15
“ผมจะขนเสื้อผ้ามาอยู่กับคุณ....เอ..หรือว่าผมจะเรียกวิทวัสมาช่วยดีนะ”
บอสหนุ่มพูดจบก็ล้วงโทรศัพท์ โทรหาวิทวัสทันที เพียงขวัญรีบตะครุบแย่งมาแล้วกดปิด ไม่นึกว่าเขาจะกล้า
“บอสอยากให้คนอื่นรู้เรื่องของเรานักหรือไง” เพียงขวัญมองเขาตาขวาง
“คุณพูดเหมือนจะไม่รับผิดชอบผม”
ผู้ชายตัวโตทำเป็นกระเง้ากระงอดได้น่าหมั่นไส้มาก....เฮ้อ...จะเอายังไงกับอีตานี่ดีวะเนี่ย....เพียงขวัญคิดไม่ตก
“เราก็ต่างคนต่างอยู่ไปสิคะ”
“แบบนั้นจะเรียกว่ารับผิดชอบผมได้ยังไงล่ะครับ......ขอผมอยู่กับคุณนะ...นะ..ขวัญนะ” บอสหนุ่มทำเสียงอ้อนจัด ในเมื่อหล่อนควบคุมไม่ให้เขากระดิกตัวไปไหน เขาก็จะเกาะติดกับหล่อนไม่ยอมไปไหนเหมือนกัน....ดลวัตรยิ้มปลื้มปริ่มกับความคิดอันชาญฉลาดของตัวเอง ที่เขามีแต่ได้กับได้
“โอ๊ย...ฉันอยากจะบ้า......” ผู้หญิงที่เคยชินกับการอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิตถึงกับไปไม่เป็น ที่จู่ ๆ ต้องมารับผิดชอบผู้ชายใจบาง ด้วยข้อหาที่ดันไปข่มขืนเขา
ดลวัตรลอบยิ้ม ที่เห็นคุณเลขาทำท่าจะสติแตก
“ฉันจะไปซ้อมเทควันโด” เพียงขวัญพูดขึ้นเสียงเย็น หวังว่าจะสลัดอีตาบอสจอมหื่นสักพักก็ยังดี ขอให้หล่อนได้มีเวลาตั้งตัวเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี่สักหน่อย ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้
“อื้อ...จะดีเหรอ...เอ่อ...ขวัญหายเจ็บแล้วหรือไง เมื่อคืนตอนที่ผมเช็ดตัวให้ ผมยังเห็นขวัญน้อยบวม ๆ อยู่เลยนะ” ดลวัตรพูดออกมาหน้าซื่อตาใสแสดงความห่วงใยออกมามากจนเกินจริง
เพียงขวัญหันขวับมามองตาโตอย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉย ก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แล้วก็กลับเป็นคล้ำอย่างโกรธจัด
“อย่าอยู่เลย อีตาบ้า.....”
เพียงขวัญพุ่งเข้าหาคนปากเสีย แต่ครั้งนี้หญิงสาวช้ากว่าคนที่ระวังตัวอยู่แล้ว อย่างดลวัตรที่พูดจบก็ดีดตัวไปยืนอยู่ซะไกล ส่วนเลขาสาวทั้งโกรธทั้งอายต้องระบายด้วยการไล่เตะ....ใช่นางไล่เตะบอสที่เคารพจริง ๆ
“ขวัญอย่ายกขาสูง..........เดี๋ยวเจ็บ....” ดลวัตรตะโกนบอกเหมือนห่วงใยแต่ทำไมฟังเหมือนล้อเลียนก็ไม่รู้ ชายหนุ่มถอยหนีไปรอบ ๆ ห้อง
“อร๊าย....ฉันจะฆ่าคุณ...อีตาบอสจอมหื่น” เพียงขวัญตะโกนด่าไปด้วย วิ่งไล่ไปด้วยจนหน้ามืด ต้องนั่งหอบหายใจอย่างโกรธ ๆ นี่ถ้าไม่ผ่านศึกสงครามเมื่อคืนมาหนักหนาสาหัส ไม่มีทางที่หล่อนจะยอมแพ้แน่ ๆ
“อ่ะ...ยาดม....คุณนี่น๊า...ไม่ใช่วัยรุ่นซะหน่อย หยอกเป็นเด็ก ๆ ไปได้” ดลวัตรยื่นหลอดยาดมมาให้ ไม่รู้ว่าหาเจอได้ยังไง
เพียงขวัญรับมาสูดปื๊ด ๆ
“ไม่ได้หยอก อยากเตะคนจริง ๆ”
“โห...ใจร้ายอ่ะ ได้เขาแล้วยังจะไม่ทะนุถนอมอีก ผมไม่ใช่กระสอบทรายนะขวัญจ๋า"
“บอสคะ ขวัญอยากพักผ่อน” เพียงขวัญหายใจฟืดฟาด ข่มใจไม่อยากฟาดปากคนข้าง ๆ
“งั้น..ปะ ..ไปนอนกัน หรือจะให้ผมอุ้ม”
เพียงขวัญขึงตาดุใส่ ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวหนีเข้าห้องนอนแล้วปิดประตูใส่ดังโครม ด้วยอารมณ์ที่อัดอั้น....
ทางด้านคุณดาริกาที่เก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่ไหว ลงทุนเดินทางไปหาเพื่อนรักถึงรีสอร์ทที่เมืองกาญจน์ หลังจากเมื่อวันศุกร์ติดต่อไม่ได้ คนที่รีสอร์ทบอกว่าคุณนายจอมขวัญไปปฏิบัติธรรมและค้างคืนที่วัดกลับเช้าวันเสาร์ จึงเป็นเหตุให้นางเดินทางมาในเช้าวันนี้
“ดา เพื่อนรัก ไปยังไงมายังไงหึ ถึงได้มาหาฉันได้ แล้วนี่เจ้าสัวมาด้วยไหม” จอมขวัญตื่นเต้นตั้งแต่เห็นเพื่อนสนิทเดินลงจากรถคันหรูแล้ว ดาริกายังสวยพริ้ง สมัยสาว ๆ แก่นเสี้ยวพอตัว ผิดกับจอมขวัญที่เรียบร้อยนุ่มนิ่ม แต่พอมีลูกสาวนิสัยของแม่ตัวดี ดันไปเหมือนเพื่อนรักซะได้
“เปล่าจ้ะ ฉันตั้งใจมาคุยกับเธอโดยเฉพาะเลยไม่อยากพามาให้ขัดคอกันเปล่า ๆ แล้วนี่คุณกิตติไม่อยู่เหรอ”
“ไม่อยู่ เข้าไร่ไปดูคนงานน่ะ....ว่าแต่เธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะดา ดูตื่นเต้นจัง”
“ฉันก็อยากรับขวัญลูกสะใภ้จะแย่ล่ะสิ ถึงต้องรีบมาหาเธอนี่แหละ” ดาริกาแย้มยิ้มสดใสราวกับสาวแรกรุ่น
คุณนายจอมขวัญหน้าสลดลง เสียดายที่ลูกสาวหัวดื้อไม่ยอมเกี่ยวดองด้วย ไม่แม้แต่จะมาทำความรู้จัก ถึงขนาดประกาศขออยู่บนคานตลอดชีวิต ถึงแม้แม่อย่างหล่อนจะงัดทุกมาตรการออกมาจัดการ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจที่เด็ดเดี่ยวของลูกสาวได้
“ลูกชายเธอจะแต่งงานหรือจ๊ะ ฉันดีใจด้วย เสียดายที่ยัยลูกสาวหัวดื้อของฉันไม่มีวาสนา”
“อะไรกันล่ะจอมขวัญ นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง”
“เรื่องอะไร...” จอมขวัญหน้าตาเหลอหลา
“ก็หนูเพียงขวัญน่ะสิ ตอนนี้เป็นเลขาของตาดล...อย่างนี้ถ้าไม่ใช่บุพเพสันนิวาสแล้วจะเรียกว่าอะไร....”
“ห๊ะ.....เป็นไปได้ยังไง นี่ยัยขวัญเปลี่ยนงานอีกแล้วเหรอ” คนเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของลูก
“หนูเพียงขวัญ บอกฉันว่าก่อนลาออกฟาดหัวเจ้านายหัวงูซะได้เลือด....ลูกสะใภ้ฉันต้องอย่างนี้สิ” ดาริกายิ้มปลื้ม ก่อนจะเล่ารายละเอียดและข้อตกลงพิเศษที่ทำไว้กับว่าที่ลูกสะใภ้ให้เพื่อนรักฟังอย่างละเอียด
“ยัยขวัญร้ายกาจออกขนาดนี้ เธอยังจะอยากได้เป็นลูกสะใภ้อีกเหรอ ฉันล่ะเป็นห่วงลูกชายเธอจริง ๆ” จอมขวัญพูดอย่างปลง ๆ
“แบบนี้แหละ ฉันชอบ ว่าแต่พวกเราต้องช่วยให้ทั้งคู่สมหวังเร็ว ๆ ฉันอยากอุ้มหลานแล้วล่ะ”
“ต้องทำยังไงล่ะ”
“ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทางเธอก็เร่งรัดให้หนูเพียงขวัญกลับมาแต่งงาน ส่วนฉันก็พูดไว้แล้วว่าถ้าตาดลไม่มีหนูพียงขวัญเป็นคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ฉันก็จะให้เขาแต่งงานเหมือนกัน รับรองว่าเด็กสองคนนั่นจะเกาะกันแน่นหนึบ เพราะกลัวโดนคลุมถุงชนด้วยกันทั้งคู่....เป็นไงแผนฉันเด็ดไหม” ดาริกา บอกกับเพื่อนอย่างภาคภูมิใจ
