ตอนที่4. สวยสมราคา
“หน้าตาเหมือนคนฝันร้าย” นิพัฒน์พูดยิ้มๆ “เมื่อกี้ไฟดับคงจะตกใจ”
“บ้านเรานี่ไฟดับบ่อยนะ อาว่าต้องมีเครื่องสำรองไฟติดบ้านไว้บ้าง”
“ดีๆ คุณช่วยดูให้หน่อยซิ”
พิชญ์นรีอึกอักพูดอะไรไม่ออก เธอถอยหลังแล้วค่อยๆ เดินคอตกกลับมาที่ห้อง ขณะกำลังจะปิดประตู ก็เพิ่งรู้สึกตัวว่านิพัฒน์ตามมา เขาสยะยิ้มให้เธอ
“จะพูดอะไรก็คิดดูดีๆแล้วกันนะ แม่เธอกำลังมีความสุขกับพ่อฉัน แล้วเราควรจะทำตัวเป็นลูกที่ดียังไง”
มือใหญ่ยื่นมาแตะแก้มเธอเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินออกไป หญิงสาวรีบปิดประตูห้องล็อกกลอนแน่นหนา ร่างบางทรุดลงพิงบานประตูแล้วร้องไห้ไม่มีเสียง ถ้าพูดไปแม่คงไม่เชื่อ พ่อเลี้ยงอาจจะเป็นคนดีรักแม่จริง แต่กับลูกชายคนนั้น เธอคงทำใจให้เขาเป็นพี่ชายไม่ได้ ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรเธอก็ดูจะกลายเป็นคนนอกในบ้านตัวเอง
เมื่อตั้งสติได้ เธอนึกจดหมายตอบกลับจากที่เคยส่งใบสมัครไป เธอหยิบมันมาอ่านดูแล้วก็พบทางออกให้ตัวเอง ไม่นานเธอก็ได้ที่ทำงานใหม่ และมีเหตุผลในการย้ายออกจากบ้านไปใช้ชีวิต
หญิงสาวเคยคิดว่าการย้ายออกจากบ้านมาแล้วจะจบ แต่เมื่อย้ายออกมา เธอกลับได้รับรู้แง่มุมร้ายๆ ของเขามากยิ่งขึ้น เขาไม่ได้ทำงานอะไรเป็นจริงเป็นจัง ซ้ำยังติดการพนันอีก ที่รู้เพราะเขามาหาเธอที่ทำงานและขอยืมเงินกับเธอ ครั้งสองครั้งไม่เท่าไหร่ พันสองพันพอให้กันได้ หลายครั้งเริ่มหนักขึ้น เธอต้องบอกรปภ.ไว้ ถ้าเขามาก็ช่วยกันเขาไปจากเธอ ซึ่งดูเหมือนมันจะทำให้เขาโกรธเธอมาก ถึงขั้นด่าหยาบคายฝากไว้กระบุ้งใหญ่
พิชญ์นรีได้แต่ถอนหายใจ การทำงานเป็นกะก็ดีไปอย่างเพราะเขาไม่รู้ตารางเข้างานของเธอ สองสามเดือนมานี้จึงไม่เห็นเขามาก่อกวน
เธอรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ เงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์แล้วกวาดสายตามองไปมาหลายครั้ง เพราะติดนิสัยถูกนิพัฒน์มาก่อกวนทำให้เธอต้องคอยเหลือบมองหาร่างผอมบางของเขาอยู่บ่อยๆ
“มีอะไรหรือพั้นซ์” ปาจรีย์ถามเพราะเห็นเพื่อนหันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาใครอยู่
“ไม่รู้ซิ รู้สึกเหมือนมีคนมอง” พิชญนรีส่ายหน้าไปมา
“คงไม่ใช่พี่ชายนอกไส้หรอกนะ” ปาจรีย์ช่วยสอดส่องสายตา เธอเคยอยู่ในเหตุการณ์ที่นิพัฒน์มาขอยืมเงินพิชญนรีมาแล้ว และมีอยู่ครั้งที่เธออดไม่ไหวเลยเข้าไปขวางและต่อว่าที่เขามาขอเงินเพื่อนของเธอ
“ยัยบ้า!มาเดือดร้อนอะไรด้วยวะ! หรือเป็นเลสเบี้ยน”
“เป็นคนดีไง เลยทนเห็นคนดีถูกรังแกไม่ได้ ถ้าแกไม่รีบไสหัวไป ฉันแจ้งรปภ.ของโรงแรมมาลากคอออกไปแน่ๆ”
“ปากดีแบบนี้คงหาผัวได้หรอกนะ”
“ต๊าย ตาย นี่ไม่รู้เหรอยะ มีทองท่วมหัวไม่มีผัวก็ได้ยะ”
นิพัฒน์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไป ปาจรีย์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วหันไปปลอบเพื่อน ตอนนั้นเองที่พิชญนรีได้เล่าเรื่องราวทั้งหมด เธอก็ได้แต่สงสารและเห็นใจ ทำได้แค่คอยดูว่านิพัฒน์จะเข้ามาอีกเมื่อไหร่
“ไม่เห็นนายแพทอะไรนั่นเลยนะ”
“พั้นซ์คงคิดมากไปเองล่ะ”
หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนแล้วหันไปสนใจงานของตัวเอง เธอไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มบางๆนั้นได้สร้างความประทับใจให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งถึงขนาดต้องถอดแว่นกันแดดออกแล้วเพ่งมองเธอ แม้จะอยู่ไกลสักหน่อยแต่เห็นได้ชัดว่าเธอสวยหวาน กว่าราคาที่เสนอมา
ปรินทร หรือที่ใครๆชอบเรียกเขาว่า เสี่ยมังกร เขาไม่ชอบให้ใครเรียกว่าเสี่ยนักหรอก อายุ35มีคนเรียกเสี่ยแล้วรู้สึกแปลกๆ เขาออกจะรำคาญไปด้วยซ้ำ แต่ถ้าออกปากห้ามก็จะกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยไปเสียเปล่า อาจเพราะดูแลกิจการต่อจากพ่อ ใครๆ ก็รู้จักกำนันทรงชัยพ่อของเขาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียมันดังกระฉ่อนจนเผื่อมาถึงลูกอย่างเขา แม้เขาทำธุรกิจถูกกฏหมาย แต่บางอย่างมันราบลื่นได้ก็เพราะชื่อเสียงของพ่อ
ชายหนุ่มวัย35 แม้จะยังไม่มีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ก็ใช่ว่าจะนอนเปลี่ยวใจให้หนาวเหน็บ เขามีหญิงสาวมากมาย หลายคนที่เข้ามาตีสนิทถึงขั้นยอมพลีกายก็เพราะเรื่องเงินเท่านั้น
