1
เหตุการณ์ชุลมุนตรงหน้า ทำให้หนุ่มหล่อเจ้าสำอางอย่างดลวัตรแทบจะหายเมาเป็นปลิดทิ้งชายหนุ่มสาวเท้าเข้าไปหมายจะช่วยหญิงสาวสวยเก๋ เรือนร่างสะโอดสะองแลดูน่าทะนุถนอม ที่กำลังจะโดนผู้ชายร่างยักษ์ลวนลาม แต่อนิจจา...พริบตานั้น สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ สาวเจ้าจับผู้ชายอกสามศอกทุ่มลงกับพื้น พร้อมกับตามไปบดขยี้ส้นรองเท้าแหลมเปี๊ยบไปบนยอดอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม จนอีกฝ่ายต้องยกมือยอมแพ้
“ขะ......ขอโทษคร๊าบ.....แค่ก....แค่ก.....” ผู้ชายตัวโต รีบรับคำละล่ำละลัก
“จำใส่สมองกลวง ๆ ของแกไว้....อย่ารังแกผู้หญิง ถ้าฉันเห็นแกทำเลว ๆ แบบนี้อีก แม่จะตัดให้เหลือแต่ตอเลยคอยดู........” สาวสวย สั่งเสียงเฉียบขาด พร้อมกับตวัดสันมือสาธิตบวกกับแววตาดุดันยืนยันว่าหล่อนพูดจริง ทำจริง
ดลวัตรสะดุ้งโหยง เผลอเอามือกุมเป้า ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเขาสักนิด ก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินจากไป ผู้หญิงต่อให้สวยแค่ไหนหากโหดเบอร์นี้ คาสโนวาอย่างดลวัตรขอบาย...อย่าให้ได้เจอะได้เจอกันเลย.............ชายหนุ่มคิดพร้อมกับ ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความจริงแล้วเขาสะดุดตากับสาวสวยมาดเท่ห์ตั้งแต่เห็นหล่อนนั่งที่โต๊ะท่ามกลางหญิงชายวัยใกล้เคียงกันครั้นเมื่อเห็นหล่อนลุกออกมาสักพัก เขาจึงได้เดินตามออกมาหมายจะเข้าไปทำความรู้จัก ถ้าโชคดีอาจได้สานสัมพันธ์มากกว่านั้น...และแน่นอนว่า มันเป็นแค่เพียงความสนุกชั่วคราวเท่านั้น ที่เขาหวังจากหล่อน...แต่โชคยังเข้าข้าง ที่ไอ้ผู้ชายร่างยักษ์นั่นดันซวย มารับเคราะห์แทนเสียก่อน ไม่อย่างนั้น วันนี้เขาคงดูไม่จืดเหมือนกัน….
เพียงขวัญอดีตเลขาสาวมั่นวัยยี่สิบเจ็ดปี นั่งทอดถอนใจเป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ เมื่อจู่ ๆ ก็ต้องตกงาน เพราะดันฟาดกบาลเจ้านายชีกอจนเลือดไหลอาบ...ต้องเดินหางานเป็นรอบที่สามของปีนี้ ซึ่งแต่ละครั้งล้วนเกิดจากมนุษย์ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเจ้านายทั้งสิ้น แต่ถ้าหล่อนยอมถอย เลือกกลับไปดูแลกิจการรีสอร์ทสามขวัญ ของที่บ้าน นั่นหมายถึงวันสิ้นสุดอิสรภาพของหล่อนทันทีที่ซมซานกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะคนเป็นแม่ประกาศิตว่าจะจับหล่อนวิวาห์กับลูกชายของเพื่อนรักทันที
“ยัยขวัญ...เป็นอะไรไปหืม...รอนานไหมพอดีรถมันติดเพราะชนกันวินาศสันตะโรเลยล่ะแกเอ้ย” เสียงบ่นนำมาก่อนตามแบบฉบับของกวินตราเลขาสาว ที่ได้ท่านประธานที่แสนดีเป็นสามี หญิงสาวหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ในร้านกาแฟเล็ก ๆ ตกแต่งน่ารัก อันเป็นร้านประจำของทั้งคู่ยามที่นัดเจอกัน เพราะบรรยากาศดีไม่มีมลพิษทางสายตาและที่สำคัญคือสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน
“มาถึงก็บ่นเป็นแม่แก่เลยนะแก......คุณนายกวินตรา” หญิงสาวยกแก้วกาแฟขึ้นดูดอย่างเซ็ง ๆ
“เออน่าแกก็รู้อยู่ว่าฉันขี้บ่น ยังจะไม่ชินอีก มีอะไรก็ว่ามาหรือว่าแก ไปทำเรื่องอะไรไว้อีก” หญิงสาวมองเพื่อนอย่างรู้ทัน
“เปล่า...ไอ้ผู้ชายเฮงซวยพวกนั้นต่างหากที่ทำกับฉันน่ะ ฉันแค่ฟาดกบาลมันคืนก็เท่านั้น” เพียงขวัญเล่าเรียบ ๆ เรื่อย ๆ
“อะไรนะ...เล่นหนักนะยะ....แล้วถึงตายหรือเปล่าอ่ะ” กวินตราไม่ได้ตกใจนักหรอก หล่อนชินกับเพื่อนสาวคนนี้เสียแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรจะต้องมีเรื่องกับเจ้านายผู้ชายอยู่ร่ำไป
“จะบ้าเหรอ ฉันยังไม่อยากไปนอนในคุกนะเว้ย...แค่สั่งสอนเบาะ ๆ อีตานั่นกะโหลกดันเปราะบางเองช่วยไม่ได้
พนักงานนำชาเขียวนมเข้ามาเสิร์ฟพอดี กวินตราเลยถือโอกาสดูดชาเขียวให้เย็นใจ ก่อนจะเริ่มวิตกแทนเพื่อน
“แล้วอย่างนี้ แกจะเอายังไงต่อ หรือจะกลับบ้านให้คุณนายจอมขวัญหาสามีให้ จะได้เลิกดิ้นรนซะทีห้าปีแล้วนะแก” กวินตรารู้ปัญหาของเพื่อนรักดี หล่อนยังเคยยุให้เพื่อนลองดูตัวกันก่อนด้วยซ้ำ...บางทีอาจจะถูกใจก็ได้.... แต่เพียงขวัญก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว
“ฮึ...จ้างให้ฉันก็ไม่กลับ ถ้าคุณแม่ยังไม่เลิกบังคับฉันเรื่องนั้น...ฉันจะหางานใหม่ จะเก็บเงินมาก ๆ แล้วก็เปิดธุรกิจของตัวเอง ไม่เห็นต้องมีสามีให้กวนใจ ฉันก็ดูแลตัวเองได้” เพียงขวัญเล่าความฝันให้เพื่อนฟัง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่ได้จำ เอาเป็นว่ากวินตราท่องจำได้ขึ้นใจนั่นแหละ
“ไม่แน่นะ...อีตาลูกชายเพื่อนแม่นั่นอาจจะเป็นเนื้อคู่แกก็ได้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้แกคงมีแฟนไปแล้ว” กวินตราตั้งข้อสังเกต
“ไม่มีทาง ลูกแหง่อย่างนายนั่นไม่ใช่สเป็คจ้ะ”
“เคยเจอแล้วหรือไง ถึงไปว่าเขาแบบนั้น”
“ยัง...ไม่ต้องเจอก็เดาออก ไม่อย่างนั้นจะยอมให้แม่จับคลุมถุงชนเหรอ”
“เออ...งั้นก็เกาะคานทองของแกไปเหอะ” กวินตราพูดอย่างปลงตก
“ไปทำงานที่บริษัทของคุณสามีฉันไหม” นี่ก็อีก ที่กวินตราชวนเพื่อนรักไม่รู้กี่รอบ แล้วคำตอบก็คงเดิม
“ไม่ล่ะ...ขอบใจแกก็รู้ว่าฉันเกลียดการใช้เส้นสายที่สุด”
“อืม....งั้นฉันก็ขออวยพรให้แกได้เนื้อคู่เร็ว ๆ ...เอ้ย...ได้งานเร็ว ๆ ก็แล้วกัน” กวินตราเซ็งกับความดื้อรั้นของเพื่อนรัก ก็เจ้าหล่อนประกาศปาว ๆ ว่า ชาตินี้จะเกาะคานไว้เยี่ยงชีพ......
“แกอย่ามาพูดเรื่องคู่ให้ขนลุกหน่อยเลยว่ะ”
“ทำไมล่ะ...ฉันว่ามันสนุก ตื่นเต้นเร้าใจต่างหาก... กวินตราเถียงกลับหน้าทะเล้น แถมทำเสียงกระเส่าชวนขนลุกอีกต่างหาก
“ไม่ต้องมาโน้มน้าวฉันให้ยากเลย...หรือว่าคุณนายจอมขวัญจ้างแกมา” เพียงขวัญจ้องหน้าเพื่อนสำรวจหาพิรุธ
“บ้าเหรอ....ว่าแต่แกจำเรื่องใบเซียมซีได้หรือเปล่า”
“อือ...แล้วไง” เพียงขวัญนึกถึงวันที่ไปทำบุญที่วัดกับเพื่อนเมื่อเดือนก่อน แล้วเข้าไปเขย่าเซียมซีด้วยกัน ได้ใบที่สิบสามจำได้ว่าจะเจอเนื้อคู่....แต่หล่อนไม่สนใจ เห็นเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาคิดจริงจัง
“ฉันว่านะ บางทีถ้าแกยอมกลับบ้าน อาจจะเจอเนื้อคู่จริง ๆ ก็ได้นะ...โชคชะตาพัดพาให้แกต้องตกงานบ่อย ๆ แกจะได้กลับบ้านไง” กวินตราวิเคราะห์เรื่องราว เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเสร็จสรรพ...หรือจะเรียกว่าจับแพะชนแกะก็ไม่ผิด
“เพ้อเจ้อน่า....คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้...ยังไงฉันก็ต้องเจอองค์กรที่เหมาะกับคนมากความสามารถในเร็ว ๆ นี้แน่นอน” เพียงขวัญบอกกับเพื่อนอย่างมั่นอกมั่นใจ
