21
เพียงขวัญได้แต่ทอดถอนใจอย่างเบื่อหน่าย เลิกล้มความตั้งใจที่จะลาออก เพราะที่ตัดสินใจลงไปแบบนั้นเกิดจากอารมณ์ล้วน ๆ พูดออกไปแล้วก็เสียดายเหมือนกัน หรือบางทีอีตาบอสนี่กำลังเล่นสงครามประสาท ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะต้องการความรับผิดชอบจากผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน ตีลังกามองก็ดูไม่มีเหตุผลอาซะเลย ถึงแม้หล่อนจะสวยมากก็เถอะ...อันนี้เพียงขวัญคิดอย่างคนที่ยอมรับความจริง ในเมื่อหลักฐานก็มีให้เห็นทนโท่..อิอิ.....เอาล่ะต่อไปนี้จะยอมเล่นตามเกมดูบ้าง ฉันจะไม่ยอมตั้งรับฝ่ายเดียวแน่ ๆ ....ไม่มีอะไรต้องเสียแล้วนี่หว่า..... เวอร์จิ้นก็เสียให้เขาไปแล้ว....เฮ้อ.. ..ความคิดสับสนปนเปไปหมด…..ภาพในจินตนาการ หล่อนเห็นตัวเองจับบอสหื่นทุ่มจนกองอยู่กับพื้น จนต้องคลานเข่าเกาะขาร้องขอชีวิต.....ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า.......ถึงทีฉันมั่งล่ะ.....เพียงขวัญหัวเราะออกมาอย่างสะใจสุด ๆ
“ขวัญ....ขวัญจ๋าเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้น เดี๋ยวบึ้ง เดี๋ยวยิ้ม ไม่สบายหรือเปล่าครับ” ดลวัตรใช้หลังมืออังหน้าผาก ลูบคลำเนื้อตัวอีกฝ่ายอย่างห่วงใย ดูเวอร์วังเกินจริง
“หยุดดดดดด...”
“ผมเป็นห่วงนี่นา”
“ไปกันเถอะค่ะบอส เดี๋ยวคุณป้าจะรอ” เพียงขวัญแสนจะเพลียจิต ลุกขึ้น ชวนบอสหนุ่มออกไปร้านอาหารที่นัดหมาย
ดลวัตร ไม่ค่อยไว้วางใจ อยู่ ๆ หญิงสาวก็เปลี่ยนเรื่องแถมเสียงหัวเราะที่ได้ยินยังชวนขนหัวลุก ยัยนี่ต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ .....บรื๋อ .....ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกป๊อดขึ้นมาดื้อ ๆ
หนุ่มหล่อกับสาวสวย เดินเคียงกันเข้าไปในภัตตาคารหรู ไม่ไกลจากที่ทำงานนัก มองผ่าน ๆ เหมือนคู่รักกันมากกว่าเจ้านายกับเลขา พนักงานพาทั้งคู่มาที่ห้องวีไอพีที่คุณดาริกาจองเอาไว้ ทันทีที่ก้าวเข้าไป ก็เห็นพี่ชายกับมารดานั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว
“ขอโทษครับที่ให้รอ มากันนานแล้วหรือครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่กับพี่พัชรก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน...มานั่งนี่สิจ๊ะ หนูเพียงขวัญ” คุณดาริกาเรียกหญิงสาวเข้าไปหาหลังจากที่อีกฝ่ายไหว้ทำความเคารพ เพียงขวัญรู้สึกว่าผิดที่ผิดทางอย่างไรก็ไม่รู้ เป็นแค่เพียงเลขา แต่คุณป้าดาริกา ทำเหมือนกับว่าหล่อนเป็นคนในครอบครัวอย่างนั้นแหละ
“ได้ข่าวว่า หนูเพียงขวัญเจอกับท่านประธานแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับสั้น ๆ ส่วนท่านประธานนั่งเฉย หน้านิ่งราวกับเจ้าชายน้ำแข็ง
“ก็ดี....ป้าว่าจะขอยืมตัวหนูจากตาดล ไปเป็นเลขาให้ท่านประธานสักสามเดือน เพราะเลขาคนเก่าลาคลอด หนูจะขัดข้องไหมจ๊ะ”
“ได้ยังไงครับคุณแม่ แล้วใครจะช่วยผม” เป็นดลวัตรที่ขัดข้อง ทะลุกลางปล้องขึ้นมาซะอย่างนั้น
“เดี๋ยวแม่เปิดรับสมัครให้ใหม่ดีไหม เพราะงานของดลไม่มากเท่ากับของพี่เขา แม่ว่าให้คนเก่ง ๆ อย่างหนูเพียงขวัญไปช่วยงานพี่เขาดีกว่านะและอีกอย่างลูกกับหนูเพียงขวัญก็เพิ่งจะทำงานด้วยกันแค่สองวันเอง คงไม่ยุ่งยากหรอกจริงไหม” คุณดาริกาพูดยิ้ม ๆ หน้าลูกชายคนเล็ก ที่งอง้ำเป็นเด็กชายดลวัตรไปแล้ว
“ไม่ครับ ผมทำงานเข้าขากันดีกับขวัญแล้ว คุณแม่หาคนอื่นให้ท่านประธานเขาสิ ครับ” ดลวัตรหงุดหงิดเสียอาการ จนมองไม่เห็นว่ามารดาแอบยิ้ม
“เอาล่ะไม่เอาก็ไม่เอา แต่ว่าบ่ายนี้ฉันมีนัดกับลูกค้า ยังไงก็ขอยืมเลขาก่อนสักครึ่งวันก็แล้วกัน” พัชร พูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงทรงพลังอำนาจ และสีหน้าเรียบนิ่ง
“ขวัญ คุณไม่พร้อมใช่ไหม บอกท่านประธานไปสิ” ดลวัตรหันมาพูดกับเลขาหน้าตายู่ยี่อย่างกับเด็กถูกขัดใจ ถ้าเขาลงไปดิ้นอยู่กับพื้นคงจะน่าดูพิลึก
“เอ่อ...ดิฉันไปได้ค่ะ ท่านประธาน” ไม่มีทางที่เพียงขวัญจะพูดไปทางอื่น เพราะถึงหล่อนจะเป็นเลขาของท่านรองประธาน แต่เจ้านายที่แท้จริงคือคุณป้าดาริกาที่มีท่าทีสนับสนุนท่านประธานใหญ่ที่เอ่ยปากขอเอง จะให้ปฏิเสธได้ยังไงกันเล่า......แต่ก็สมน้ำหน้าอีตาบอสที่ทำหน้าหงิกหน้างอ บ่ายนี้ไม่รู้จะแกล้งใครล่ะสิ...ดูออกหรอกน่า.........
ดลวัตร เม้มปากแน่น หันกลับไปนั่งนิ่ง ๆ อย่างแสนงอนที่ยัยเลขาตัวดี ไม่ได้แคร์กันเลยสักนิด
“นี่ตาดล ทำเป็นขี้หวงเป็นเด็ก ๆ ไปได้ บ่ายนี้ลูกไม่ได้มีนัดที่ไหนไม่ใช่หรือ มีอะไรก็ให้วิทวัสจัดการไปก่อน
“ครับ” ดลวัตรเพิ่งจะรู้สึกตัว ว่าเสียอาการแสดงความหวงแหนเลขาสาวจนเกินเหตุ จึงพยายามเก็บรวบรวมใบหน้าที่แตกยับเก็บกลับเข้าที่เดิม....นึกเคืองอยู่เหมือนกันว่ามารดาคง ต้องการแกล้งเขาแน่ ๆ แต่ว่าท่านรู้เรื่องอะไรแค่ไหนกัน.....ไม่น่าจะรู้เรื่องลึกซึ้งที่เกิดขึ้นหรอกน่า เพราะแม้แต่วิทวัสก็ยังไม่รู้..........เฮ้ย....ทำไมหงุดหงิดอย่างนี้วะ......
คนทั้งหมด นั่งรับประทานอาหารเลิศรส จนกระทั่งถึงเมนูสุดท้าย คุณดาริกาจึงชวนคุยขึ้นอีกครั้ง
“หนูขวัญไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ถึงท่านประธานจะดูเคร่งขรึม แต่ว่าอบอุ่นปลอดภัย ไว้ใจได้จ้า” หญิงสูงวัยพูดราวกับกำลังโฆษณาสินค้า
ดลวัตรเหลือบมองมารดา...ให้รู้สึกตงิด ๆ ว่าท่านกำลังจะทำอะไรกันแน่ เหมือนกับพยายามจับคู่เพียงขวัญกับพี่ชายของเขาอย่างนั้นล่ะ ซึ่งเขายอมไม่ได้เด็ดขาด
“จริงครับขวัญพี่พัชรเขาไม่มองผู้หญิงหรอก ว่าแต่เย็นนี้ ผมรอกลับคอนโดพร้อมขวัญนะครับ...” ดลวัตรส่งยิ้มหวานหยดเรียกร้องความสนใจ
“บอส...” เพียงขวัญเข่นเขี้ยว ขึงตาดุอีกฝ่าย อีตาบ้านี่ทำรุ่มร่าม เดี๋ยวก็ความแตกจนได้หรอก
“แหม ตาดลทำไมอยู่ ๆ ถึงทำเป็นเชื่องขึ้นมาง่าย ๆ อย่างนี้ล่ะ” คุณดาริกาอดที่จะเหน็บลูกชายคนเล็กไม่ได้
“ก็เพราะคุณเลขาของคุณแม่ไงครับ ปราบผมซะอยู่หมัด” ชายหนุ่มยอมรับง่ายเกินไป ดูผิดวิสัยไปสักหน่อย
“ทำเป็นปากดี ให้มันจริงเถอะ” ผู้สูงวัยส่งค้อนให้บุตรชายวงโต
“ผมต้องไปแล้วครับ” พัชรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู แล้วปรายตามองไปทางเพียงขวัญซึ่งกำลังกระชับกระเป๋าสะพาย เตรียมพร้อมออกไปทำงานกับเขาเช่นกัน ถือว่าหล่อนคล่องแคล่วสมกับเป็นมืออาชีพ ทำให้รอยยิ้มพึงใจปรากฏบริเวณมุมปากของท่านประธานใหญ่ ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก และนั่นทำให้ความหงุดหงิดใจของน้องชายคนเดียวอย่างดลวัตรเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
