ตอนที่ 3
แก้วกลับมาถึงบ้านก็หยิบโทรศัพท์มากดหาเบอร์เพื่อน ก่อนจะกดโทรออกทันที
“จ๋าาา คืนนี้ว่างไหม แก้วจะชวนไปงานเลี้ยงรถแข่ง ไปเปล่า” แก้วรอสายไม่นาน เพื่อนเธอก็กดรับ
[ว่างมากเลย ตั้งแต่ปิดเทอมมานี่ไม่มีอะไรทำเลย] จ๋าบ่นให้แก้วฟัง จบเทอมนี่พวกเธอก็จะขึ้นม.6 แล้ว
“งั้นไปกับแก้วนะ ได้บัตรฟรีมา เจอกันคืนนี้ ไปรถจ๋านะ รถแก้วซ่อมอยู่” แก้วบอกอย่างดีใจที่มีเพื่อนไปด้วย
[เคร เจอกันเลยไหม จ๋ากำลังจะไปหาแก้วพอดี รอแปปนะ] จ๋าพูดจบก็วางสายไป
แก้วจึงไปอาบน้ำรอ ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสามเอง แข่งตอนบ่ายร้อนมากๆ เธออยากอาบน้ำ และก็แอบตื่นเต้นนิดๆ งานนี้เป็นงานเลี้ยงครั้งแรกที่เธอได้ไป
“แม่ แก้วอยู่ไหมจ๊ะ” ไม่นานก็ได้ยินเสียงจ๋าตะโกนอยู่หน้าบ้าน
“ขึ้นมาเลยจ๋า แก้วอยู่ข้างบน” แก้วที่อาบน้ำออกมาตะโกนบอกจ๋าเสียงดัง ก่อนจะได้ยินเสียงจ๋าวิ่งตึงตังขึ้นมาบนบ้าน
“แก้ว! จ๋าขอเข้าไปนะ นั่นแก้วจะไปชุดนี้เหรอ” จ๋าเปิดประตูเข้ามาก่อนจะบอกแก้วจบด้วยซ้ำ ก่อนมองแก้วนิ่งๆ ที่เห็นแก้วใส่เสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม
“ก็แค่งานเลี้ยงนักแข่ง แต่งแบบนี้ก็ได้ แก้วไม่ใช่เจ้าของงานสักหน่อย แค่ไปกินๆ ก็กลับ” แก้วคิดไว้แบบนั้น
“โอ้ยแก้ว มีความเป็นผู้หญิงบ้างปะเนี้ย” จ๋าบ่นเพื่อนเสียงดัง ไม่ได้ดูตัวเองสักนิด
“โอ้ยจ๋า ชุดจ๋ามันต่างจากแก้วตรงไหน” เสื้อวอร์มแขนยาวขายาว ต่างกันตรงไหน
“เอ่อวะ 55555 แล้วมันต้องแต่งแบบไหนละ” จ๋ามองอย่างสงสัย
“ไปแบบนี้แหละ” แก้วตัดสินใจ พวกเธอไม่ได้รวยพอที่จะซื้อเสื้อผ้าเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปใส่ ชุดที่มีก็แค่ชุดกีฬาของโรงเรียน ที่พวกเธอขยันใส่มันแทบจะทุกฤดูกาล
ไม่สนใจคนรอบข้างจะมองหรอก พวกเธอมีความสุขแบบนี้ แม้เพื่อนคนอื่นจะไม่คบเพราะพวกเธอจน แต่สองสาวก็ไม่ได้แคร์สักนิด
“งานนี้กินฟรีไม่อั้นปะ”
จ๋าถามแก้วในขณะที่ขับรถเข้าไปในเมือง บ้านพวกเธออยู่ไกลตัวเมืองออกไปหลายกิโล จึงออกมาเร็วหน่อย ถ้างานยังไม่เริ่มก็เตร็ดเตร่กันแถวโลตัสนั่นแหละ ตากแอร์ฟรีให้ชุ่มปอด
“เห็นพี่บาสว่างั้นอะ” แก้วยื่นหน้าไปตอบจ๋าที่ขับรถอยู่
ปี๊บบบๆๆ
“อีแม่อี๊แหก” อยู่ๆ ก็มีรถบิ๊กไบร์คันหรูขับมาตีคู่รถพวกเธอ ก่อนจะบีบแตรเสียงดังจนจ๋าตกใจ พ่นคำด่าไปทันที
แก้วหันไปมองรถคันที่อยู่ด้านขวาอย่างขุ่นเคือง รถไอ้พี่แสบ ส่วนจ๋าก็ยังต้องหน้าตั้งตาขับแม้ปากจะบ่นไม่หยุดก็ตาม
“จะไปไหนเหรอครับ น้องแก้ว” แสบชะลอรถก่อนจะเปิดหมวกกันน็อคถามแก้วที่นั่งซ้อนเพื่อนอยู่ ก่อนจะมองข้อมือข้างขวาเธอที่มันบวมอย่างเห็นได้ชัด
“ไปข้างหน้าไงพี่แสบ ไม่แหกตาดูเหรอว่ารถที่แก้วนั่งมันกำลังขับไปข้างหน้าอยู่” แก้วพูดยิ้มๆ เธอกับเขาไม่ได้แข่งกันแค่รถ แต่แข่งสกิวปากด้วยต่างหาก
“เห็นครับน้องแก้ว ตาพี่ไม่ได้หนวก” แสบเล่นมุกฝืดๆ เพราะเขาไม่สบอารมณ์กับข้อมือแดงๆ ของเด็กนี่
“ถ้าตาไม่ได้หนวกก็ขับดีๆ สิคะ รถพี่มันเบียดรถเพื่อนแก้วจนจะตกถนนอยู่แล้ว รถแรงก็แซงไปสักทีสิ” แก้วบ่นแสบอย่างหงุดหงิด เขาทำให้รถเพื่อนเธอส่ายไปมา จะตกข้างทางอยู่ร่อมร่อ
บรึ้น ๆๆ บรึ้นๆๆๆ บรึ้นนนนนนนนนน
แสบเบิ้นรถใส่อย่างกวนๆ ก่อนจะขับแซงรถเวฟไอของจ๋าไปอย่างเร็ว
“ใครวะแก้วหน้าคุ้นๆ” จ๋าคุ้นหน้าแสบจากที่ไหนกันนะ
“คนที่แก้วไม่เคยชนะนั่นแหละ เห็นแล้วหงุดหงิด แวะโลตัสนะ” แก้วบอกก่อนจะชวนจ๋าแวะโลตัส ทันทีที่พวกเธอขับมาถึงตัวเมือง
“แล้วสรุปคนนั้นเป็นใครอะ โคตรหล่อเลย แถวบ้านเราทำไมไม่มีแบบนี้วะ” จ๋ายังอาลัยอาวรณ์เรื่องแสบ
“ชื่อแสบ ฉายาแสบไร้พ่าย ผู้ไม่เคยยอมใครยกเว้นเมีย แต่แม่งไม่เห็นมีแฟนสักคน สกิวปากเยอะชิบหาย มีคนเอาก็แปลกละ” แก้วบ่น พลางนั่งลงที่เก้าอี้ในฟูดคอร์ดของโลตัส
“เหรอ ถ้าโสดทำไมแก้วไม่ลองจีบดูละ เผื่อพี่เขายอมให้ จะได้ชนะพี่เขาบ้างไง” จ๋าแนะนำเพื่อนอย่างอารมณ์ดี เธอไม่ได้สนใจแสบเท่าไหร่นัก ก็แค่เห็นว่าหล่อ แต่ให้จีบจ๋าก็คงไม่เอา เพราะเท่าที่ฟังแก้วเล่า สกิวปากคงเด็ดจริงๆ
“ห่ะ บ้าใครจะไปอยากได้คนแบบนั้นเป็นแฟน” แก้วเสมองไปทางอื่น ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างที่พูดจริงรึเปล่า
“แน่ใจ ทำไมถึงหน้าแดงห่ะ” จ๋าจับหน้าแก้วให้หันมาทางตัวเองก่อนยิ้มล้อเลียน
“พี่เขาไม่ชอบแก้วหรอก” แก้วบอกเสียงเบา เจอกันทีไรมีแต่โดนพี่แสบจิกกัด ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่าเมื่อก่อนพี่เขาเกิดเป็นหมาหรือไก่ ทำไมเก่งเรื่องจิดกัดขนาดนี้
“ลองดูไหม ไม่เสียหายนี่” จ๋ายกยิ้มอย่างชั่วร้าย เพื่อนเธอไม่เคยมีแฟนมาตลอดชีวิต มันเป็นโอกาศอันดี ที่เพื่อนเธอจะมีแฟน จะได้คุยเรื่องอื่นๆ ได้บ้าง ไม่ใช่คุยกันแต่เรื่องเรียน
“แก้วจะทำยังไงละ จีบใครไม่เป็นอะ แฟนก็ไม่เคยมี” แก้วบอกออกไปตรงๆ เธอจีบใครไม่เป็น
“ไม่ได้บอกให้จีบ บอกให้ยั่ว ยั่วเอามาเป็นแฟนเลย” จ๋าบอกวิธีที่เร็วที่สุด
“เห้ย มันไม่ดูแรดไปเหรอจ๋า” แก้วถามเพื่อนเสียงดังจนคนหันมามอง ยกเว้นผู้ชายที่ใส่หมวกนั่งหันหลังอยู่ใกล้ๆ พวกเธอ
“ไม่แรดหรอก ก็แค่อ่อย ไม่อร่อยค่อยเลิก” จ๋าพูดอย่างแก่แดด ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่มีแฟนเหมือนกัน
“ยัยบ้า ฉันไม่ได้อยากจะกินเขาเหอะ” แก้วหน้าแดงกับคำพูดแก่แดดของเพื่อน
“ตามนั้นนะ ก่อนอื่นเปลี่ยนชุดเหอะ ไปแบบนี้นอกจากจะไม่ได้ยั่วใคร อาจจะไม่ได้เข้างานด้วยซ้ำ” จ๋าพูดจบก็เดินมาลากแก้วไปด้วย
โดยมีผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ หัวเราะเบาๆ ทันทีที่พวกเธอเดินจากไป เขาได้ยินเด็กสองคนนี้พูดทุกอย่าง ผู้ชายคนนั้นหยิบถุงพลาสติกที่มียานวดแก้บวมไปทันที ไม่สนใจข้าวที่กินได้แค่นิดเดียวเลยสักนิด
“ใส่ชุดนี้ได้เหรอจ๋า เราเพิ่ง17 นะ”
แก้วดึงชุดที่จ๋าซื้อให้ลงอยาางเขินอาย ปกติใส่แต่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวมาทั้งชีวิต มาใส่แบบนี้มันโล่งยังไงก็ไม่รู้
