บทย่อ
ชีวิตครั้งก่อน ‘ฟู่ฟางซิน’ สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างจนไม่มีอันใดหลงเหลือแม้สักนิด จากคุณหนูผู้สูงศักดิ์กลับกลายเป็นเพียงสาวใช้ในชั่วพริบตาเดียวด้วยน้ำมือของคนใกล้ตัวที่นางไว้ใจที่สุด เมื่อนางมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง นางจะทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางกลับคืนมาให้หมด
สูญเสียทุกอย่าง
ฟู่ฟางซินมองเรือนไม้หลังเก่าแสนทรุดโทรมที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะพังถล่มลงมาพร้อมกับน้ำตาซึม นางอดหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนไม่ได้ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้นางกับน้องชายสูญเสียบิดาและมารดาในคราวเดียวกัน ไม่เพียงแค่นั้นท่านน้าที่นางให้ความเชื่อใจได้แย่งชิงทุกอย่างที่เป็นของนางกับน้องชายไปจนหมดสิ้น ทิ้งไว้เพียงเรือนหลังเก่าที่ตั้งอยู่ใกล้โกดังเก็บของของจวนตระกูลฟู่ให้นางได้อยู่อาศัย
“ท่านพี่ ข้าหิวขอรับ” เด็กน้อยวัยแปดขวบบอกพี่สาว เมื่อเห็นหน้านาง
“ซานเฉิง เจ้ากินน้ำรองท้องไปก่อน รอรุ่งเช้าเมื่อใดพี่จะรีบไปหาของกินให้เจ้า” นางเอ่ยปลอบใจน้องชาย ทั้ง ๆ ที่ในใจรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก อย่าว่าแต่อาหารเลยแม้แต่หมั่นโถวสักลูก นางยังไม่สามารถนำมาให้น้องชายได้ นับเป็นวันที่สองแล้วที่สองพี่น้องไม่ได้มีอะไรตกถึงท้อง ยกเว้นเสียแต่น้ำเปล่าที่ใช้ดื่มประทังชีวิต
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูเสียงดัง
“ฮูหยินให้ข้านำอาหารมาให้” เสียงสาวใช้เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงแสนแข็งกระด้าง
“ขอบใจ” นางเปิดประตู ก่อนเอ่ยขอบคุณ ในที่สุดนางกับน้องก็จะได้มีอะไรตกถึงท้องแล้ว
“น้องพี่ อาหารพวกนี้เจ้าต้องกินอย่างรู้คุณค่าเจ้าเข้าใจหรือไม่” ฟางซินบอกน้องชายพร้อมส่งยิ้มจาง ๆ
“ท่านพี่ไม่กินหรือขอรับ” เขาถาม เมื่อไม่เห็นว่าพี่สาวจะลงมือกินอาหารเสียที มีเพียงเขาเท่านั้นที่กิน
“พี่รอให้เจ้ากินอิ่มก่อน”
“กินด้วยกันเถิดขอรับ” ขณะที่ซานเฉิงยื่นตะเกียบให้ผู้เป็นพี่สาว จู่ ๆ จมูกของเขาก็มีเลือดไหลออกมา พร้อมกับสำลักอาหารที่กินเข้าไป
“ซานเฉิง!” ฟางซินตกใจยิ่งนัก เมื่อเห็นอาการของน้องชาย ก่อนที่จะเขย่าตัวเขาไปมา หวังให้อาหารที่เพิ่งกินเข้าไปสำลักออกมาให้มากที่สุด
“ทะ...ทรมาน” สิ้นคำ เด็กน้อยก็สิ้นใจคาอ้อมแขนของพี่สาว
“ซานเฉิง เจ้าอย่าทิ้งพี่ไปเช่นนี้” นางร่ำไห้ราวจะขาดใจ พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของน้องชายเพียงคนเดียวไว้แน่น
ครั้นเวลาผ่านไปได้ไม่กี่เดือน ใบหน้าของนางจากเดิมที่ยังพอมีเค้าลางความงดงามหลงเหลืออยู่บ้าง ทว่าบัดนี้กลับซีดผอมลงจนหนังแทบหุ้มกระดูก เหตุเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นางยืนจ้องมองหลุมศพสองหลุมที่ไม่มีแม้แต่ป้ายชื่อด้วยความคิดถึงอย่างถึงที่สุด
หลุมศพแรกเป็นของสาวใช้คนสนิทของนางอย่างลี่ผิงที่จากไปก่อนหน้าน้องชายของนางไม่นานเท่าใดนัก เพราะนางแอบลอบเข้าครัวกลางดึกเพื่อขโมยอาหารมาให้เจ้านายของตัวเอง จนทำให้นางถูกลู่จิ่งอี้ น้าสาวของนางเฆี่ยนตีจนตาย ส่วนหลุมศพที่ตั้งอยู่ข้างกันคือหลุมศพของซานเฉิง น้องชายของนาง
สามปีก่อน
ใต้เท้าฟู่พร้อมฮูหยินเดินทางไปต่างเมือง โดยทิ้งให้บุตรสาววัยสิบสี่กับบุตรชายวัยห้าขวบไว้กับแม่นม
“ฟางซิน ยามที่พ่อกับท่านแม่ของเจ้าไม่อยู่ อย่าได้ซุกซนนักล่ะ แม่นมกัว ข้าฝากลูก ๆ ของข้าด้วย”
“ฟางซินจะรอพวกท่านกลับมานะเจ้าคะ” นางเอ่ยกับบิดาและมารดาพร้อมเข้าสวมกอดทั้งคู่
ทว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงสามวันนางกลับได้รับข่าวร้ายที่ทำให้ใจของนายแตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี
“ซินเอ๋อร์” เสียงสตรีอ่อนวัยกว่ามารดาของนางเอ่ยเรียก
“ท่านน้า”
“ข้ามีข่าวร้ายมาบอกเจ้า” ลู่จิ่งอี้เดินเข้าไปใกล้หลานสาว ก่อนจับไหล่ทั้งสองข้างของนางเบา ๆ
“รถม้าของท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้าตกเหว มีคนพบศพพวกเขาที่ตีนเขาแล้ว” นางร่ำไห้ไปพลางเอ่ยไปพลาง แสร้งตีหน้าเศร้าแสดงออกว่ารู้สึกเสียใจเพียงใด
“ฮึก” ฟางซินทำได้เพียงร้องไห้ออกมาเท่านั้น
“แม้เจ้าจะสูญเสียบิดาและมารดาไป แต่เจ้ายังมีข้ากับน้าเขยของเจ้า พวกข้าจะดูแลเจ้ากับน้องเอง”
ครั้นได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า นางสวมกอดทันทีเพราะถึงอย่างไรเสียนางยังมีญาติฝ่ายแม่คอยดูแล

