บทที่ 2 : หนูสี่ใจดี
พอมีผู้ชายตัวใหญ่มาอยู่ในห้อง หนูสี่ก็เห็นทันทีว่าห้องตัวเองทั้งเล็กทั้งแคบอย่างเพื่อนบอกนั่นแหละ มิน่าล่ะ เพื่อนถึงอยากให้ย้ายไปเช่าคอนโดอยู่ เธอเห็นว่ามันไม่มีความจำเป็นจะอยู่ห้องเช่าเล็กๆ หรือคอนโดก็ไม่ต่างกัน เพราะเธออยู่คนเดียว สู้เอาเงินที่ไปเช่าคอนโดเก็บส่งให้ป้าตัวเองใช้หนี้ธนาคารที่กู้ยืมมาส่งเธอเรียนดีกว่า
“น้ำค่ะ”
เธอถือแก้วน้ำมาให้เขา แม้จะไม่อยากให้ก็ตาม แต่ก็พามาห้องแล้วต้องต้อนรับอย่างดี
“ขอบคุณ ว่าแต่เธอชื่ออะไร? อายุเท่าไหร่?” ที่ถามอายุเพราะคนตรงหน้าตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขาที่สูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร
“หนูสี่ จบมหา’ลัยแล้ว”
“สี่”
“หนูสี่ไม่ใช่สี่ค่ะ”
“อือ...เข้าใจแล้ว แปลกดี ชื่อจริงล่ะ”
“หนูสี่”
“ฉันแดนนะ ชื่อจริงก็แดน” พอรู้จักชื่อคนที่ช่วยตัวเองแล้วก็แนะนำตัวเองบ้าง
“ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ เพราะฉันจะให้คุณอยู่ห้องฉันแค่คืนนี้เท่านั้น”
“แต่ยังไงก็รู้จักกันแล้ว ควรแนะนำตัวว่าไหม ตอนนี้ช่วยอีกอย่างได้ไหม ฉันต้องการอุปกรณ์ทำแผล” เขาจะเอากระสุนปืนที่ฝั่งตรงไหล่ซ้ายด้านหน้าตัวเองออกเอง
“ที่ห้องไม่มี”
“ไปซื้อสิ” เขาบอกหญิงสาว
“ฉัน…”
“ไปซื้อให้ฉัน”
“เอาอะไรมั่ง”
“เดี๋ยวเขียนให้ เอาปากกากับกระดาษมาให้ฉัน”
แล้วหนูสี่ก็เดินไปหยิบปากกากับสมุดโน้ตให้กับแดนเขียนสิ่งที่อยากได้
“แค่นี้ใช่ไหม?”
“เงินล่ะ?”
“ออกก่อน กระเป๋าเงินฉันหาย เดี๋ยวฉันคืนให้สิบเท่า”
“ไม่มีเงินก็บอกสิ” เธอพึมพำตอบแล้วพูดต่อ “ห้ามเดินเพ่นพ่าน เข้าใจไหม”
“ห้องเล็กเท่ารูหนู แค่นั่งอยู่ตรงนี้ก็มองทั่วแล้ว”
“ถ้าดูถูกห้องฉันก็เชิญออกไปจากห้องฉัน”
“ก็ห้องเธอเล็กแคบจริงๆ นี่ ไปได้แล้ว ฉันปวดแผลจะตายแล้ว”
“อย่ามาตายในห้องฉันนะ ฉันกลัวความผิด”
“ก็รีบไปซื้อของที่บอกซะทีสิ พูดมาก น่ารำคาญ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนยืนสบตาและแถมต่อปากต่อคำกับตนแบบนี้มาก่อน เพราะผู้หญิงที่เจอ พวกหล่อนจะมองแต่เป้าของเขาเท่านั้น แถมพูดน้อย เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงพูดมากแบบหนูสี่ตรงหน้า
“คุณก็ตัวรกห้อง” กลัวเขานะ แต่ก็พลั้งปากพูดตอบสวนกลับด้วยความเดือดดาล ช่วยมาแล้วยังมาว่าเธออีก แถมมาดูถูกห้องเธออีก มันน่านัก
หึหึ
แดนแค่แค่นขำในคอเมื่อได้ยินสาวน้อยตอบกลับตนเองแล้วก็มองดูเธอเดินออกจากห้องไป ส่วนเขาก็ทำตรงข้ามกับสาวน้อยสั่งว่าห้ามเดินเพ่นพ่านในห้อง เขาจึงเดินดูทุกซอกทุกมุมของห้องเล็กๆ ของหนูสี่ จนมาหยุดที่รูปรับปริญญาของหญิงสาวที่ถ่ายคู่กับหญิงแก่คนหนึ่งที่หน้าตาไม่คล้ายกันสักนิด แล้วก็เดินกลับไปนั่งลงที่เดิม เพื่อรอหญิงสาวกลับมา
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งและนี่ก็สี่ทุ่มจะห้าทุ่มแล้ว หนูสี่กลับมาพร้อมของที่เขาสั่ง เธอเดินนำของที่ถือมาส่งให้เขาแล้วก็เดินไปนั่งอยู่บนเตียง เพราะโซฟาคนตัวใหญ่ถูกยึดไปแล้ว
“ขอบใจ” แล้วแดนก็ถอดเสื้อเชิ้ตสีดำที่ตนใส่อยู่ออก
ว้าย!
มือน้อยยกปิดตาเมื่อเห็นเขาถอดเสื้อ
“ถ้าไม่อยากมองก็ไปหลบในห้องน้ำไป” แดนสั่งแล้วเธอก็รีบลุกเดินไปหลบในห้องน้ำ
พอเธอไปแล้ว เขาก็หยิบมีดผ่าตัดที่สั่งหญิงสาวไปซื้อมาให้ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนจะกรีดที่ปากแผลนำกระสุนที่ฝังบนไหล่ซ้ายด้านหน้าตัวเองออก
อ๊าก!
เสียงร้องเจ็บปวดทรมานของเขาทำให้คนอยากรู้อยากเห็นแอบยื่นหน้าออกมาส่องไม่ได้และก็ได้เห็นทุกอย่าง
พอกรีดปากแผลงัดกระสุนสีเงินออกมาได้ก็โยนมันทิ้งลงพื้นแล้วราดแอลกอฮอล์ลงปากแผล รู้ว่าจะแสบทรมาน แต่เขาก็กัดฟันแน่น แล้วก็เย็บปากแผลเองอย่างหยาบๆ ไม่นานการทำแผลก็เสร็จเรียบร้อยและก็กินยาแก้อักเสบ แก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ
“คุณไม่กลัวติดเชื้อตายรึไง ทำแผลเอง เย็บเองแบบนี้” หนูสี่เห็นทุกอย่างเดินออกมาถามเขาที่นั่งเอนพิงพนักโซฟาด้วยท่อนบนที่เปลือยเปล่า
“ถ้าจะตายแค่นี้ก็ให้ฉันตายไปเถอะ”
“ตายที่ไหนก็ได้ แต่จะมาตายที่ห้องฉันไม่ได้”
“หึหึ...ไม่ตายหรอกน่า ฉันขอนอนพักหน่อยนะ” แล้วเขาก็หลับตา
หนูสี่เห็นเขาเงียบไปและหลับตาก็ไม่อยากคุยอีก เธอจึงเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วไปอาบน้ำเพื่อจะพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เช้ายังต้องออกไปทำงานเหมือนทุกวัน
