23
“บางทีฉันก็อยากจะคิดอย่างนั้นอยู่นะ แต่ว่าทุกอย่างมันดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย เป็นไปได้เหรอ ที่ผู้ชายอย่างนั้นจะหยุดง่าย ๆ แล้วก็เกาะติดฉันยังกะปลิงควายแบบนี้” ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด นึกเห็นหน้าตาอ้อนแบบกวนโอ้ยสุด ๆ
“งั้นแกก็ลองหยุดเขาดูสิ ไม่ใช่ยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น”
“ฉันไม่ได้อยากมีสามีนี่ จะเรียกว่ายอมแพ้ได้ยังไง”
“แต่แกก็มีไปแล้ว หรือว่าแกมีเซ็กส์โดยไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตามใจแกนะ” กวินตรารู้ว่า แท้จริงแล้วเพื่อน ไม่ใช่สาวมั่นอย่างที่แสดงออก ไอ้ที่ทำเป็นเกาะคานเหนียวแน่นก็เพราะความกลัวนั่นแหละ กลัวโดนปฏิเสธ ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดใจคบกับใคร แค่โดนเพื่อนชายตีตัวออกห่างตอนอนุบาลสามเนื่องจากโดนเด็กหญิงเพียงขวัญที่แสนจ้ำม่ำล้มทับจนเข็ดขยาด....ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นั้น จะกลายมาเป็นแผลในใจถึงทุกวันนี้...กวินตรารู้ดี เพราะเพียงขวัญ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทุกทีที่เมาได้ที่
“มันก็แค่ความผิดพลาดป่ะล่ะ”
“แล้วแกจะยอมให้เขาเอาเรื่องแต่งงาน มาขู่อยู่อย่างนี้เหรอ นั่นเท่ากับให้เขากินฟรีเลยนะแก” กวินตราเตือนเพื่อนอย่างจริงจัง ไม่อยากจะชี้ชัดลงไปว่าเพื่อนมีใจกับฝ่ายชายไม่น้อยแต่ไม่ยอมรับความจริง ไม่อย่างนั้นจะยอมให้เขาข่มขู่อยู่อย่างนี้เหรอ...นักเทควันโดสายดำเชียวนะ....
“ฉันก็คิดอยู่ ว่าคนอย่างเขาน่ะเหรอจะยอมแต่งงานง่าย ๆ”
กวินตรากับเพียงขวัญมองหน้ากัน ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมกัน
“ต้องเอาคืน”
“ใช่เลย ยัยขวัญต้องอย่างนั้น” กวินตราชมเปาะ
“แล้วถ้าเกิดนายนั่น ยอมแต่งงาน ขึ้นมาง่าย ๆ ล่ะฉันไม่แย่เหรอ”
“แกก็แต่งจะกลัวอะไร ได้สามีรวยซะขนาดนั้น”
“อืม...น่าคิด...แล้วถ้า...”
“หยุดเลยยัยขวัญ ทีเรื่องต่อยตีไม่มีกลัวใคร แต่กลับมากลัวเรื่องหยุมหยิม ถ้าบอสของแก แกล้งหลอกปั่นหัวแกเล่น แกก็ต้องปั่นเขายิ่งกว่า...อุ้ย น่าสนุกดีออก” กวินตรายิ้มชอบใจที่โน้มน้าวเพื่อนได้สำเร็จ งานนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว มีแต่ได้กับได้ ยัยขวัญเอ้ย.....
หลังจากกล่อมเพื่อนจนเป็นที่พอใจ กว่าจะแยกย้ายกันกลับ ก็มืดค่ำแล้ว ขากลับ เพียงขวัญรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นและปลอดโปร่งโล่งใจมากด้วย เมื่อคิดแผนเอาคืนอีตาบอสจอมหื่นได้แล้ว
พัชรมาส่งเพียงขวัญที่คอนโดจนเกือบสี่ทุ่ม หญิงสาวกลับขึ้นคอนโดอย่างสบายอารมณ์ ตรงเข้าอาบน้ำชำระร่างกายอยู่นาน รู้สึกเบิกบานกว่าปกติอย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ต้องเห็นหน้าคนที่ชอบกวนใจ....แต่เอ๊ะอยู่ไหนหว่า.......
เพียงขวัญเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ถึงได้รู้ว่าแบตหมด หน้าจอดับสนิท แต่พอนำมาชาร์ต ปรากฏสายที่ไม่ได้รับเกือบร้อยสาย...จะเป็นของใครไม่ได้นอกจากของอีตาบอสจอมกวน.....จะโทรทำไมนักหนานะ
หญิงสาวโทรกลับ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ สงสัยงอนจนปิดเครื่องไปแล้วมั้ง คิดได้ดังนั้น ก็ล้มตัวลงนอนพักผ่อน และหลับไปอย่างรวดเร็ว
ทางด้าน ดลวัตร หลังจากพยายามติดต่อเพียงขวัญแต่ก็ติดต่อไม่ได้จนกระทั่งเลยเวลาเลิกงานมานาน จึงได้รู้จากวิทวัสว่า ท่านประธานพาเลขาของเขาไปพบลูกค้าถึงพัทยา ชายหนุ่มกรุ่นโกรธ หงุดหงิดยัยตัวแสบ จะส่งข้อความมาบอกกันสักหน่อยก็ยังดี แต่นี่ไม่มีเลย คงมีความสุขมากสินะ.....
“วิทวัส ป่ะที่เดิม” ดลวัตรชวนลูกน้องคนสนิท ไปสถานบันเทิงอันเป็นที่ดื่มกินเป็นประจำ
“อ้าว...นึกว่าเจ้านายเลิกเที่ยวแล้วซะอีก เดี๋ยวคุณเพียงขวัญไม่พอใจผมไม่รู้ด้วยน๊า...” วิทวัสทำเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยทั้งที่ดีใจจนเนื้อเต้น ไม่ได้เปิดหูเปิดตาหลายวันแล้ว
“ก็ผู้คุมอยากไม่อยู่เอง ช่วยไม่ได้” ดลวัตรยักไหล่ ก่อนจะออกไปกับลูกน้องคู่ใจ
ดึกดื่นคืนนั้น ทั้งสุรานารี มีมาจัดเต็ม สาว ๆ นั่งขนาบซ้ายขวาแข่งกันป้อน แข่งกันประทับรอยจูบลงไปบนเสื้อผ้า เนื้อตัวของชายหนุ่ม ที่ท้าทาย ใครฝากรอยจูบที่น่าประทับใจ จะได้เงินฟ่อนหนึ่งเป็นรางวัล จนตอนนี้ เนื้อตัวภูวดลเต็มไปด้วยร่องรอยลิปสติกหลากสี
“เจ้านายครับ จะกลับหรือจะต่อดีครับ” วิทวัสเอ่ยถาม เมื่อเห็นทั้งร่างกายของเจ้านายหนุ่มแทบจะไม่มีที่ว่างเหลืออีกแล้ว
“เออ...กลับก็กลับ” ดลวัตรยอมกลับง่ายดาย
ชายหนุ่ม ลุกขึ้นเดินกลับตรงแหนว ไม่มีวี่แววหรืออาการเมาสักนิด ทั้งที่กลิ่นเหล้าหึ่งออกขนาดนั้น
วิทวัส ถึงกับเหวอ ไม่เข้าใจว่าเจ้านายกำลังทำอะไรกันแน่…วิ่งตามมาที่รถ หลังจากเคลียสาว ๆ ที่กระจองอแงเรียบร้อยแล้ว
“ไปไหนครับ”
“คอนโดสิวะ”
“ก็ไหน ไม่ให้ผมเฉียดเข้าใกล้ที่นั่นไง”
“วิทวัส เดี๋ยวโดนเตะ”
“ครับ ๆ ไปแล้วครับ” ลูกน้องคู่ใจ รีบขับรถออกจากสถานบันเทิงแห่งนั้น หลังจากเย้าแหย่เจ้านายนิด ๆ หน่อย ๆ ...ร้ายจริง คนอะไรวะแกล้งเมา ทำราวกับมั่วสาวมาเป็นฝูง สงสัยจะแกล้งคุณเพียงขวัญอีกแล้วล่ะสิ........
“ขอบใจ นายกลับไปได้แล้ว” ดลวัตรบอกกับลูกน้องทันทีที่ถึงคอนโด
“ผมขอขึ้นไปนอนด้วยนะครับ...แฮร่...ง่วง” วิทวัสลงจากรถเดินตามเจ้านายไปติด ๆ ทั้งเป็นห่วง ทั้งอยากรู้ว่าเจ้านายกำลังจะทำอะไรกันแน่
“เฮ้ย...บอกให้กลับก็กลับสิโว้ย” คนถูกขัดใจหงุดหงิด เมื่อเห็นวิทวัสทำเป็นบื้อเดินตามไม่ลดละ
“โอเค...กลับก็ได้ คนใจดำ” ลูกน้องคู่ใจบ่นงึมงำเดินกลับไปขึ้นรถ
“ไอ้นี่ เอาใหญ่แล้วนะมึง” เจ้านายชักเหลืออด ดันมาถ่วงเวลาอยู่ได้ อยากขึ้นไปเซอร์ไพรส์คนข้างบนจะแย่…..
กรี๊ดดดดดด......เสียงกรีดร้อง จนแก้วหูสะเทือนดังขึ้นในเวลาเช้ามืด ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนอนหลับสบายบนเตียงนุ่ม ๆ หอม ๆ ถ้าห้องไม่เก็บเสียงคงได้แตกตื่นกันทั้งคอนโดแน่
“บอส...ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ” เพียงขวัญยืนเท้าสะเอวตัวสั่นเทิ้มอยู่ปลายเตียง หล่อนกระโดดผลุงเดียวลงไปยืนปักหลักอย่างมั่นคง ไมใช่เพราะความกลัว แต่มัน....อึ๋ยยยย...ขนลุกขยะแขยง
“เป็นอะไรแต่เช้าครับ คุณเมีย....จะปลุกผมขึ้นมาทำการบ้านบอกกันดี ๆ ก็ได้” ดลวัตรงัวเงียเสียงแหบระโหยโรยแรง
“หยุดปากพล่อยเลยนะ ลงจากเตียงของขวัญเดี๋ยวนี้เลย” เพียงขวัญไม่แปลกใจ ว่าเขาเข้ามาได้ยังไง แต่ที่รับไม่ได้ก็สภาพที่เขานอนลงมาบนเตียงของหล่อน ด้วยสภาพที่ดูไม่จืด ลิปสติกรูปปากเต็มตัว ซ้ำยังหลากสีไม่อยากจะคิดว่าเขาได้มันมาได้ยังไง ไหนยังจะกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกที่ระเหยมารบกวนจมูก เหมือนกับตกไหเหล้ามาอย่างนั้นแหละ
