บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. พี่ชายต่างสายเลือด

“ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกจ๊ะ แม่จะให้คนมาปรับปรุงบ้านอีกสักนิด อีกสักเดือนสองเดือนถึงจะเข้ามาอยู่จ๊ะ”

“อยู่ที่นี่ บ้านเดียวกันนี่นะ”

หญิงสาวอยากจะหวีดร้องแต่เหมือนจุกในอก เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลย แม้ตั้งใจว่าจะใช้เวลาสองเดือนก่อนที่ว่าที่พ่อเลี้ยงจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่เมื่อเธอเห็นแม่มีความสุขและไม่ว่าเธอจะลองพูดจาหว่านล้อมอย่างไรก็ไร้ผล สองเดือนจากนั้น นิรุจน์กับนิพัฒน์ก็ก้าวเข้ามาในบ้าน

“คุณรุจน์เค้าทำงานเป็นเซลล์แมนนะลูก ส่วนแพทก็เพิ่งเรียนจบกำลังหางานทำอยู่ ก็เหมือนลูกนั้นแหละจ๊ะ”

แม่ทำตามสัญญา แม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ ซึ่งบางทีเธอคิดว่าถ้าแม่จะแต่งงานก็ไม่แปลก แต่มันจะแตกต่างอะไร ตอนนี้แม่มีผู้ชายที่อยู่กินด้วยกันแบบนี้ แถมผู้ชายคนนั้นมีลูกติดอายุเท่ากับเธออีก แต่เขาก็เรียกเธอว่าน้องพั้นซ์ด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น

พิชญนรีได้งานทำตั้งแต่เรียนจบ เธอไม่เลือกงาน ไม่เกี่ยงตำแหน่ง มีความอดทนค่อยๆไต่เต้าหาประสบการณ์ให้ตัวเองจนได้มาทำงานที่แผนกต้อนรับของโรงแรมระดับห้าดาว ในขณะที่นิพัฒน์ใช้ชีวิตหลักลอยไปวันๆ และมักจะบอกว่าตัวเองเป็นฟรีแลนซ์ แต่เธอก็ไม่เคยเห็นทำงานอะไรชัดเจน และที่สำคัญสายตาของเขาที่แอบมองเธอ มันมีความหิวกระหายแบบที่เธอรู้สึกรังเกียจและขยะแขยง บางเรื่องที่เธอไม่พูดกับแม่ แต่มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอจำใจย้ายออกมาก็ ก็เพราะคืนนั้น... คืนที่แม่ไปงานบวชลูกชายเพื่อนที่ทำงานซึ่งพ่อเลี้ยงไปด้วย แต่เธออยู่กับบ้านนิพัฒน์สองคน

วันนั้นเธอเลิกงานกลับถึงบ้านเกือบสองทุ่ม เหนื่อยและเพลียนอยากพักผ่อน และอยากอาบน้ำเป็นที่สุด หญิงสาวหยิบเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัว น้ำอุ่นทำให้ร่างกายผ่อนคลายลงมาก เทสบู่เหลวใส่ฝ่ามือก่อนจะลูบไล้ผิวกายจนเกิดฟอง แล้วเปิดน้ำล้างออก ทันใดนั้นเอง ไฟฟ้าก็ดับวูบ หญิงสาวสะดุ้งตกใจรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันร่างกายราวกับรู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

“น้องพั้นซ์ เป็นอะไรไหม?”

“ไฟดับหรือคะ”

“ฮืม พี่เอาไฟฉายมาให้”

“ค่ะ”

เธอแง้มประตูยื่นมือไปหมายจะรับไฟฉายจากมือของเขา แต่นิพัฒน์กลับดันประตูเข้าไป พิชญนรีตกใจถอยหลังแต่อีกฝ่ายยื่นมือไปโอบรัดร่างของเธอไว้ พร้อมกับก้มหน้า เธอเบี่ยงหน้าตัวเองหลบทำให้นิพัฒน์ได้แค่จูบแก้ม

“ทำบ้าอะไร! ปล่อยนะ! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

“ก็ทำความสนิทสนมแบบพี่น้องไงจ๊ะ น้องพั้นซ์”

“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ฉันจะฟ้องพ่อกับแม่ด้วย”

“โอ๊ยๆ น่ากลัวจริงๆ กว่าจะได้ฟ้องพี่แพทคนนี้คงกินน้องพั้นซ์ไปทั้งตัวแล้วล่ะ”

แม้อยู่ในความมืดแต่เธอก็เห็นแววตาหื่นกระหายของเขาได้ชัดเจน เธอดิ้นรนสุดชีวิต แต่ในห้องน้ำไม่ได้กว้างอะไรนักแถมยังลื่นด้วย นิพัฒน์เสียหลักจึงปล่อยมือจากร่างเกือบเปลือย เพื่อยันผนังห้องทรงตัวไม่ให้ล้ม หญิงสาวอาศัยจังหวะนี้ผลักเขาออกเต็มแรงแล้ววิ่งไปที่ห้องนอนตัวเอง ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา เนื้อตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

“น้องพั้นซ์ครับ เปิดประตูให้พี่สานสัมพันธ์ต่อเถอะ”

นิพัฒน์หัวเราะ เสียงหัวเราะชวนขยะแขยงทำให้น้ำตาของพิชญนรีไหลออกมาไม่รู้ตัว หญิงสาวมือไม้สั่นพยายามตั้งสติว่าตัวเองจะเอาตัวรอดอย่างไร เสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดในบ้านทำให้เธอสะดุ้งแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง

“แม่กลับมาแล้ว”

“น้องพั้นซ์ คืนนี้รอดไปแต่อย่าคิดว่าจะรอดได้ตลอดนะจ๊ะ”

หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ไม่กี่นาทีต่อมาไฟฟ้าก็กลับมาสว่างอีกครั้ง เธอรีบแต่งตัวทั้งที่มือยังสั่นอยู่ รีบเช็ดน้ำตาแล้วเดินเร็วๆมาหาแม่ ทว่าสิ่งที่เธอทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก มันคือภาพครอบครัวอันแสนสุข แม่หน้าแดงคงเพราะดื่มมาจากงานเลี้ยง ส่วนพ่อเลี้ยงก็หัวเราะสนุกเล่าเรื่องตลกจากในงานบวช และพี่ชายร่วมชายคาบ้านก็หน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทุกสิ่งที่เธอเห็นมันทำให้เธอมึนงง เรื่องเมื่อครู่มันเกิดขึ้นจริงๆหรือเธอเป็นบ้าไปแล้ว

“ยังไม่นอนหรือลูกพั้นซ์” แม่ถามแล้วหัวเราะร่วน “ทำงานเหนื่อยๆ น่าจะหลับไปแล้วนะลูก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel