บทที่ 2. ต่อ
“เชิญนั่งครับ” สิงหาผายมือให้ผู้สูงวัยกว่าแต่คุณโฉมกับเชิดหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่พอใจ...
“นี่มันดึกแล้วนะสิงห์ น้าต้องการพักผ่อน”
“ถ้าอย่างนั้นบอกผมมาว่าเมฆอยู่ที่ไหน..” สิงหาพูดเสียงเย็นทำให้คุณโฉมอ้ำอึ้งไป
“เอ่อ.. นะ น้า ไม่รู้”
“ผมจะให้เวลาน้าสามวัน เพื่อให้น้าพาเมฆากลับมาที่ไร่ หากเกินสามวันไปแล้วผมจะถือว่าเขาเป็นคนอื่น เชิญคุณน้าไปพักผ่อนได้” สิงหาพลางผายมือไปที่ประตูอย่างไม่สนใจท่าทางตาลีตาเหลือกของคุณโฉม
“คุณสิงห์จะทำแบบนี้กับน้าไม่ได้นะ ยังไงเมฆก็เป็นน้องมีสิทธิ์ในมรดกของคุณสิงหล”
“ผมก็ไม่ได้ว่าเขาจะไม่ได้นี่ครับ ทำไมคุณน้าต้องทำท่าตกใจด้วย”
“กะ ก็ เอ่อ.. น้ากลัวว่าสิงห์จะโกรธตาเมฆจนตัดพี่ตัดน้อง น้าก็เป็นห่วงเพราะยังไงเสียก็พี่น้องกัน”
“ผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลย แต่คุณน้าไม่ต้องห่วงหรอกว่านายเมฆมันจะไม่ได้อะไร เว้นเสียแต่มันจะไม่คิดจะเอาหรือไม่ใส่ใจจะเอา บางสิ่งบางอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่จะให้กันได้ง่ายๆ หรอกนะครับ”
“แต่ตาเมฆก็มีสิทธิ์นะ..” คุณโฉมยังแย้งอยู่เรื่องเดิม สิงหาเวทนาหญิงตรงหน้ายิ่งนัก ในใจนั้นไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่เรียกได้ว่ามีสายเลือดเดียวกันใช้นามสกุลเดียวกันกับมารดาของเขา...
“เรื่องนั้นเราคงต้องดูกันต่อไปว่าเมฆามีสิทธิ์จริงหรือไม่ เพราะอะไรนั้นผมว่าคุณน้าน่าจะรู้ดี เอาล่ะครับผมหมดธุระที่จะคุยกับคุณน้าแล้ว เชิญไปพักผ่อนเถอะครับ..” คุณโฉมพูดไม่ออกแต่สิงหาก็เดาได้ว่านางคงไม่พอใจแต่เขาไม่คิดจะใส่ใจอยู่แล้ว เมื่อร่างระหงสมส่วนของคุณโฉมออกไปชายหนุ่มก็ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าหล่อเหลาเครียดเคร่งไม่สร่างซา...
ในขณะเดียวกันคุณโฉมที่กลับมาถึงห้องของตนก็พลุ่งพล่านด้วยความโกรธแค้น ร่างระหงเดินไปยังรูปถ่ายของชายอันเป็นที่รักที่ตั้งอยู่บนโต๊ะวางของใช้ส่วนตัวของตน ใบหน้าสวยไม่สร่างแดงก่ำดวงตาวับวาวด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“คุณพี่ไม่เคยยุติธรรม ไม่เคยเห็นน้องในสายตาเลยใช่ไหมคะ” ขนาดตายไปอะไรสักอย่างก็ไม่ได้ให้ไว้ แม้แต่กับลูกคุณพี่ก็ไม่เคยสนใจ ในสายตาในหัวใจคุณพี่มีแค่นังหัตยากับสิงหาเท่านั้น นังหัตยามันตายไปคุณพี่ก็ยังรักห่วงหามัน แต่กับน้องแม้อยู่ตรงหน้าคุณพี่ก็ไม่เคยมอง ทำไม ทำไมคุณพี่ถึงทำกับน้องแบบนี้ ทำไม...” เรียวปากของคุณโฉมสั่นระริกดวงตารื้นด้วยหยาดน้ำตา แต่มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าเสียใจเพราะมันคือน้ำตาแห่งความคับแค้นใจต่างหาก...
“ไม่ว่าจะยังไง น้องก็จะไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ น้องจะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการทุกๆ อย่าง... หวงนักใช่ไหมสมบัติน่ะ ดีล่ะ น้องจะเอามาเป็นของน้องทุกอย่างเลย.. ไอ้สิงหามันจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว...” คุณโฉมเชิดหน้าขึ้นมองรูปชายผู้เคยเป็นที่รักด้วยความชิงชัง และชิงชังไปถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาด้วย...
สิงหาเดินมาหยุดข้างเตียงจ้องมองคนที่หลับสนิทอย่างพิจารณา หญิงสาวตรงหน้าเหมือนไร้พิษสง ใบหน้านวลใสที่ไร้เครื่องสำอางแล้วดูอ่อนเยาว์ ป้านง แม่บ้านของเขาบอกว่าเธอมีไข้เล็กน้อย ตอนนี้ก็เช็ดตัวให้เธอและให้กินยาลดไข้ไปแล้วลลนาจึงหลับสนิท
“ตื่นขึ้นมาก่อนเถอะฉันจะจัดการกับเธอ..” สิงหาพูดเบาๆ แล้วต้องรีบถอนสายตาออกจากร่างอวบอิ่มตรงหน้าที่ขยับกายเบาๆ เสื้อคอกระเช้าของป้านงที่เธอสวมใส่อยู่ก็รั้งต่ำลงเพราะเสื้อตัวใหญ่กว่ารูปร่างของเธอทำให้ทรวงสาวอวบใหญ่แทบทะลักออกมานอกคอเสื้อ...
“บัดซบ...” ชายหนุ่มสบถกับตัวเองแล้วเดินกลับห้องของตนไปอย่างฉุนเฉียว และกว่าจะหลับลงได้เขาก็เช้าพอดี...
ในยามเช้าอันแสนสดใสของใครหลายๆ คน แต่สำหรับลลนาเธอกลับรู้สึกว่าเช้านี้เธอรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด แม้อาการปวดร้าวไปทั้งศีรษะจะลดลงแต่เธอก็ยังรู้สึกว่าตัวรุมๆ ทั้งเหนียวตัว ทั้งหิวและอ่อนเพลีย...
“รู้สึกตัวแล้วหรือคะคุณ”
เสียงใคร... ลลนาขมวดคิ้วยังลืมตาไม่ขึ้นทั้งแสงจ้าจากภายนอกทำให้เธอต้องหลับตาแน่นก่อนจะค่อยๆ พยายามลืมขึ้นใหม่ช้าๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ...” หญิงวัยกลางคนใบหน้าอวบอูมขาวผ่องรอยยิ้มสดใสดวงตาของนางดูเป็นมิตรและเปี่ยมด้วยความเอื้ออารี...
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ป้า เป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหนคะ...” ลลนาค่อยๆ ลุกขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากหญิงคนนี้
“ที่นี่คือไร่สิงหาค่ะ ป้าชื่อป้านงนะคะ คุณลดาวัลย์ไข้สูงมากเมื่อคืนป้าเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้และให้คุณกินยาเมื่อคืนนี้ จำได้ไหมคะ” เมื่อเห็นหญิงสาวก้มลงสำรวจตัวเองแล้วทำหน้าตื่นๆ ป้านงจึงรีบอธิบาย
“อ้อ.. เอ่อ.. คือ เดี๋ยวนะคะ นุ่มของทบทวนก่อน...” ลลนาหลับตาลงนวดขมับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองป้านง
“จำได้แล้วค่ะ ขอบคุณป้ามากนะคะที่มีน้ำใจกับนุ่ม” ลลนาพอจำได้ลางๆ ว่าหลังจากที่เธอรู้สึกตัวตอนที่มาถึงที่นี่ เธอรู้สึกปวดหัวมากทั้งยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เธอไม่รู้ว่ามาอยู่ในห้องได้อย่างไรและมาตอนไหนเพราะความทรงจำสุดท้ายของเธอคืออยู่กับชายหนุ่มหน้าเข้มดุดันในรถ...
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่คุณหิวมั้ยคะ ป้าเอาข้าวต้มมาให้ ทานหน่อยนะคะจะได้ทานยา”
“เอ่อ ป้าคะ แล้ว เอ่อ ผู้ชายคนนั้น ที่หน้าดุๆ ท่าทางหยาบกระด้างเหมือนโจรน่ะค่ะ เขาเป็นใครคะ แล้วเขาพานุ่มมาที่นี่ทำไม”
“อุ๊ย คุณคะ ผู้ชายที่คุณว่านั่นน่ะเป็นเจ้าของที่นี่ค่ะ คุณสิงหาเธอเป็นเจ้าของไร่และเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กสุดๆ เลยนะคะ สาวๆ งี้รุมทึ้งเชียวค่ะ” ป้านงหัวเราะกับคำบรรยายลักษณะเจ้านายหนุ่มของตน นึกแปลกใจที่หญิงสาวตรงหน้าเห็นต่างจากหญิงสาวคนอื่นๆ แต่เมื่อนางนึกถึงใบหน้าที่รกด้วยหนวดเคราของสิงหาเพราะสามสี่วันมานี้เขามีงานยุ่งๆ หลายอย่างป้านงก็พอจะเข้าใจ...
“ตานั่นน่ะหรือคะ สาวตอมหึ่ง”
“ตอมหึ่งน่ะมันไม่ได้ใช้กับคนนะ..” เสียงเข้มๆ ของชายหนุ่มที่อยู่ในหัวข้อสนทนา ลลนาถือช้อนค้างทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอค่อนแคะว่าเหมือนโจร...
