3
ดลวัตรปรายตามองลูกน้องคนสนิทอย่างรู้ทัน แต่ก็ช่างเถอะ วันนี้เขาอารมณ์ดี…ต่อให้คุณแม่ตั้งใจจะกลั่นแกล้งเลือกสาวเฉิ่ม ๆ ให้มาเป็นเลขาของเขาก็หมดสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น เพราะทุกคนที่มา สวยได้มาตรฐานกันหมดทุกคน
หญิงสาวคนสุดท้าย นางสาวเพียงขวัญ จันทร์เต็มดวง .....เกิดวันที่......วันเดือนปีเดียวกับดลวัตรเป๊ะ....รอยยิ้มปรากฏตรงมุมปากของหญิงสูงวัยที่ยังสวยพริ้ง ก่อนเจ้าตัวจะปรับสีหน้ากลับมาให้แลดูเคร่งขรึม น่าเกรงขาม
“สวัสดีค่ะ” เพียงขวัญกระพุ่มมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ก่อนจะได้รับอนุญาตให้นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่
“หนูเป็นคนที่เรียกเงินเดือนสูงที่สุด ในบรรดาผู้ที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้...ไหนลองบอกเหตุผลที่บริษัทของเราควรเลือกหนู” คุณดาริกา จงใจไม่แนะนำตัว ถามเข้าประเด็นทันทีที่ เงยหน้าจากเอกสารในมือ สายตาพินิจพิจารณาผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า ราวกับจะเอ็กเรย์เข้าไปถึงโครงกระดูก
“เพราะความรู้และประสบการณ์ของดิฉัน จะทำให้งานในความรับผิดชอบของบอส ดำเนินไปอย่างราบรื่นค่ะ” เพียงขวัญตอบฉะฉาน ไม่มีอาการประหม่าแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจ ที่ผู้อาวุโสเรียกหล่อนว่าหนูด้วยท่าทีสนิทสนม แล้วยังน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเอ็นดูนั่นอีก หรือว่าท่านจะเป็นคนใจดีแบบนี้กับทุกคน.....แต่ก็ไม่น่าจะใช้ เพราะคนก่อน ๆ ที่ออกจากห้องนี้ น่าจะไม่ได้เจออะไรแบบนี้เพราะสังเกตจากท่าทางห่อเหี่ยวต่างจากตอนเข้ามากันทุกคน
“นึกว่าจะมาทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง เหมือนยี่สิบคนแรกเสียอีก” คุณดาริกาถามยิ้ม ๆ พลางจ้องมองหญิงสาวอย่างรอคอยคำตอบ พลางพินิจพิจารณารูปร่างหน้าตา กิริยามารยาทของหญิงสาวตรงหน้าไปด้วย
“ถ้าดิฉันตอบแบบนั้นก็จะดูเกินจริงไปหน่อยค่ะ เพราะเลขา ไม่สามารถกำหนดทิศทางของบริษัทได้.....นั่นคือบทบาทของผู้บริหาร...... เพียงแต่สามารถสนับสนุนให้งานของบอส ราบรื่น คล่องตัวและทำงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ขาดตกบกพร่องค่ะ”
“เอาล่ะ...งั้นบอกได้ไหมว่าทำไมหนูถึงเปลี่ยนงานบ่อยนัก” คุณดาริกาเปลี่ยนเรื่อง ไม่ได้แสดงออกว่าพึงพอใจหรือไม่ สำหรับคำตอบเมื่อสักครู่เพียงแต่พยักหน้ารับ
“เอ่อ....คือว่า.....” เป็นครั้งแรกที่เพียงขวัญ แสดงความไม่มั่นใจออกมา ไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง
“หรือว่าบริษัทเหล่านั้นเอาเปรียบหนู ใช้งานหนักเกินไป” ผู้มากประสบการณ์ใช้คำถามนำ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ....คือ...ครั้งสุดท้ายนี่ ดิฉันตีศีรษะเจ้านายแตก เพราะเขาพยายามจะลวนลาม และครั้งก่อน ๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ” เพียงขวัญตอบตามตรง หล่อนไม่ ชอบโกหกแค่คิดว่าจะพูดให้ดูดีกว่านี้ ก็พูดไม่ออก จึงตอบออกไปลุ่น ๆ ตามความจริง
คุณดาริกาหัวเราะชอบใจ...แววตาเจิดจรัสขึ้น......ต้องอย่างนี้สิ ถูกใจเหลือเกิน
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน......ฉันจะให้เงินเดือนหนูเพียงขวัญเพิ่มอีกเท่าตัว หากหนูยอมทำหน้าที่พิเศษเพิ่ม” ผู้สูงวัยกว่ากล่าวยิ้ม ๆ
“คะ?....”เพียงขวัญงุนงง ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ แต่คำว่าเพิ่มเงินให้อีกเท่าตัวก็เรียกความสนใจจากหญิงสาวได้ไม่น้อย นั่นหมายถึงว่า หล่อนจะเก็บเงินเพื่อทำตามความฝันได้เร็วยิ่งขึ้น
“หนูคงยังไม่รู้ว่า....ฉันคือ คุณดาริกาแม่ของประธานและรองประธานบริษัทนี้” หญิง สูงวัยเพิ่งจะแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ
“เป็นคุณแม่หรือคะ....เอ่อ...คุณท่าน” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก นี่มัน เป็นการสัมภาษณ์งานเพื่อตำแหน่งเลขา หรือว่าหาลูกสะใภ้กันแน่……
“เรียกคุณป้าดีกว่าจ้ะ” คุณดาริกาบอกอย่างเป็นกันเอง
“จะดีหรือคะ มองยังไงคุณท่านก็ยังสาวกว่าคุณแม่ของหนูอยู่ดี” เพียงขวัญบอกตามตรง
“ใครว่าล่ะ ป้าแก่กว่าตั้งหลายเดือน” พูดไปแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองที่พูดมากเกือบทำเสียเรื่อง
“คุณท่านรู้จักกับคุณแม่ของหนูด้วยหรือคะ” เพียงขวัญประหลาดใจว่าเจ้าของบริษัทใหญ่โตระดับนี้ จะไปรู้จักมารดาของหล่อนได้ยังไงกัน ถึงแม้ว่าคุณนายจอมขวัญผู้เป็นมารดา จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯก็เถอะ แต่ก็ไปใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำรีสอร์ทเล็ก ๆที่ต่างจังหวัดตั้งนาน เกือบเท่าอายุของหล่อนก็ว่าได้
“เอ่อ...ป้าชอบให้คนเรียกแบบนี้ ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย...หนูตามใจป้าได้ไหมล่ะ”
เจ้าของบริษัทขอแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะทะแม่ง ๆ แต่ก็ช่างเถอะ หล่อนพบกับความโชคร้ายมามากแล้ว นี่อาจจะเป็นโชคดีของหล่อนก็ได้
“ค่ะคุณป้า แล้วเรื่องที่จะเพิ่มเงินเดือนให้หนูอีกตั้งเท่าตัว คุณป้าจะให้หนูทำงานพิเศษอะไรหรือคะ” ถึงแม้จะชอบเงิน แต่ก็ต้องพิจารณาเงื่อนไขของการได้มาด้วย เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยได้อะไรมาง่าย ๆ
“เรื่องนั้น…..ป้าขอพูดตรง ๆ นะ ดลวัตรลูกชายของป้าว่าที่บอสของหนู เจ้าชู้มาก... ใช้เลขาเปลือง พอ ๆ กับที่หนูใช้เจ้านายเปลืองนั่นแหละ” คุณดาริกาพูดติดตลก ก่อนจะเว้นจังหวะนิดหนึ่ง เมื่อเห็นหน้าตาของเพียงขวัญเปลี่ยนไปจากแช่มชื่นกลายเป็นสลดหดเหี่ยวลงเรื่อย ๆ
“ถ้าอย่างนั้นหนูก็คงต้องขอลาออกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงานแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างเสียดาย ไม่อยากให้ลูกชายของคุณป้าดาริกา ที่หล่อนรู้สึกถูกชะตาด้วยต้องมีชะตากรรมเหมือนเจ้านายคนก่อน ๆ ที่หัวร้างข้างแตก บ้างก็แขนหัก หลังเดี้ยง จบไม่สวยสักราย เพราะหล่อนเกลียดผู้ชายเจ้าชู้อย่างแรง ....... เฮ้อ...เสียดายจัง....
“ใจเย็นก่อนนะหนูเพียงขวัญ ....ลูกชายของป้าเจ้าชู้ก็จริง แต่เขาไม่เคยบังคับฝืนใจใคร ส่วนมากที่ต้องเปลี่ยนเลขาบ่อย ๆ ก็เพราะพวกหล่อนชอบที่จะล้ำเส้น แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หึงหวงจนเสียการปกครอง....ป้าถึงได้ต้องมาเก็บกวาด จัดระเบียบเสียใหม่ไงล่ะ”
“แต่ที่หนูต้องเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ก็เพราะเจ้านายเจ้าชู้ แถมยัง.....ทำร้ายร่างกายพวกเขาอีก อย่างที่เล่าให้คุณป้าฟังน่ะค่ะ....คือหนูเกรงว่าจะพลั้งมือทำสิ่งที่ไม่สมควรลงไป” เพียงขวัญให้เหตุผลเสียงอ่อย เสียดายงานก็เสียดาย......
“ก็อย่าให้ถึงตายก็พอ” คุณดาริกาบอกเสียงเรียบเรื่อย ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มไม่จางคลาย
