บท
ตั้งค่า

ทดสอบความรู้สึก | Ep.13 |

ทดสอบความรู้สึก | Ep.13 |

หลังจากที่คุยกันเสร็จแบบไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ ภูผาก็ขับรถพาแพรพลอยกลับบ้าน แต่ระหว่างทางก็ดันนึกได้พอดีว่าหญิงสาวไม่ค่อยทานอะไรเลยระหว่างที่ทำงานอยู่ที่บริษัท จึงตีไฟเลี้ยวแวะเข้ามาจอดที่ร้านอาหารร้านเดิมที่เคยมาใช้บริการครั้งก่อน

"น้องแพร" มือหน้าเอื้อมไปจับไหล่มนเพื่อให้หญิงสาวรู้ตัวว่าเขาเรียก แต่เธอก็ไม่หันมาและไม่ยอมสนใจ ไม่แม้แต่จะปรายตามามองเขาด้วยซ้ำ

"เฮ้อ!" ภูผาถอนหายใจ ก่อนจะถือวิสาสะล้วงไปในกระเป๋าแบรนด์หรูหยิบเครื่องช่วยฟังออกมา

เมื่อรู้สึกถึงแรงยุกยิกอยู่ข้างๆ แพรพลอยจึงรีบหันไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เธอโกรธอยู่กำลังล้วงเอาบางอย่างในกระเป๋าของเธอ

"พี่ผา...ว๊าย!!...ปล่อยแพรนะพี่จะทำอะไรคะ!!" กำลังจะอ้าปากถามเขาว่ามาล้วงกระเป๋าเธอทำไม แต่ดันถูกเขารวบตัวกดหัวให้จมเข้าไปที่อกแกร่งหอมๆ ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างเข้ามาที่หู เสร็จแล้วเธอก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

"ลงไปกินข้าว"

"......" พอได้ยินเสียงเข้มบอก ดวงตาคู่สวยจึงเหลือบไปมองนอกกระจกรถฝั่งคนขับ เลยเห็นว่าเขามาจอดที่ร้านอาหารร้านเดิมที่เคยมาครั้งก่อน

"แพรไม่หิวแพรไม่กินค่ะ!" เสียงเล็กรีบเอ่ยปฏิเสธอย่างเล่นตัว เพราะเธองอนเขาอยู่ จะให้เออออตามคำสั่งก็เสียฟอร์มหมด ก่อนจะหันหน้ากลับมาอีกฝั่ง

"แล้วแต่นะ เพราะว่าพี่จะลงไปกิน หิวมากเลยไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน" ภูผายักไหล่ให้อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูลงจากรถ แต่ยังไม่ได้ปิดประตูเพราะต้องหันไปขู่เด็กดื้อก่อนไป "ถ้ามีอะไรแปลกๆ ไม่ชอบมาพากล โทรหาพี่ได้เลยนะ แถวนี้ค่อนข้างมืดนิดนึง แต่พี่กินไม่นานหรอก สัก...ชั่วโมงนึงได้มั้ง"

คิ้วเรียวขมวดยุ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น กินเป็นชั่วโมงเลยอย่างนั้นเหรอ!

ปึก!

ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อประตูฝั่งคนขับถูกปิด หันไปมองชายหนุ่มก็เห็นว่าเขาเดินเข้าร้านอาหารไปไม่คิดจะหันเสี้ยวหน้ากลับมามองเธอเลยสักนิดเดียว

...แล้วดับรถเนี่ยนะ! เธอจะอยู่ยังไงล่ะ?

ดวงตากลมสั่นระริกมองฝ่าความมืดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มือเล็กเริ่มสั่นเทิ้มเมื่อเกิดการระแวงและตื่นกลัว ก่อนจะหลับตาลงระงับลมหายใจที่สั่นไม่เป็นจังหวะ แล้วลืมตาขึ้นเมื่อตัดสินใจได้ในสองวินาที

แกร็ก!

ปึก!

มุมปากหนายกยิ้มเมื่อมองผ่านกระจกร้านแล้วเห็นร่างบางคุ้นตาเปิดประตูลงมาจากรถ พอเธอผลักประตูร้านเข้ามา เขาก็กดล็อครถผ่านกุญแจรีโมททันที ก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่นในตอนที่หญิงสาวกำลังย่างกรายตรงเข้ามาทางเขา จนกระทั่งได้ยินเสียงกระแทกของกระเป๋าแบรนด์หรูจึงหันหน้ากลับมามองทำทีตกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอมานั่งกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้าม แถมยังทำหน้าไม่สบอารมณ์อีกต่างหาก

...ยัยเด็กปากแข็ง มันน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด

"แพรจะฟ้องคุณพ่อว่าพี่ผาดูแลแพรไม่ดี!" เสียงหวานต่อว่าชายหนุ่มคอเป็นเอ็น ก็เขาชอบอ้างดีนักว่าเป็นเพราะหน้าที่ เป็นเพราะบิดาขอร้องและจ้างมาคุ้มครองเธอ งั้นเธอก็มีสิทธิ์ที่จะร้องเรียน

"ตามใจ อยากกินอะไรล่ะ?"

"....!" คิ้วเรียวสวยขมวดยุ่งมองหน้าคนที่เอาเมนูมาเปิดหน้าตาเฉย ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับคำขู่ของเธอเลย

...เฮ้อ! ช่างเถอะ ถ้าเธอฟ้องแล้วคุณพ่อเปลี่ยนไปจ้างบอดี้การ์ดคนใหม่มาเธอก็แย่น่ะสิ

แพรพลอยจำต้องหยิบหนังสือเมนูขึ้นมาดูแล้วสั่งอาหารที่มันย่อยง่ายมากิน ทั้งนี้ท่าทีของหญิงสาวก็ยังไม่มีวี่แววที่จะยอมคุยกับคนตรงหน้าดีๆ เธอยังคงงอนเขาด้วยเรื่องสาเหตุที่ทำให้เขามายืนอยู่เคียงข้างเธอตอนนี้

"จะบอกคุณลุงตอนไหนเหรอ พี่จะได้เตรียมตัว" ระหว่างรออาหาร ภูผาก็แกล้งแหย่คนที่นั่งกอดอกเบือนหน้าบูดๆ มองไปด้านข้าง แอบยิ้มเยาะในแววตาเมื่อเห็นท่าทีเลิ่กลั่กของอีกฝ่าย

"แพรเปลี่ยนใจไม่ฟ้องคุณพ่อแล้วค่ะ พี่ผาต้องอยู่ดูแลแพรไปตลอดจนกว่าแพรจะตาย..."

"หึ.. ถ้าพี่ยังมีชีวิตอยู่คงไม่มีวันนั้นแน่"

"....." ดวงตาคู่สวยเคลื่อนสายตาไปมองคนพูดโดยที่ใบหน้ายังเอียงมองด้านข้างอยู่ ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองวิวรอบนอกเหมือนเดิมเมื่อแอบเห็นความมุ่งมั่นจริงจังอยู่ในแววตาคมคู่นั้น

...ไม่นะแพรพลอย เธออย่าเข้าข้างตัวเองสิ เขาทำตามหน้าที่!

"ไม่รู้แหละ คอยดูเถอะแพรจะทำให้พี่ผาหลงรักแพรจนหัวปักหัวปำให้ได้!"

"งั้นก็..สู้ๆ นะ พี่เป็นกำลังใจให้"

"พี่ผา!" แพรพลอยตะเบ็งเสียงเรียกคนที่กำลังขำเยาะเย้ยเธอ

ว่าแต่...เมื่อครู่เขายิ้มใช่ไหม?

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขายิ้มอารมณ์ดีขนาดนี้ แต่มันจะดีมากๆ ถ้านี่ไม่ใช่การยิ้มเยาะเย้ยล้อเลียนเธอ

"อาหารที่สั่งได้แล้วครับ"

"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มพูดกับพนักงานเสิร์ฟแล้วรับอาหารมา

หลังจากที่ทั้งคู่ได้รับอาหารมาแล้ว พวกเขาก็ต่างคนต่างตั้งใจกิน อีกคนกินอย่างอารมณ์สุนทรีย์ ส่วนอีกคนกินไปด้วยหน้ามุ่ยไปด้วยเพราะว่าโดนเยาะเย้ยความตั้งใจ

40 นาทีต่อมา

ปึก

ปึก!

เสียงประตูรถที่ดังแตกต่างกันบ่งบอกถึงอารมณ์คนปิด แน่นอนว่าคนที่ปิดประตูรถแรงต้องเป็นแพรพลอยอยู่แล้ว

พอปิดประตูเสร็จ แพรพลอยก็รีบดึงเครื่องช่วยฟังออกจากหูทันที แล้วรีบเบือนหน้าหนีคนใจร้ายที่ไม่คิดจะโอ๋เธอสักนิด แก้ตัวสักหน่อยก็ยังดี หรือว่าโกหกให้เธอฟังเพื่อถนอมน้ำใจกันก็ได้ เธอไม่สามารถรับได้ที่อีกฝ่ายจะไม่แยแสและไม่แคร์เธอเหมือนเมื่อก่อน

เมื่อก่อนที่ผ่านมาแล้วยี่สิบปี

"น้องแพรคาดเข็มขัดด้วย" ภูผาก้มหน้าบอกเพราะชายหนุ่มกำลังคาดเข็มขัดให้ตัวเองอยู่ จึงไม่เห็นว่าหญิงสาวเอาเครื่องช่วยฟังออกจากหูแล้ว

พอเห็นร่างบางนั่งนิ่ง ใบหน้าหล่อคมคายจึงหันไปมองแล้วทดสอบเสียงเรียกเธออีกครั้ง

"น้องแพร..."

"......." เงียบ

นาทีนั้นภูผาจึงรับรู้ได้ทันทีว่ายัยเด็กตัวแสบเอาเครื่องช่วยฟังออกไปแล้ว เขาจึงโน้มตัวเข้าไปหาร่างเล็กอย่างใกล้ชิด ทำให้ใบหน้าสวยต้องหันกลับมามองด้วยความตกใจเล็กน้อย ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ และนั่นก็เป็นความตั้งใจของภูผาด้วย ที่อยากจะแกล้งอ่อยแพรพลอยให้เสียอาการ และมันก็ได้ผล

"พะ..พี่ผาจะทำอะไร!"

"บอกไปก็ไม่ได้ยิน ยัยเด็กดื้อ ระวังตัวไว้เถอะ ยั่วมากๆ ระวังโดนพี่ขย้ำไม่รู้ตัว" เสียงทุ้มกระเส่าบอกพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้ดูเจ้าเล่ห์น่ากลัว

ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆ มองริมฝีปากหนาที่ขยับค่อนข้างนานพอสมควร เธอไม่ได้ยินที่เขาพูด รับรู้ถึงเพียงลมปากอุ่นๆ ที่กระทบลงข้างแก้ม และเห็นเพียงรอยยิ้มมุมปากของเขา

"พี่ยิ้มอะไร...กำลังล้อเลียนแพรอยู่อย่างนั้นเหรอคะ!" แพรพลอยเชิดหน้าถามอย่างเอาเรื่อง พยายามเก็บความหวั่นไหวในแววตาซ่อนไว้เพราะกลัวเสียหน้า

ภูผาไม่ได้ตอบอะไร เขาทำเพียงส่ายหน้าเบาๆ แล้วจัดการคาดเข็มขัดนิรภัยให้หญิงสาว ก่อนจะถอยตัวไปนั่งที่ปกติ แล้วขับเคลื่อนตัวรถออกไป

แพรพลอยนั่งกำสายเข็มขัดแน่น นึกเจ็บใจที่ถูกชายหนุ่มแกล้ง และที่ยิ่งเจ็บใจกว่านั้นคือใจเธอสั่นมาก มันหวั่นไหวให้เขาสุดๆ แต่เวลาเธออ่อยเขากลับนิ่งไม่มีแม้แต่แววตาที่วูบไหวให้ได้เห็น และแทบจะไม่หลุดอาการอะไรออกมาเลยนอกจากถอนหายใจ กลอกตาใส่ แล้วก็เมินเฉย

ตลอดเวลาที่รถวิ่ง แพรพลอยคิดหาวิธีการสารพัดมาสยบใจคนข้างๆ และก็คิดออกอยู่แค่วิธีเดียวด้วย ลองดูซิว่าเขายังจะเฉยเมยโดยไม่ตอบโต้อยู่อีกหรือเปล่า

ไม่นานรถฟอร์จูนเนอร์คันสีขาวก็มาจอดเทียบหน้าประตูบ้านใหญ่เกษมนิล เป็นเพราะบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันโปรดโดนรถตู้ของบ้านเกษมนิลพุ่งชนวันนั้น เลยต้องเอาเข้าอู่ยาว แล้วก็ได้รถจากบริษัทเคทีซีเอช เซฟตี้ มาขับสลับกันไปแต่ละวันไม่ซ้ำคัน

ภูผาจอดรถเสร็จก็หันไปมองคนข้างๆ แต่ไม่ทันเห็นว่าหญิงสาวแอบใส่เครื่องช่วยฟังไว้ที่หูอีกฝั่งเสร็จสรรพแล้ว

แพรพลอยนั่งทำใจอยู่ครู่หนึ่ง จนโดนชายหนุ่มขมวดคิ้วใส่เพราะสงสัยว่าทำไมเธอถึงยังไม่ลง

"มีอะไรรึเปล่า?" คิ้วเข้มเลิกขึ้น

ใบหน้าสวยหันไปมองหน้าชายหนุ่ม แล้วจ้องเข้าไปในแววตาส่วนลึกประมาณสิบวิได้ จากนั้นก็เอื้อมมือไปคว้าหมับเข้าที่ต้นขาอ่อนซึ่งใกล้กับเป้ากางเกงเขาอย่างหมิ่นเหม่

หมับ!

"น้องแพร!" เสียงเข้มเค้นรอดไรฟันร้องเรียกชื่อเจ้าของมือซนที่ทำเขาใจหายวาบจนเกือบจะช็อค

ทันทีที่มือบางจับมา ภูผาก็คว้าข้อมือเธอไว้ในทันทีเหมือนกัน ก่อนจะเขม่นตาขู่ให้หญิงสาวรีบปล่อย ทว่าเธอดันออกแรงบีบต้นขาเขายวบยาบ พยายามจะขยับมือขึ้นมาใกล้อาวุธลับที่หลับใหลอยู่ภายในกางเกง แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะถูกเขาบีบข้อมืออยู่

"พี่ผารู้สึกอะไรไหมคะ?"

"ปล่อย!" ชายหนุ่มเค้นเสียงสั่งพลางประคับประคองลมหายใจที่สั่นจนเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาตามกรอบหน้า

เธอกำลังทดสอบความอดทนเขาอยู่หรือไง!

"ถ้างั้นแบบนี้ล่ะคะ?" แพรพลอยไม่ยอมแพ้ ส่งมืออีกข้างเข้าไปหมายจะคว้าหมับเข้ากลางเป้าตุงนั่น

หมับ!

ทว่ามือเธอดันถูกชายหนุ่มคว้าเอาไว้ได้ในเสี้ยววินาที แต่ความเป็นชายที่ซ่อนอยู่ในเนื้อผ้านี่สิ ภูผาไม่อาจช่วยมันเอาไว้ได้ เพราะตอนนี้มันทั้งแข็งทั้งตึงคับเป้าไปหมดแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel