บทที่ 3 ท่านแม่ขอรับ
บทที่ 3 ท่านแม่ขอรับ
หลังจากศศิธรหมดสติไปเธอก็มาโผล่ในมิติที่มีแต่ความมืดมิดและว่างเปล่ามีเพียงแสงเลือนรางเท่านั้น หญิงสาวค่อยๆ เดินไปตามทางที่มีแสงสว่างเล็ดลอด
เข้ามา จนถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นพื้นดินกว้างมีลำธารพาดผ่าน รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เธอมองตามลำธารไปจนสุดสายตาก็พบว่ามันเป็นลำธารที่ไหลลงมาจากน้ำตก เสียงน้ำไหลของลำธารทำให้สมองที่เคยตื้อของเธอปลอดโปร่งมากขึ้น
ศศิธรกำลังทอดสายตาเหม่อมองท้องฟ้าเบื้องหน้าด้วยความรู้สึก
ที่หลากหลายตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกนี้เธอมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย
“ท่านแม่ขอรับ” เสียงเล็กแทรกขึ้นมาระหว่างที่เธอกำลังสำรวจพื้นที่อยู่
“ว๊าย! เธอเป็นใครเนี่ย แล้วใครแม่เธอ” ศศิธรร้องเสียงหลง ใบหน้าของเธอฉายแววตื่นตกใจ อยู่ดีๆ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมายืนตรงหน้าเธอ หน้าตาก็น่ารักจิ้มลิ้มแต่ดันมาเรียกเธอว่าแม่นี่สิเดือนรับไม่ได้
หลังจากที่ยืนคิดมาสักพักจนเด็กน้อยแทรกขึ้นมาหญิงสาวพอจะเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ได้บ้างแล้ว ศศิธรคาดว่าเธอน่าจะเสียชีวิตไปแล้วคงทะลุมิติมาเหมือนนิยายที่เคยชอบอ่านตอนเด็กๆ ในใจก็เป็นห่วงแม่ที่ใกล้ชราแต่เธอก็คิดว่าตัวเธอเองทำประกันชีวิตไว้เยอะแม่ของเธอน่าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย
“ข้าเป็นภูตผู้ดูแลอยู่ที่แห่งนี้ขอรับ ท่านก็คือเจ้าของมิตินี้ ข้าขอเรียกท่านว่าท่านแม่ได้ไหมขอรับ ข้าอยู่คนเดียวมานานข้าเหงาเหลือเกิน” พูดเสร็จเด็กน้อยก็
ทำหน้าจะร้องไห้
“เอ่อคือ อย่าร้องนะ ก็ได้ๆ ท่านแม่ก็ท่านแม่ แล้วหนูชื่ออะไรบอกพี่ เอ่อ บอกแม่มาสิ”
เด็กน้อยที่เคยทำหน้าจะร้องไห้เมื่อสักครู่กลับยิ้มแป้นขึ้นมาทันที “ข้าชื่อเจียวเจี้ยขอรับ”
ศศิธรพยักหน้ารับพร้อมกับถามเด็กน้อย “แล้วที่แห่งนี้มันคืออะไรกันแน่
เด็กน้อย”
เด็กน้อยทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะบอกกับศศิธรว่า “ที่นี่คือมิติวิเศษขอรับ
ท่านแม่สามารถปลูกพืชผักต่างๆ ได้ที่นี่ เวลาที่นี่จะเดินไวกว่าข้างนอก10เท่า ท่านเห็นลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกฝั่งนั้นไหมขอรับ” เจียวเจี้ยพูดพร้อมชี้ไปทางที่น้ำตกไหลมา หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ
“นั่นคือน้ำตกผิงอานขอรับ น้ำที่ไหลจากน้ำตกท่านสามารถนำมารดน้ำต้นไม้ที่ท่านปลูกได้ ใช้ดื่มและใช้อาบได้ ถ้าท่านดื่มเข้าไปมันจะเป็นยาบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง หากใช้รดน้ำต้นไม้มันก็จะเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ และยังช่วยเยียวยารักษาบาดแผลได้ด้วยนะขอรับ” เด็กน้อยพูดเจื้อยแจ้วรอยยิ้มของเขาสว่าง
เจิดจ้า
เด็กน้อยทำหน้าครุ่นคิดแล้วพูดต่อ “ท่านมีช่องว่างระหว่างมิติด้วยนะขอรับเพียงท่านนึกถึงมันแล้วเอื้อมมือเข้ามาในมิติท่านก็จะสัมผัสมันได้โดยตรง ท่านสามารถนำของต่างๆ มาเก็บในนี้ได้ ช่องว่างนี้จะช่วยหยุดระยะเวลาของสิ่งของที่
ท่านแม่นำเข้ามา หากท่านนำอาหารมาเก็บไว้มันก็จะยังคงสภาพเดิมไม่เน่าเสีย
ด้วยนะขอรับ”
เด็กน้อยหยุดพักหายใจก่อนจะทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “เป็นอะไรไปล่ะ ทำไมถึงไม่เล่าต่อ” ศศิธรถามด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังพูดไม่หยุดอยู่เลยทำไมตอนนี้ถึงเงียบไปล่ะ
“ข้ามีอีกสิ่งที่ต้องบอกท่านถึงสาเหตุที่ท่านต้องเข้ามาอยู่ในร่างนี้ขอรับ”
“เจ้าเล่ามาเถิดแม่พร้อมฟัง”
“คืออย่างนี้ขอรับท่านแม่ ร่างที่ท่านแม่อยู่ในตอนนี้ก็คือร่างกายของ
กู้จินเยว่ นางน่าสงสารมากนะขอรับ นางโดนคนในครอบครัวรังแกสารพัด พอมีคนรักก็โดนแย่งไปอีก นางถูกพี่สาวของนางจัดฉากว่ากู้จินเยว่ผลักพี่สาวตัวเองตกน้ำ แล้วคู่หมั้นของนางมาเห็นพอดีเขาโมโหนางเป็นอย่างมากเขากล่าวหาว่านางจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต แล้วยังมีคนปล่อยข่าวลือเรื่องนี้ไปทั่วสร้างความอับอายให้แก่
กู้จินเยว่เป็นอย่างมาก” เด็กน้อยเล่าเสียงเบาลงเรื่อยๆ
“แล้วอย่างไรต่อเล่า” สงสารก็สงสารหรอกแต่ความอยากรู้มันมีมากกว่านี่สิ
“วันต่อมานางก็ถูกชายผู้นั้นบอกว่าจะถอนหมั้นขอรับ ก่อนหน้านี้ก็มีคนปล่อยข่าวลือว่านางคอยรังแกข่มเหงหญิงคนนั้นบ่อยครั้ง และด้วยข่าวลือที่แพร่ไปทั่วทำให้นางไม่กล้าออกจากบ้านเลย สุดท้ายนางก็ทนไม่ไหวดื่มยาพิษเข้าไป แล้วท่านที่ร่างกายหมดอายุขัยแต่วิญญาณของท่านยังไม่หมดอายุขัยตามก็มาแทนที่นางขอรับ”
ในใจของศศิธรมีแต่ความสับสน ชีวิตของคนๆหนึ่งจะต้องเจออะไรมากมายขนาดนี้เลยหรอ โลกช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ โดนกระทำขนาดนี้แล้วยังต้องมาตายอีก ศศิธรตั้งมั่นได้แล้วว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ยุ่งกับคนเหล่านั้นอีกแต่ถ้าเธอโดนกระทำก่อนเธอก็จะสู้กลับสุดตัว เธออยากให้ดวงวิญญาณของจินเยว่คนเก่าได้หลุดพ้นและได้เห็นว่าคนที่จินเยว่รักมีความสุข
ต่อไปนี้เธอคือกู้จินเยว่ไม่ใช่ศศิธรอีกต่อไปแล้ว
“ต่อไปนี้แม่คือกู้จินเยว่เข้าใจไหมเด็กน้อย” เธอก้มลงไปบอกกับเด็กน้อยพร้อมกุมมือของเขาไว้
เธอจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดให้สมกับที่ได้รับโอกาสนี้มาและจะต้องเป็นคนสวยที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองแห่งนี้
เด็กน้อยยิ้มพร้อมพยักหน้ารับคำ “ขอรับท่านแม่เรามาช่วยกันปลูกต้นไม้ให้มันเต็มพื้นที่ไปเลยนะขอรับ ข้ารอท่านมานานมากแล้ว เราจะได้ช่วยกันดูแลที่นี่”
“ได้สิเจียวเจี้ย เรามาช่วยกันปลูกพืชผลให้มันงอกงามแล้วก็เอาไปขายเยอะๆ แล้วเราก็เอาเงินมาทำเป็นที่นอนดีหรือไม่ อย่างที่เขาว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองแต่ข้าเกิดมาจนงั้นถ้าเรารวยแล้วเรามานอนบนกองเงินกองทองกันเถิด” หญิงสาวพูดเสร็จก็หัวเราะชอบใจ เด็กน้อยที่เห็นหญิงสาวตรงหน้าหัวเราะเขาก็หัวเราะตามไปด้วย
“ดีขอรับท่านแม่” พูดจบสองแม่ลูกก็มองหน้ากันด้วยสายตาอบอุ่นริมฝีปากทั้งคู่เปื้อนยิ้ม
