ตอนที่5.ไม่ได้สนใจนักหรอก
แต่ในระยะหลังเขาเองก็ยุ่งกับ “ธนาคารสยามเครดิต” ธนาคารที่เน้นปล่อยเงินกู้ให้กลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งดำเนินกิจการมากว่าห้าปีเต็มและกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ยังไม่นับกิจการอื่นๆที่เขาดูแลต่อจากพ่ออีกด้วย บางเรื่องที่พูดเสียงดังไม่ได้ แต่ก็รู้กันดี ว่าพ่อของเขามีหุ้นในบ่อนที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งโรงแรม บ่อน คาสิโน่ แน่นอนว่าเขากลายเป็นที่รักและที่เกลียดชังในเวลาเดียว ซึ่ง... เขาก็ไม่ได้สนใจนักหรอก
“มือใครเอาปืนไปจ่อขมับให้มันเข้าบ่อนกันล่ะ”
ปรินทรยักไหล่ เมื่อนึกถึงเสียงสาปแช่งที่ดังไล่หลัง แน่ล่ะ ต่อหน้าเขาไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไร ได้แต่ฉีกยิ้มประจบประแจงเพื่อแลกเศษเงินจากเขา แม้จะอายุ35แล้วและยังไม่คิดจะแต่งงานแต่งการ ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร ทำไมต้องเดือดร้อน ผู้หญิงเป็นเรื่องน่ารำคาญ กินเป็นบ้างเวลาดีกว่าต้องให้รับผิดชอบไปทั้งชีวิต ใครจะมองว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ช่าง ก็ชีวิตที่เป็นอยู่นี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว
“เสี่ยมังกรครับ เราจับนายนิพัฒน์ได้แล้วครับ”
“หืม” ชายหนุ่มส่งเสียงรับน้ำเสียงเบื่อหน่าย
ปรินทรลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน เดินเอื่อยๆ มายังชั้นล่างของคาสิโน่ ห้องพิเศษสำหรับแขกพิเศษ เรื่องพวกนี้ไม่น่าจะต้องมาถึงมือเขาเลยแท้ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนายนิพัฒน์เป็นลูกค้าขาประจำและครั้งนี้ข้อเสนอของเขาน่าสนใจ
ลูกน้องหน้าตาโหดเปิดประตูให้เจ้านายเข้าไปในห้อง แม้ในห้องค่อนข้างมืดแต่ก็ยังเห็นคนที่นอนขดตัวงอเป็นกุ้งอยู่บนพื้นได้ชัดเจน ร่างสูงของปรินทรเดินไปหยุดยืนเบื้องหน้า นิพัฒน์ที่ขณะนี้เนื้อตัวเปื้อนเปรอะด้วยคราบเลือดและรอยรองเท้าตามเนื้อตัว คนที่นอนร้องโอดครวญถึงกับหุบปากเมื่อเขาเห็นหัวรองเท้าหนังสีดำมันวาวเดินมาหยุดตรงหน้า ครู่ต่อมาลูกน้องก็ยกเก้าอี้มาให้เจ้านายนั่ง แล้วไหล่สองข้างก็ถูกจับกระชากให้เงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่
“สวัสดีครับคุณนิพัฒน์”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแบบนี้ แต่คนฟังถึงกับขนลุกเกรียวด้วยความหวาดกลัว ปรินทรเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ดวงตาคมหรี่มองอีกฝ่ายที่หน้าบวมปูด ปากแตก คิ้วมีแผลเลือดไหลยาวลงมาตามแนวแก้ม
“สะ..สะ..สวัสดี..ครับ ครับ เสี่ยมังกร” นิพัฒน์ถึงกับติดอ่าง ปากที่บวมเจ่อทำให้พูดไม่ถนัดอีกด้วย
“รู้สึกลูกน้องผมจะเก็บดอกเบี้ยหนักมือไปหน่อยนะครับ” เขากระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วหันไปพูดกับลูกน้องที่ยืนประกบอยู่ด้านข้าง
“คราวหน้าอย่าให้หน้าตาบวมช้ำนะ เวลาออกจากคาสิโน่ของเรา ถ้าคนอื่นเห็นเข้ามันจะเสียชื่อเสียง”
“ผะ...ผะ...ผม...ผมไป...ไป...ได้แล้วใช่ไหมครับ” นิพัฒน์พูดอย่างมีความหวัง โดนกระทืบจนช้ำในตับไตสะเทือนไปหมดแล้ว
“ไปได้นะครับ ถ้าคุณใช้หนี้เราหมดแล้ว”
“เสี่ยมังกรก็รู้ว่าตอนนี้ผมไม่มี” เขาเสียงอ่อน “แต่ถ้าให้ผมลงทุนอีกสักก้อน ผมอาจจะเอามาคืนเสี่ยได้นะครับ”
ปรินทรถึงกับเลิกคิ้วที่ได้ยินแบบนั้น โดนขนาดนี้น่าจะกระดูกซี่โครงร้าวไปแล้วด้วยซ้ำ ยังคิดจะเล่นต่ออีกเรอะ เออนะ คนถูกผีพนันเข้าสิงนี่มันโดนน้ำมนต์วัดไหนก็คงไม่หาย ชายหนุ่มเพียงแค่สูดลมหายใจลึกๆ แล้วหงายมือกระดิกนิ้ว ลูกน้องเข้าใจความหมายในทันที หมุนตัวไปหยิบสมุดบันทึกรายการ และเอ่ยปากรายงานต่อเจ้านาย
“สองแสนห้ารวมดอกเบี้ยครับ”
“เฮ้ย! มันใช่เหรอ กดเครื่องคิดเลขใหม่ดิ!”
นิพัฒน์โวยวาย ทั้งที่ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่โดนซ้อมเจ็บปางตายแบบนี้หรอก แต่การโวยวายของเขา ไม่ได้ทำให้เสี่ยมังกรหรือปรินทร์แปลกใจแต่อย่างใด ซ้ำยังไม่สั่งให้ลูกน้องคิดคำนวนใหม่ตามคำร้องของลูกหนี้
“เอาเป็นว่าคุณอยากออกไปอย่างมีลมหายใจก็เอาเงินสองแสนห้าหมื่นบาทมาคืนผม” เขาพูดยิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขาหวาดกลัวถึงขั้นตัวสั่นงักงกเลยทีเดียว
“ตอนนี้ผมไม่มี เสี่ยก็รู้”
