนายสาวอยู่บ้าง แต่เขาก็ได้สัมผัสเพียงแค่จุมพิตและลูบไล้นิดหน่อยเท่านั้น ด้วย
ไป่เหลียนฮวายังไม่กล้าปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนเกินไป
เมื่อมาเห็นการร่วมรักอย่างเต็มตาทั้งภาพและเสียงขนาดนี้ สาวน้อยไป่เหลียนฮวาจึงขอถอยไปตั้งหลักก่อน
เมื่ออาหนิงนำอาหารมาถึง ไป่เหลียนฮวาจึงช่วยหยิบจัดเรียงเพื่อให้นางยกเข้าไปวางให้แขกของพี่หญิงรองได้อิ่มหนำสำราญ ก่อนจะเดินออกมาเพราะไม่อยากเห็นภาพพี่สาวกับชายหนุ่มทำอันใดกัน
เมื่อเดินออกมาเฉียดผ่านห้องโถงกลาง ไป่เหลียนฮวาจึงย่องไปแอบดูบรรยากาศอันแสนคึกคัก
โอ้โฮ้ ที่นี่คนเยอะมาก ทั้งแขกชายและหญิงสาวซึ่งคอยเดินรับแขก หอเริงรมย์แห่งนี้น่าจะเป็นที่นิยมมากทีเดียว
แขกชายส่วนใหญ่เมามายมือไม้ลวนลามหญิงสาวซึ่งเดินผ่านไปมาเกือบทุกคน
หญิงสาวส่วนใหญ่มีจริตจะก้าน วี๊ดว๊ายเรียกความสนใจ บางรายก็ลงไปนั่งตักชายหนุ่ม แต่บางรายก็รีบเดินหนีออกไป
ส่วนโถงกลางมีดนตรีเล่นเสียงดังฟังดูสนุกสนานสมกับเป็นสถานเริงรมย์ตามชื่อ
เมื่อไป่เหลียนฮวากลับมาถึงห้องพักจึงได้แต่นั่งคิดว่าควรจะยอมตามน้ำไปโดยดีหรือควรจะทำอะไรสักอย่าง
หลังจากพักผ่อนมาได้ระยะหนึ่ง อาหนิงก็นำข่าวร้ายเข้ามาบอกกล่าว
“ท่านป้าผู้ดูแลบอกคุณหนูรองว่าอีกไม่กี่วันจะแขวนป้ายคุณหนูสามเจ้าค่ะ”
ท่านแม่ของไป่เหลียนฮวาผวาเข้ามากอดบุตรสาวร้องไห้เสียใจอย่างหนัก
“แม่ขอโทษ แม่ไม่สามารถช่วยอันใดเจ้าได้ ชีวิตดีดีของหญิงสาวคนหนึ่งต้องมาจบสิ้นลงที่นี่ ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก”
“พวกเราหนีออกไปได้หรือไม่เจ้าค่ะ” ไป่เหลียนฮวาลองเสนอทางออก
“ไม่ได้หรอก พวกเราเป็นนักโทษของทางการโดนส่งเข้ามาที่นี่ก็เหมือนการรับโทษ ถึงไม่ได้โดนกักขังแต่ก็ไม่สามารถออกไปที่ใดได้ หากพวกเราหนีออกไปแล้วโดนจับได้ก็มีโทษเดียวคือประหารเท่านั้น” จางซื่อบอกอย่างทดท้อ
“มิน่าพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองจึงยอมรับชะตากรรมโดยดี”
“ใช่คุณหนูใหญ่และคุณหนูรองแม้จะร้องไห้อย่างหนัก แต่สุดท้ายก็ต้องยินยอมด้วยไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ อย่างน้อยการยินยอมรับแขกก็ทำให้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังช่วยให้ฮูหยินใหญ่ได้ออกไปอยู่อย่างสุขสบายด้วย หากเจ้าออกไปรับแขก แม่ก็คงได้ออกไปอยู่กับฮูหยินใหญ่อีกคน มิต้องคอยเทกระโถนล้างห้องน้ำอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้”
ไป่เหลียนฮวาหรือบัวสโรชินีนิ่งฟังพร้อมกับมองหน้ามารดาของไป่เหลียนฮวาไปด้วย
สรุปว่านางเป็นห่วงบุตรสาวหรือเป็นห่วงตัวเองกันแน่
“แม่ไม่ได้ต้องการให้เจ้าออกไปรับแขก แต่ในเมื่อไม่มีหนทางอื่น พวกเราก็คงต้องยอมรับชะตากรรม” จางซื่อก้มหน้าลงเช็ดน้ำตา
รับชะตากรรมหรือ ฉันเลือกได้ไหม
