2
“สาธุ....ขอให้เป็นอย่างที่แกหวัง...แต่ยังไงก็ระวังไว้หน่อยก็แล้วกัน” กวินตราพูดกับเพื่อนสีหน้าจริงจัง
“อะไร”
“ก็....ระวังหินปูนเกาะนะแก ของอะไรที่ไม่ได้ใช้ ทิ้งไว้นาน ๆ ต้องหาคนขูดออกให้น๊า....” กวินตรายื่นหน้าเข้ามามองลงไปในดวงตาสื่อความนัย แววตาวิบวับ
“หินปูนเกาะ?” เพียงขวัญเก่งทุกอย่างทั้งหมัด เข่า ศอก อีกทั้งยังเป็นนักเทควันโดสายดำอีกต่างหาก ยกเว้นเรื่องสิบแปดบวก ที่หล่อนอ่อนด้อยมาก ถึงมากที่สุด อาจจะเพราะไม่เคยมีแฟน ไม่สนใจผู้ชายคนไหน จนคนในมหาวิทยาลัยพากันคิดว่าหล่อนเป็นทอม ในขณะที่กวินตราเป็นดี้ เนื่องจากสองสาวจะทำตัวติดกันตลอดและเพียงขวัญก็เป็นคนปกป้องกวินตรามาตลอดเหมือนกัน เดี๋ยวนี้หล่อนคิดไม่ทันเพื่อนสาว ที่ชอบพูดจาติดเรท ขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่แต่งงานกับท่านประธาน สามีจอมหื่น.....ทำเพื่อนเสียเด็กหมด
กวินตราขัดใจ ที่เพื่อนยังงงไม่หาย จึงโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหู
“เฮ้ย ! ทะลึ่ง” เพียงขวัญต่อว่าเพื่อน พร้อมกับหุบขาเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ทำให้กวินตรา ถึงกับขำก๊าก.........
หลังจากเพียงขวัญได้คุยกับเพื่อนรัก ระบายความอึดอัด ก็กลับมาที่คอนโดที่หล่อนซื้อมันด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองล้วน ๆ ถึงแม้จะยังผ่อนไม่หมด แต่ก็ถือว่าใกล้เต็มทีหญิงสาวไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากทางบ้าน ดังนั้นหล่อนจึงไม่มีเวลามานอนหายใจทิ้งไปวัน ๆ ตลอดช่วงบ่าย เพียงขวัญจึงนั่งเพ่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อหางาน หล่อนบันทึกไว้หลายแห่งเตรียมร่อนใบสมัคร จนกระทั่งกะว่าจะปิดจอพักสายตา ก็เจอเข้ากับบริษัทใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดที่หล่อนพัก ไม่นึกไม่ฝันว่าบริษัทใหญ่แห่งนี้จะเปิดรับเลขาด้วย ถ้าหล่อนได้ทำงานที่นี่ ถือว่าโชคดียิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก
เพียงขวัญจัดการส่งใบสมัครไปที่นี่ก่อนเลย เพราะทางบริษัทแจ้งว่าด่วนหมดเขตวันนี้.....หลังจากกดส่งใบสมัครผ่านหน้าเว็ปของบริษัทไม่ถึงสิบนาที ก็มีแมสเสสแจ้งว่าให้ไปสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า
เพียงขวัญดีใจ กระโดดจนตัวลอย ขอเพียงให้ทางนั้น เรียกสัมภาษณ์ หล่อนมั่นใจว่าด้วยความสามารถและประสบการณ์ของตัวเองทำให้โอกาสได้งานมีมากขึ้นแน่นอน....ถ้าไม่นับรวมที่หล่อนจบไม่สวยกับที่ทำงานก่อน ๆ น่ะนะ.......
หญิงสาวรูปร่างเล็กเอวบางสะโพกผายแลดูกลมกลึงสมส่วน แต่งกายด้วยชุดสูทกางเกงสีขาวเรียบหรูดูดี ผมยาวดัดลอนปลายถูกรวบเก็บอย่างเรียบร้อยเผยให้เห็นใบหน้าสวยจัด หล่อนก้าวเดินอย่างมั่นคงบนรองเท้าส้นสูงห้านิ้วคู่เก่งสีแดงมันปลาบ ด้วยความสูง 165 เซนติเมตร ทำให้หล่อนคุ้นชินกับรองเท้าส้นสูงระดับนี้ เพราะมันช่วยให้ดูโดดเด่นและเพิ่มความมั่นใจขึ้นอีกหลายระดับ
หลังจากเพียงขวัญสอบถามรายละเอียดกับประชาสัมพันธ์ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถพาตัวเองมานั่งรอหน้าห้องที่จะทำการสัมภาษณ์ได้ก่อนเวลาสิบนาทีแต่ก็ยังเป็นคนสุดท้ายอยู่ดีเพราะมีหญิงสาวนั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้วประมาณยี่สิบคนเห็นจะได้ แต่หญิงสาวหาได้หวั่นไม่ หล่อนพกความมั่นใจมาเกินร้อย
ภายในห้องสัมภาษณ์ คุณดาริกา
มารดาคนสวยของท่านประธานและท่านรองแห่ง เคเอ็นเอฟกรุ๊ป ที่ยังแข็งแรงและดูสาวกว่าวัย ส่วนเจ้าสัวเธียรผู้เป็นสามีนั้น ได้วางมือไปนานแล้ว และเหตุที่คุณดาริกาต้องลงมาสัมภาษณ์บรรดาสาว ๆ ที่จะมาเป็นเลขาของลูกชายคนเล็กด้วยตัวเองก็เพราะ สามปีมานี้หลังจากที่ดลวัตร จบปริญญาโทด้านบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาและเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัทแทนพี่ชายคือพัชร ที่เลื่อนขึ้นเป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว...ทุกอย่างน่าจะไปได้ดี แต่มีเหตุให้รำคาญใจคนเป็นแม่ ก็เพราะความเจ้าชู้อย่างหาตัวจับยากของเจ้าลูกชายตัวแสบ......ดังนั้น...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
สาว ๆ ทั้งยี่สิบคน แต่ละนางนั้นล้วนมีความสวยไม่แพ้กัน ราวกับเปิดรับสมัครประกวดนางงาม ทุกคนถูกเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ คนละไม่เกินห้านาทีก็ออกมาด้วยหน้าตาที่ต่างจากตอนเข้าไปลิบลับ ทำให้คนที่เหลือรอคอยด้วยความหวังที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทางด้านดลวัตรที่ถูกกันให้ออกไปตามความต้องการของมารดา มีหรือที่เขาจะยอม ชายหนุ่มมานั่งอยู่ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด จับตาดูผู้หญิงคนใหม่...เอ้ย ! ...เลขาคนใหม่ของเขาอย่างสบายอารมณ์....งานนี้ต่อให้มารดาเลือกคนที่ขี้เหร่ที่สุด ก็ยังสวยถูกใจเขาอยู่ดี เพราะเท่าที่ดูมา แต่ละนางพกของกันมาไม่ใช่น้อย
“เอ่อ..คุณดลครับ มาแอบดูแบบนี้ ไม่กลัวว่าคุณนายแม่จะโกรธหรือครับ” วิทวัส บอดีการ์ดส่วนตัวที่เติบโตมาด้วยกัน ทำงานใกล้ชิดสนิทและรู้ใจเขามากที่สุด…แต่ตอนนี้เขากลับลำบากใจเมื่อนายแม่เรียกไปเทศนาเสียยกใหญ่ ไม่ให้พากันออกนอกลู่นอกทาง....แถมยังคาดโทษ หากเขาไม่เชื่อฟัง จะให้ไปเป็นยามหน้าคฤหาสน์หลังงามที่พำนักของเจ้าสัวกับคุณนายแม่หมดสิทธิ์หนีเที่ยว
“ถ้านายไม่พูด ฉันไม่พูดก็ไม่มีใครรู้” ดลวัตรพูดง่ายเสมอ ราวกับตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
วิทวัส ได้แต่ยืนเหงื่อแตกพลั่ก....เขาจะไม่พูดได้ยังไง ในเมื่อนายแม่กำชับนักหนาให้รายงานทุกอย่างละเอียดยิบ
“โอเค...ไปก็ได้...”ดลวัตรลุกขึ้นหันหลังให้กับหน้าจอ ในจังหวะสาวคนที่ยี่สิบเอ็ดเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์พอดี
“โอย...ค่อยยังชั่วหน่อย...กลับไปรอเลขาคนใหม่ที่ห้องทำงานเถอะนะครับ” วิทวัสรีบบอก เกรงว่าผู้เป็นนาย จะชวนไปสถานที่อโคจรทั้งที่ยังไม่เลิกงาน
