25
“ไม่ต้องเขินหรอกน่าอาจารย์ขา.....เริ่มจะชอบเค้าแล้วก็บอกมาเหอะ คนกันเองแท้ ๆ” หญิงสาวยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียนจนได้มะเหงกกลับมาเป็นสิ่งตอบแทน
“เย็นนี้คุณขับรถผมไปรอที่ผับของปพนหรือว่าจะกลับคอนโดก่อนก็ได้นะ ผมคงจะกลับดึก” ชายหนุ่มบอกเป็นงานเป็นการ
“เกรซไปรอที่ผับดีกว่าค่ะ แต่ว่าไปกับยัยครีมก็ได้ คุณกลับดึกจะได้มีรถใช้” หญิงสาวเลื่อนกุญแจรถที่เขาเอามาให้คืนไป
“งั้นก็ตามใจ แล้วก็รออยู่ที่นั่นนะเดี๋ยวผมไปรับ” กำชับราวกับเกรงว่าหล่อนจะเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวอีก
“เป็นห่วงหรือคะ” หญิงสาวยื่นหน้าไปถามพลางยิ้มแก้มแทบฉีก
“เก็บของแล้วไปได้แล้ว ผมมีงานต้องทำต่อ” ปองภพไม่ตอบแต่กลับรีบไล่หล่อนไปให้พ้นหน้า...ช่างยั่วดีนัก ถ้าไม่เกรงใจสถานที่จะจับมาจูบให้เข็ด
“เจ้าค่ะ นายท่าน” หญิงสาวยิ้มยั่วอย่างอารมณ์ดีที่ได้เต๊าะสามีตัวเอง....ไม่รักไม่หลงก็ให้มันรู้ไป…เชอะ...
เกรซเดินมาหาเพื่อนสาวที่ตอนนี้นั่งคุยอยู่กับผู้ชายท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเขาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนในเขตภาคเหนือยังหนุ่มยังแน่นแต่ชอบแต่งกายให้ดูอาวุโส คงจะด้วยหน้าที่การงานกระมัง.....
“ยัยครีมทำไมไม่ไปกินข้าวด้วยกัน ฉันอุตส่าห์สั่งเผื่อ”
“ตามสบายเถอะ ฉันไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร”
“เอ่อ...ไม่ต้องเป็นห่วงคุณครีมหรอกครับ ผมก็ไม่มีเพื่อนทานข้าวเหมือนกันเราเลยเข้ากันได้พอดี” ผู้อำนวยการหนุ่มที่ดูหงิม ๆ แต่พอพูดออกมาก็ร้ายไม่เบา
“เข้ากันได้ดีเลยเหรอคะ” สาวครีมหันไปถามผู้ชายข้าง ๆ ด้วยความงุนงงเพิ่งจะคุยกันวันนี้เอง ตาทึ่มนี่ร้ายไม่เบาชักจะวางใจไม่ได้ซะแล้ว
“ก็เรานั่งทานข้าวด้วยกันแล้วก็ยังคุยถูกคอกันอีก ก็แสดงว่าเราเข้ากันได้ดีไม่ใช่หรือครับ” คุณหมอหนุ่มดันแว่นขึ้นนิดหนึ่งด้วยความขัดเขิน ผิวขาว ๆ ของเขาแดงเถือกไปหมด ในขณะที่ยัยครีมก็ออกอาการมือไม้เกะกะหาที่วางไม่ได้เหมือนกัน
เกรซอมยิ้มส่งสายตาล้อเลียนไปให้เพื่อนสาว สงสัยจะได้ลงจากคานตาม ๆ กันไปก็คราวนี้แหละ
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ไปได้แล้ว” ครีมลุกขึ้นดึงมือเพื่อนสาวออกไปโดยไม่หันมาชวนหมอเก่งที่นั่งใบหน้าเปื้อนยิ้มเลยสักนิด
“หมอเก่งตามมานะคะ เพื่อนเกรซกำลังเขินน่ะค่ะ เลยเสียมารยาท” หญิงสาวพูดออกไปก็โดนเพื่อนสาวตีแขนดังเพี๊ยะ
“อะไรของแกยัยครีม ฉันอุตส่าห์พูดให้แกดูดีนะ...เกิดหมอเก่งเขารับมารยาทแย่ ๆ ของแกไม่ได้....เขาไม่จอดป้ายนี้ ถึงกับตกรถเลยนะแก...รถด่วนขบวนสุดท้ายอ่ะ เคยได้ยินป่ะ...” หญิงสาวใช้ไหล่กระแซะตั้งใจล้อเลียน...เอาให้หนัก นาน ๆ จะมีหนุ่มใจถึงผ่านเข้ามาเลยตั้งใจจะช่วยบิ้วท์ให้เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาให้ได้
“แหมพอแต่งงานแล้ว ทำมาคุยทับกันนะยัยเกรซ” สาวครีมขึงตาใส่
“เปล่า...ฉันก็อยากให้แกเจอคนดี ๆ ซักคนก็แค่นั้น ด้วยหินปูนเกาะไม่รู้ด้วยนะ”
“ว่าแต่ฉันแหละ...แล้วแกล่ะ อาจารย์ปองภพขูดหินปูนให้เป็นไงมั่ง...เสียวมะ”
“ไอ้บ้าครีม...ทะลึ่ง”
“ทะลึ่งที่ไหนเล่า ตอนไปขูดหินปูนกับหมอฟันบางทีก็เสียวนะแกว่าป่ะ” ครีมยังล้อไม่เลิก
“ฮึ....ฉันรู้ว่าแกไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น”
“เออ ๆ .....ว่าแต่แกแน่ใจได้ยังไงว่าหมอเก่งเป็นคนดี” ครีมขึ้นเสียงถามเพื่อน ลืมไปเลยว่าคนที่พูดถึงเดินตามหลังมาติด ๆ เผลอพูดอะไรกันแบบไม่รักษาภาพพจน์เลยสักนิด
“ลองพิสูจน์สิครับคุณครีม...ยังไม่ต้องรีบตัดสินผมก็ได้” เสียงสอดแทรกดังมาจากข้างหลังใกล้ ๆ นี่เอง
“อ๊ะ...คุ..คุณหมอ...เอ่อ...” ครีมพูดไม่ออกเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ส่วนหมอเก่งก็ได้แต่ส่งยิ้มให้จนตาหยีเพราะมีอยู่ชั้นเดียว....ใคร ๆ ก็ว่าเขาตาคมกริบเหมือนแม่
สาวครีมเขินจัดรีบเดินนำหน้าหนีไปคนเดียวเลย กลายเป็นเกรซที่เดินหัวร่อต่อกระซิกกับหมอเก่งทั้งทีไม่สนิทกัน แต่พอรู้ว่าเขาจีบเพื่อนตัวเองก็เลยรู้สึกสนิทสนมขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
“เอ่อ...คุณเกรซครับ ดูเหมือนอาจารย์ปองภพจะยืนมองเราอยู่นะครับ” หมอเก่งเหลือบไปเห็นสายตาของอีกฝ่ายก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ชอบกล...
“ผมนึกว่าคุณเข้าห้องไปแล้วซะอีก” ด็อกเตอร์หนุ่มเอ่ยถามภรรยาเสียงเรียบ ทำให้หล่อนต้องหยุดเดิน ในขณะที่หมอเก่งโกยอ้าวไปก่อนแล้ว...
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ความรู้สึกเหมือนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกพบ...ไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ทำไมต้องตีหน้ายักษ์ด้วยนะ
“ไม่มี”
“อ๊าว !...อ๋อ.....แค่อยากทักเมีย” หญิงสาวยิ้มแฉ่ง
“เพื่อนเล่นหรือไง ไปได้แล้ว”
“เฮ้อ....อารมณ์แปรปรวนจริงพ่อคุณ” หญิงสาวพูดไม่ออกเสียงเดินเลี่ยงไปเพราะช่วงบ่ายหล่อนต้องเรียนกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง...รอดตัวไป...รู้สึกว่าตัวเองจะกลายร่างเป็นกระโถนไปแล้วหรือไงเนี่ย โกรธอะไรก็มาลงที่เมีย....ชิ !...
