ตอนที่ 11
ไหว้พระเสร็จ...ก็ออกมาเดินเที่ยวริมแม่น้ำ ที่มีคนเอาปลามาปล่อยเป็นทาน
"เขาซื้อปลากันที่ไหนเนี่ย"
กรองทองเห็นเขาปล่อยปลา ก็อยากปล่อยบ้าง
"แถวนี้ไม่มีใครขายหรอกค่ะ ต้องซื้อมาจากตลาด คุณต๋อมอยากปล่อยปลาหรือคะ"
กรองทองพยักหน้า
"เอาไว้คราวหน้านะต๋อม พี่จะบอกล่วงหน้า ต๋อมจะได้มีเวลาเตรียมตัว...ซื้ิอปลามาปล่อย"
"แปลว่าพี่ไผ่จะพาเรามาอีกใช่ไหมคะ"
วรายุพยักหน้า เทียนหยดแอบเบ้ปาก ที่เห็นวรายุอ่อนโยนกับกรองทอง
"ทีกับน้องล่ะเสียงอ่อนเชียว ที่กับเรา...แทบจะขบหัวขาด"
เทียนหยดเห็นท่านเจ้าสัวเหงื่อแตก ก็เอาทิชชู่ส่งให้ และดึงกระบอกน้ำที่เตรียมมา เทน้ำมาให้ท่านดื่ม ชิษณุมองอย่างชื่นชม วรายุทำเป็นไม่สนใจ เด่นนภายืนงอน จะรอให้เขามาง้อ แต่เขาก็เฉย...
"คุณปู่หิวหรือยังครับ"
"กี่โมงแล้วล่ะ"
"สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วครับคุณตา"
ชิษณุตอบแทน
"ไปกันเลยไหม"
เทียนหยดรีบเอายากับน้ำมาให้
"คุณท่านทานยาก่อนอาหารนะคะ ไปถึงจะได้ทานข้าวได้เลย"
ท่านเจ้าสัวพยักหน้า รับยากับน้ำมากิน วรายุหันบอกเด่นนภาที่ยืนงอน
"พี่จะพาคุณปู่ไปทานข้าวที่ร้าน... ถ้าเธอจะไปด้วยก็ขับตามมา"
"พี่ต๋อมไปนั่งรถเป็นเพื่อนจั๊นหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้จ้ะ.."
"ต๋อมรู้จักร้านใช่ไหม"
"รู้จักค่ะ เจอกันที่ร้านนะคะ"
กรองทองกับเด่นนภาเดินไปด้วยกัน ชิษณุเข็นรถท่านเจ้าสัวเดินนำไปที่รถ วรายุกับเทียนหยดเดินตามไป
ที่ร้านอาหาร...ทุกคนเดินเข้าไปในร้าน เด่นนภามายืนขวาง และบอกเทียนหยดว่า
"เราพี่น้องจะกินข้าวกัน เธอไปหากินแถวนี้เองก็แล้วกันนะ"
พูดจบก็เอาเงิน 500 บาทยื่นให้
"แค่นี้คงพอนะ"
เทียนหยดกัดฟันแน่น เธอโกรธที่เด่นนภามาดูถูกเธอแบบนี้
"ไม่เป็นไร...ฉันหากินเองได้"
เทียนหยดหันหลังจะเดินออกจากร้าน กรองทองได้ยินที่เด่นนภาพูด ก็รีบมาดึงแขนเทียนหยด
"เทียน...อย่าไปฟังยายจั๊นเลย มากินข้าวด้วยกันเถอะ"
เทียนหยดรู้ว่าวรายุตั้งใจจะเลี้ยงท่านเจ้าสัว และเขาก็คงไม่อยากให้เธออยู่ด้วย เธอยิ้มให้กรองทอง
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันหากินเองสะดวกใจกว่า แต่ต้องรบกวนคุณต๋อมเอายาหลังอาหารให้ท่านทานด้วยนะคะ ฉันจัดไว้ให้แล้ว"
"เธอเป็นพยาบาลนะ จะทิ้งคนไข้ได้ยังไง กลับเข้าไปเดี๋ยวนี้"
วรายุมายืนข้างกรองทอง และพูดเสียงเข้มใส่เธอ
"เป็นคำสั่งเหรอคะ"
"ใช่...นี่เป็นคำสั่งของฉัน"
"เสียใจด้วยนะคะ ฉันไม่ใช่ลูกจ้างของคุณ คุณสั่งฉันไม่ได้ค่ะ"
"น่าเทียน...อย่าให้เป็นเรื่องเลย ฉันของโทษแทนน้องนะ"
"ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณจั๊นพูดถูก พวกคุณเป็นครอบครัวเดียวกัน...ฝแต่ฉันไม่ใช่"
"ถ้าผมจะเป็นคนสั่งคุณล่ะ คุณจะยอมเข้าไปทานข้าวด้วยกันไหม"
ชิษณุเดินมาช่วยพูดอีกคน
"ถ้าเป็นคุณณุ...ฉันโอเคค่ะ เพราะคุณเป็นคนจ้างฉันมา"
วรายุหน้าตึง เขาจูงกรองทองเดินเข้าร้าน ชิษณุส่ายหัว เดินมากับเทียนหยด
"อย่าไปถือนายไผ่เลยนะครับ"
เทียนหยดยิ้ม แต่คิดในใจว่า
"ไม่ถือให้หนักหรอก เดี๋ยวจะฟาดให้เรียบเลย เรียกให้มากินเองนะ"
วรายุกับกรองทองเดินเข้ามานั่ง ท่านเจ้าสัวมองหาเทียนหยด
"นังหนูเทียนไปไหน"
"เธออยู่นี่ครับคุณตา"
เด่นนภาชักสีหน้าที่เห็นชิษณุเดินมากับเทียนหยด เธอเห็นเด่นนภามองก็ยักคิ้วให้เหมือนยั่ว เด่นนภาสะบัดหน้าอารมณ์เสีย ไม่กล้าพูดอะไร
"กินข้าว ๆ มีอะไรกินบ้างเนี่ย"
ท่านเจ้าสัวเอาเมนูขึ้นมากาง
"เอายำทะเล..."
"ไม่ต้องเผ็ดมากนะคะ เครื่องทะเลขอให้ลวกสุก ๆ ด้วย"
ท่านเจ้าสัวมองเทียนหยด แล้วดูเมนูต่อ
"กุ้งเผาซัก..."
"จะสั่งกี่โลก็ตาม คุณท่านก็ทานได้แค่ตัวเดียวนะคะ"
"เทียนหยด.."
ท่านเจ้าสัวเรียกเธอเสียงดุ เทียนหยดไม่ตอบ เธอเอาขวดยาขึ้นมาเขย่า ท่านค้อนเธอ แล้วเอาเมนูวางบนโต๊ะ
"ใครจะสั่งอะไรก็สั่ง ฉันไม่สั่งแล้ว กินอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง...จะมาทำไม"
"ทานได้ค่ะ...แต่ต้องในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะท่านตามใจปาก กินแล้วเบรกไม่อยู่ เบาหวานความดันถึงไม่ค่อยลดลงเลยไงคะ"
ท่านเจ้าสัวพยักหน้า แต่ยังมีข้อต่อรอง
"ฉันขอกินปูผัดผงกะหรี่อีกจานได้ไหม"
"ได้ค่ะ...แต่ชิ้นเดียวนะ"
"ขอสองชิ้น"
ท่านชูสองนิ้ว เทียนหยดส่ายหัว
"แค่สองชิ้นจริง ๆ นะคะ"
ท่านเจ้าสัวพยักหน้ายิ้มดีใจ กรองทองเห็นแล้วน้ำตาซึม วรายุเมินมองไปทางอื่น เขาไม่เคยรู้ว่าปู่ของเขาสุขภาพไม่ดี ถึงกับต้องจำกัดอาหารที่กินแล้ว
"...คุณอาจจะมีเวลาเหลือเยอะ แต่ปู่คุณล่ะ...จะเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน"
คำพูดของเทียนหยด ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ถึงเธอจะเป็นพยาบาลที่ถูกว่าจ้างมา แต่เธอใส่ใจดูแลท่านเจ้าสัวมากกว่าเขาที่เป็นลูกหลานเสียอีก
