ยาพิษ | Ep.15 |
ยาพิษ | Ep.15 |
หลังจากเปาส่งโลเคชั่นมาให้ ภูผาก็รีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังสถานบันเทิงแห่งนั้นทันที ไม่คิดว่าแค่ลาหยุดไปรับรถหนึ่งวันแพรพลอยจะแอบดื้อได้ขนาดนี้
ผับหรูใจกลางเมือง
ชายหนุ่มเดินเบียดผู้คนเข้าไปในสถานบันเทิงขึ้นชื่อของย่านนี้พร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาตัวต้นเรื่อง
"มาดื่มด้วยกันไหมคะสุดหล่อ"
ใบหน้าหล่อคมคายส่ายปฏิเสธให้กับคำเชิญชวนของหญิงสาวแปลกหน้าพร้อมกับยกยิ้มเบาๆ ส่งไปให้ตามมารยาท แล้วเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปต่อไม่ได้หยุดที่สาวๆ คนไหน เพราะเธอคนนั้นไม่ใช่คนเดียวที่เชิญชวนเขา แต่มีเป็นสิบๆ โต๊ะเลยที่เข้ามาคุยกับภูผาแล้วก็ชวนดื่ม
ฝั่งแพรพลอย หลังจากมาถึงเธอก็ชนแก้วแล้วแก้วเล่ากับเพื่อนสาว ทั้งเต้นทั้งดื่ม จนตอนนี้พวงแก้มขาวนวลได้เปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาคู่สวยก็เริ่มเยิ้มขึ้นไปทุกที
"มาที่นี่บ่อยไหมครับ?" เสียงทุ้มของหนุ่มหล่อแปลกหน้าที่อริสกระดิกนิ้วเชิญชวนมาถามขึ้นข้างหูแพรพลอย เขาถูกใจสาวสวยคนนี้มาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะสานสัมพันธ์ด้วย
"ช้านพึ่งมาครั้งแรกค่ะ~" เธอชูนิ้วชี้ขึ้นมาแตะจมูกแล้วเอียงหัวลงเล็กน้อย พลางยิ้มตาหยีน่ารักน่าเอ็นดู พอเมานิสัยขี้อ้อนก็กำเริบขึ้นมาทุกที
ระหว่างที่แพรพลอยกำลังสนุกอยู่ในวงเหล้าท่ามกลางเสียงเพลงอีดีเอ็มที่ดังคับหูและแสงสีฉูดฉาดสาดไปมา ขณะนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เนียนเป็นนักท่องราตรี ทว่าสวมใส่แมสสีดำอำพรางใบหน้าเบียดเสียดผู้คนเข้ามาใกล้แพรพลอยเรื่อยๆ ในมือข้างหนึ่งกำเข็มฉีดยาที่มียาพิษร้ายแรงที่ทำให้เสียชีวิตภายในครึ่งชั่วโมง และเขาก็กำลังเดินตรงไปหาเป้าหมายนั่นก็คือแพรพลอย
"ว่าแต่คุณสวยมากเลยนะครับ ตอนนี้มีแฟนรึยัง" หนุ่มหล่อยังคงยืนชิดติดร่างบางอรชรแล้วยื่นหน้าไปใกล้ๆ หูของแพรพลอยเพื่อถามสิ่งที่มันอัดอั้นตันใจ
แพรพลอยเอียงหูแนบชิดติดริมฝีปากหยักของชายหนุ่มที่พึ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมง เพราะเสียงเพลงในผับมันดังมาก และเธอก็เมาด้วย ส่วนอริสกับริสาเองก็มีหนุ่มๆ มาคุยด้วยเช่นกัน
ในขณะที่หญิงสาวยื่นหน้าไปใกล้ใบหูของอีกฝ่ายเพื่อที่จะให้คำตอบ ขณะเดียวกันชายปริศนาคนนั้นก็ได้ขยับเข้ามาใกล้ อาศัยความชุลมุนของนักท่องราตรีที่โยกย้ายส่ายสะโพกเข้ามาอย่างแนบเนียน ค่อยๆ ส่งมือข้างที่มีเข็มฉีดยาเข้าไปใกล้สะโพกผายของหญิงสาว พร้อมๆ กับเสียงหวานยานเล็กน้อยที่กำลังตะเบ็งเสียงตอบคำถามของหนุ่มหล่อ
"ฉันยังไม่มีแฟนค่ะ แต่ฉันมีคน!..."
หมับ!!
"อ๊ะ!"
"อะไรวะ...ชิบ!..."
ร่างของแพรพลอยกับหนุ่มหล่อคนนั้นถูกแรงกระแทกจนเซเข้าไปชนโต๊ะเหล้า พอทั้งคู่หันไปมองก็พบกับนักท่องราตรีคนอื่นๆ กำลังเต้นกันอย่างเมามันส์ ไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นคนชนหรืออาจจะเต้นมาโดน ชายหนุ่มจึงคิดว่าอาจจะเป็นคนเมาที่เต้นมาโดนแล้วไม่รู้ตัว จึงไม่คิดติดใจอะไร
อีกด้าน
ชายคนหนึ่งถูกบุคคลปริศนาดึงคอเสื้อพร้อมกับกำข้อมือข้างที่ถือเข็มไว้แน่น ลากมาที่บันไดหนีไฟ ก่อนที่เขาจะถูกชายคนนั้นผลักให้กระแทกกับฝาผนัง
"ใครส่งมึงมา?" เสียงเข้มของภูผาเอ่ยถามอย่างเดือดดาลหลังจากผลักชายคนหนึ่งไปติดฝาผนังในห้องบันไดหนีไฟ
"....." ชายคนดังกล่าวไม่ตอบ ได้แต่เหลือบมองหาทางหนีทีไล่แทน เพราะถ้าพูดหรือว่าเผยโฉมหน้า อีกฝ่ายอาจจดจำเขาได้ แม้ไม่ได้เจอกันนานถึงยี่สิบปีก็ตาม ประเมินจากสายตาและการกระทำเมื่อครู่แล้ว คนตรงหน้านั้นมีความสามารถและไหวพริบดีมากๆ
หลังจากไล่สายตาหาหนทางหนี ชายคนร้ายก็ก้าวขาวิ่งหมายจะลงบันไดไป ทว่าดันถูกอีกฝ่ายสะกัดขาไว้จนล้ม
ตุบ!
พอล้มปุ๊บชายคนร้ายก็วาดมือข้างที่ถือเข็มมาทางคอของภูผา หวังจะปักยาพิษลงบนต้นคอเด็กหนุ่ม แต่ก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงยกขึ้นมากั้นเอาไว้ จึงทำให้ปลายเข็มเฉียดผิวคอภูผาอย่างหวุดหวิด
ปัก! ปัก!
หมัดหนักๆ ของชายหนุ่มอัดเข้าแก้มชายคนร้ายสองครั้งติดต่อกัน ก่อนจะเอื้อมมือไปหมายจะดึงแมสที่ปิดบังใบหน้าอีกฝ่ายออก แต่ชายคนร้ายก็เบือนหน้าหนีทันแล้วหมุนตัวออกจากการจับกุมของภูผา ก่อนจะวาดมือที่ถือเข็มเข้ามาที่บริเวณลำคอของเด็กหนุ่มอีกครั้ง แต่ก็พลาดอีกเช่นเคยเมื่อภูผาก้มหัวรอดท่อนแขนข้างนั้นแล้วเงยขึ้นมาเสยคางชายคนร้ายแล้วอาศัยเสี้ยววินาทีที่อีกฝ่ายกำลังมึนหมัดกระชากแมสออก
"......!"
".....!" เมื่อภูผาได้เห็นใบหน้าเต็มๆ ของชายคนร้าย เขาก็ยืนอึ้งไปทันที
ส่วนอีกฝ่ายนั้นเมื่อถูกเปิดเผยใบหน้าก็ไม่ยืนรอให้ภูผาได้พิจารณานานรีบหลบหนีโดยวิ่งลงบันไดหนีไฟไป
ภูผายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ ดวงตาคมที่เบิกกว้างค้างไว้กำลังย้อนความทรงจำไปยังวัยเด็ก ความรู้สึกเขาไม่เคยผิดพลาด ที่เคยรู้สึกว่าผู้ชายในรูปที่ได้มาจากชายที่ถูกว่าจ้างให้ตัดสายเบรคหน้าตาคุ้นๆ เพราะความเป็นจริงภูผารู้จักผู้ชายคนนั้น คนที่พยายามจะใช้เข็มฉีดยากับเขาและแพรพลอย แม้จะผ่านไปแล้วยี่สิบปีเขาก็ยังจำผู้ชายคนนั้นได้ ผู้ชายที่เคยมาหาจักราชบ่อยๆ และเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะเคยห้อยป้ายพนักงานบริษัทนิวเคมาก่อน ป้ายที่เหมือนกับพ่อแม่ของเขา
หลังจากรู้ตัวคนร้ายแม้ชายหนุ่มจะมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นยังไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังสุดก็ตามที เขาก็รีบเดินเบียดผู้คนกลับเข้ามาในผับ โดยไม่สนเสียงหวานๆ ที่เชื้อเชิญเรียกให้ไปร่วมโต๊ะด้วย ภูผาไม่คิดจะหันไปขอโทษคนที่เขาเดินชนด้วยซ้ำ เนื่องจากจิตใจตอนนี้เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ เท้าหนาจ้ำเดินไปยังโต๊ะที่มีหญิงสาวคุ้นตากำลังคุยกระหนุงกระหนิงหัวเราะอย่างมีความสุขกับชายแปลกหน้า
เกือบจะได้ไปเฝ้ายมบาลอยู่แล้วยังยืนยิ้มได้อีก!
"น้องแพร!!"
"อ๊ะ!"
มือหนาของภูผาคว้าข้อมือหญิงสาวแล้วกระชากเข้าหาตัว ทำให้ร่างบางหมุนติ้วเซเข้ามาซบแผงอกกำยำเข้าอย่างจัง
ใบหน้าสวยแดงซ่านเพราะฤทธิ์เหล้ารีบผงกขึ้นมาจากแผงอกแกร่ง ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหรี่มองใบหน้าหล่อดุจเทพเจ้า พอปรับโฟกัสได้เธอจึงค่อยๆ ยกมือขึ้นมาชี้หน้าเขาพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"โอ๊ะ พี่ชายแพรมาแล้ว คิกๆๆ"
"พะ..พี่ชายเหรอครับ สวัสดีครับผมชื่อดิน" หนุ่มหล่อที่ยืนคุยกับแพรพลอยมาพักใหญ่ๆ รีบแนะนำตัวเพราะคิดว่าภูผาเป็นพี่ชายจริงๆ
อริสกับริสารีบละจากผู้ชายที่ยืนดื่มอยู่ด้วยกัน ก่อนจะกระซิบบอกบางอย่างกับพวกเขา จากนั้นหนุ่มๆ ทั้งคู่ก็เดินกลับโต๊ะกันไป พวกเธอสองคนจึงหันมามองแพรพลอยที่ยืนเมาโดยมีผู้ชายสองคนยืนขนาบข้าง
"สวัสดีค่ะพี่ภูผา ได้ยินเรื่องของพี่จากยัยแพรเยอะเลยค่ะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ภูผาหันไปทักทายกลับและยิ้มให้เบาๆ ตามมารยาท ก่อนจะหันกลับมาจ้องเขม็งคนที่ยืนพิงอกเขาอยู่ โดยลืมสงสัยไปชั่วขณะว่าแพรพลอยเอาเรื่องอะไรของเขาไปพูดให้เพื่อนของเธอฟังในเมื่อเราห่างกันไปตั้งยี่สิบปี
"กลับกันได้แล้ว! รู้ไหมว่ามันอันตราย!" เสียงเข้มกระเส่าดุข้างใบหูขาว ก่อนจะดันร่างบางอรชรให้ออกห่างจากตัวเล็กน้อย แล้วหมุนข้อมือคว้ามือบางขึ้นมาจับให้กระชับ
แต่ก่อนที่ภูผาจะพาแพรพลอยเดินจากไป เขาก็ได้ขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่พึ่งแนะนำตัวว่าชื่อดิน แล้วก้มลงไปพูดบางอย่างข้างๆ หู จนดินรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
"กูเป็นลูกคนเดียว...ไม่มีพี่น้อง จบนะ!" พูดจบภูผาก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีนัยแฝงรับกับดวงตาคมกริบราวกับมีดที่พร้อมจะเชือดศัตรูตลอดเวลาให้ดิน จากนั้นก็จูงมือแพรพลอยเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
ซึ่งประโยคที่ดินได้ยินจากภูผานั้น ตอนแรกก็ฟังแล้วดูงงๆ แต่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเขาก็เข้าใจในสิ่งที่ภูผาจะสื่อ
