ตอนที่ 8 โทษฐานที่รักนาย
เมริสาไม่สบายหลังจากตากฝนกับดิฐา หญิงสาวนอนซมไม่มีแรงได้แต่นอนทั้งวันกว่าอาการจะฟื้นตัวก็เกือบสี่วัน พออาการดีขึ้นก็ลุยงานโปรเจคใหม่ เมริสาตั้งใจตัดการติดต่อหรือพบเจอดิฐาทุกช่องทางเพื่อทดสอบใจตัวเองว่าอยากได้เขาจริงหรือแค่สนุกเท่านั้น
ณ โรงพยาบาลเอกชน
ดิฐายื่นซองค่าจ้างประจำเดือนให้ป้ามนที่มาเฝ้าไข้แม่ดา เขาต้องทำงานหาเงินมาเยี่ยมแม่แค่วันละไม่กี่ชั่วโมงก็กลับเลยจ้างคนมาช่วยดูแลทั้งวันทั้งคืน แม่ดานอนอ่อนเพลียหลังจากทำคีโม ปากแห้งซีดเผือดตื่นมามองรอบห้องเห็นลูกชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอด
“รอใครโทรมาเหรอลูก หยิบโทรศัพท์ดูตลอดเลย”
“รอสายสำคัญครับ ........ แต่เขาคงไม่โทรมา”ดิฐารีบลุกมาปรับเตียงให้แม่นั่งแล้วเทน้ำใส่แก้วเสียบหลอดให้แม่ดูดน้ำ
“มีแฟนเหรอ พามาให้แม่รู้จักหน่อยสิ”แม่จิบน้ำเล็กน้อยเงยมองหน้าลูกที่ดูเศร้า
“ยังไม่มีแม่ แค่คุยกันเฉย ๆ”เขาเผลอหน้างอยังทำใจไม่ได้ที่เธอหายไป
“อยากเล่าอะไรให้แม่ฟังไหม”แม่สีหน้าอ่อนล้าแต่เป็นห่วงอยากคุยให้ลูกระบายเรื่องที่ไม่สบายใจ
“ไม่มีครับแม่........พรุ่งนี้ฐาจะไปเยี่ยมพ่อนะ”
“ปีนี้ครบสิบปีแล้วไวจัง แม่ยังไม่ได้ตามไปหาพ่อเลย”แม่ดายิ้มอ่อนเอ่ยเสียงเศร้า
“อย่าพึ่งไปนะแม่ อยู่กับฐาก่อน”เขาโผกอดแม่ซุกหน้าลงออดอ้อนไม่อยากให้แม่จากไป
“ยังไม่ไปหรอกลูก แม่จะสู้เพื่อฐา แม่รักพ่อมากก็จริงแต่รักฐามากกว่า แม่จะปล่อยให้ฐาโดดเดี่ยวได้ยังไง.....”แม่โอบกอดลูกรักลูบหลังเบา ๆ ทั้งที่หมดห่วงรู้ว่าลูกสามารถดูแลตัวเองได้ทว่าลูกชายอยากยื้อชีวิตแม่ไว้ให้อยู่ด้วย แม่เลยเข้มแข็งต่อสู้กับโรคร้ายเพื่อลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอ ดิฐาโอบกอดแม่แน่นขึ้นน้ำตาคลอเขาเสียพ่อที่รักไปแล้วไม่อยากเสียแม่ที่รักไปอีกคน เขาพยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อมารักษาให้มีชีวิตอยู่กับเขาต่อไปนาน ๆ
ณ ร้านอาหารหรู
ดิฐายืนผสมเครื่องดื่มที่บาร์ คอยมองสอดส่องมองลูกค้าในร้านที่พลุกพล่านเพื่อมองหาเมริสา สายตาคมสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างคล้ายเมริสาเขาชะเง้อมองตามใจเต้นลุ้นให้เป็นเธอ ร่างบางเดินไปเข้าห้องน้ำดิฐารีบวางมือแล้วส่งให้เพื่อนรับช่วงต่อ ร่างแกร่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไปให้ทันเป้าหมาย
“ริสา”เขาเรียกเมื่อใกล้ถึงตัวมือหนาเอื้อมจะจับแขนเธอแต่ต้องชะงักเมื่อหญิงสาวที่หันมาไม่ใช่เมริสา
“ฐา ตามมินนี่มาเหรอคะ”มินนี่ยืนบิดตัวยิ้มเขินบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อที่หมายปองตามมาหาเธอ
“ขอโทษครับ ผมจำคนผิด”เขาหน้าเจื่อน ถอยหลังเดินกลับเอื่อย ๆ อ่อนแรงคิดถึงอยากเจอเธอที่เป็นความสดใสทำให้จิตใจแห้งเหี่ยวได้งอกงามอีกครั้งแต่วันนี้ไม่มีอีกแล้ว เขาเป็นคนทำให้เธอออกจากไปจากชีวิตของเขาเอง….
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
ณ คฤหาสหรู
เมริสาเข้ามาเยี่ยมเจ้าสัวที่ห้องนอนเพื่อคุยเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจอยู่ในตอนนี้
“เขาชอบเพราะแกรวย ถ้ามีแต่ตัวเขาคงไม่เอาคนนิสัยแข็งกระด้างอย่างแก”เจ้าสัวเอนกายพิงหัวเตียงกอดอกมองหลานสาวตัวดี
“เขาไม่ได้ชอบหนู หนูรักเขาข้างเดียว”เมริสาเสียงอ่อนหน้าหงอย
“อ้าว ว่าแล้วเชียวผู้ชายที่ไหนจะไปชอบคนอย่างแก.........”
“หนูอยากได้เขา หนูจะทำยังไงดีคะ”เธอถามกลับอยากได้คำปรึกษาหลายวันมานี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงถึงจะได้ผู้ชายมาครอง เจ้าสัวส่ายหน้า
“เป็นเอามากนะริสา แกชอบเขาจริง ๆ เหรอ”
“ชอบล้านเปอร์เซ็นต์ อดใจไม่เจอหลายวันหนูยังคิดถึงจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”หน้าสวยง้ำงอปากยื่นคิดถึงผู้ชาย
“ถ้าอยากได้มากก็ลองจนแล้วกัน ถ้าเขาไม่ชอบที่แกรวย แกก็ต้องจน”เจ้าสัวพูดลอย ๆ
“ลองจน?”หน้าสวยครุ่นคิดก่อนจะยิ้มกว้างหอมแก้มเจ้าสัวซ้ายขวา แล้วรีบเดินกลับห้องไปอย่างสบายใจ เจ้าสัวหลุดขำหลานสาวตัวแสบ
“คุณพี่อนุญาตให้ริสามีสามีจนเหรอคะ”คุณยายรัศมียื่นแก้วยาให้คุณตา
“เธอจำได้ไหมว่าเห็นริสายิ้มสดใสครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“ก่อนที่ลูก ๆ ของท่านเสียค่ะ”รัศมีนึกถึงเมื่อก่อนที่เมริสาสดใสน่ารักพอหลังจากพ่อแม่จากไปรอยยิ้มสดใสนั้นก็หายไปด้วย
“นานมากนะ ผู้ชายคนนั้นทำให้ริสายิ้มได้อีกครั้ง รอยยิ้มนั้นมีค่ามากกว่าเงินทองเป็นไหน ๆ เธอว่าไหม......”เจ้าสัวยิ้มอ่อนสุขใจที่หลานสาวมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าก่อน รัศมียิ้มและพยักหน้าเห็นด้วยกับท่าน
เมริสานอนกลิ้งเกลือกวางแผนเป็นคนจนที่ต้องมีคนช่วยและเหยื่อคนนั้นคือสหภพ เธอเตี้ยมกับทุกคนรวมถึงเจ้าสัวเตรียมแผนอยู่หลายวันก่อนจะเก็บข้าวของเครื่องใช้ใส่กระเป๋าออกเดินทาง
สองวันต่อมา ช่วงเวลาเที่ยง
บริเวณชั้นหนึ่งของคูหาเป็นโต๊ะทานอาหารวงกลม เหล่าพนักงานรวมตัวกันกินข้าวเที่ยง สหภพเดินเข้ามาในคูหาพร้อมกับหญิงสาวแสนสวย พนักงานทุกคนหน้าเหวอเต็มไปด้วยความสงสัย
“ริสาจะมาอยู่ที่นี่ด้วย ตอนนี้ห้องของใครว่างบ้าง”สหภพเอ่ยถามลูกน้องที่ยังนั่งอึน ในคูหาสี่ชั้นแบ่งเป็นห้องพักสองห้องต่อชั้น ส่วนมากจะพักห้องละสองคนยกเว้นมีใครลาออกห้องจะว่างส่วนดิฐาเป็นห้องเล็กที่สุดเลยได้พักคนเดียว ลดาถอนหายใจค่อย ๆ ยกมือขึ้นหน้าเจื่อนไม่อยากอยู่กับมารหัวใจ อรยกมือขึ้นหลังจากคนเก่าออกไปเธอก็พักคนเดียว
“ไปอยู่กับลดาแล้วกันห้องใหญ่ดี”
“ไม่!”สองสาวพูดพร้อมกันจ้องหน้าเอาเป็นเอาตาย สหภพหน้าเหวอไม่ถูกกันจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้ยังไง
“ไปอยู่กับคนนี้ก็ได้”ริสาชี้ไปทางอร
“ก็ได้ ฝากเด็กใหม่ด้วยนะทุกคน”สหภพรีบฝากเด็กใหม่แล้วเดินกลับออกไปเพราะเผลอหลุดทำอะไรให้ลูกน้องจับผิดได้
เมริสาวางกระเป๋านั่งลงตักข้าวใส่จานทานร่วมกับคนอื่น เพื่อน ๆไม่ใช้ช้อนกลางตักอาหารเธอเลยเทซอสโรยข้าวเปล่าแล้วตักทาน
“กินกับข้าวด้วยกันก็ได้นะคะ”อรเลื่อนกับข้าวให้เข้าใกล้เมริสา
“อ่อ ไม่เป็นไร เราลดน้ำหนักอยู่”เมริสายิ้มกลบเกลื่อน
“ตัวเล็กขนาดนี้ยังลดน้ำหนักอีกเหรอ ดูพวกเราดิ ฮ่า ๆๆ”อรก้มดูพุงตัวเองแล้วหัวเราะกันกับเพื่อน ๆ
“เป็นนางฟ้าตกสวรรค์เหรอ ได้ยินเขาลือว่าถูกตัดออกจากกองมรดก น่าสงสารเนอะ.........”ลดายกยิ้มเยาะสะใจ เมริสากระตุกยิ้มเล็กน้อยจ้องตาเขม็ง ก็แน่ล่ะข่าวลือนี้เธอเป็นคนให้สหภพปล่อยข่าว กระจายไวดีเหมือนกันแฮะ
“ที่นี่บลูลี่กันด้วยเหรอคะ”เมริสาหน้าเศร้าทำเสียงอ่อนน่าเห็นใจ
“ไม่ ๆ พวกเราไม่บลูลี่เธอหรอกอย่าคิดมาก”อรแตะบ่าบางให้กำลังใจ เพื่อน ๆ พยักหน้าเห็นด้วย เมริสาหันไปยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตรยกเว้นลดาคู่ปรับของเธอ
หลังทานอาหารเสร็จ
เมริสาเดินตามอรขึ้นมาเก็บข้าวของที่ชั้นสอง ห้องพักคับแคบแทบไม่มีที่เดิน เมริสาต้องปูฟูกนอนบนพื้นซึ่งมันเป็นเรื่องที่เธอทำใจไว้แล้วว่าจะเจอแบบนี้ หญิงสาวพยายามปรับอยู่ที่นี่ให้ได้เพราะอยากได้ผู้ชายต้องทุ่มให้สุดตัว
เมื่อเก็บของเรียบร้อยเมริสาใส่ผ้าขนหนูสวมเสื้อคลุมสีขาว เดินออกไปเข้าห้องน้ำชำระล้างกายก่อนไปเริ่มงานที่ร้านอาหาร อาบน้ำเสร็จเท้าเรียวก้าวเดินจะเข้าห้องมือบางหยิบผ้าขนมาหนูซับหน้าที่เปียกไม่ได้มองทางจนชนเข้ากับร่างแกร่งที่เพิ่งขึ้นบันได
“โอ้ย!”เสียงหวานร้องขึ้นผละมองเห็นดิฐาก็ดีใจ ด้านดิฐานิ่งอึ้งอ้าปากค้างคนที่คิดถึงมายืนอยู่ตรงหน้านี่เป็นเรื่องจริงหรือความฝัน
ร่างหนาโผเข้าโอบกอดรวบหญิงสาวไว้แน่น เมริสายืนยิ้มกำลังคล้องกอดเอวหนาซบหน้าแนบอกแกร่ง สักพักเขาก็ดึงเธอออกเมริสหน้าเซ็งจะกอดนานกว่านี้ก็ไม่ได้
“มาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มเอ่ยถามเขาเพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมแม่เลยไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“มาทำงาน ฉันโดนตัดออกจากกองมรดก โทษฐานที่รักนายไม่มีที่อยู่ไม่มีงานทำเลยมาขอให้ภพช่วย”หน้าสวยหม่นเศร้าเล่าความเท็จน้ำตาคลอตามระเบียบ พยายามบีบน้ำตาให้ไหลลงแก้มเพิ่มความซึ้งน้ำตาดันไม่ยอมไหลลงมา
“บอกท่านสิว่าเราไม่ได้รักกัน ขอร้องท่าน คุณจะได้กลับไปมีชีวิตที่ดีเหมือนเดิม”
“ฉันรวยแล้วจะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่มีนาย ฉันยอมจนแต่มีนายอยู่ข้าง ๆ ดีกว่า”สายตาหวานออดอ้อน เนียนคล้องกอดเอวหนาซบหน้าลงอกแกร่งแล้วยิ้มฟิน
“เราจะอยู่ข้างกันได้ยังไง เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”เสียงทุ้มแผ่วเบาใจจริงก็อยากให้อยู่ด้วยแต่อดสงสารที่เธอต้องลำบากไม่ได้
“ก็เป็นสิ เป็นตอนนี้เลยก็ได้นะ พร้อม.............”หน้าสวยเงยมองกรุ้มกริ่มเบียดหน้าอกอวบเสียดสีร่างแกร่งเขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มเธอพึ่งอาบน้ำเสร็จยังไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ฐานึกได้ก็รีบจับแขนเรียวดึงตัวเธอออกก่อนเรื่องลุกลามห้ามใจไม่อยู่ เมริสาขืนตัวโอบกระชับกอดเอวหนาแน่นขึ้นเบียดหน้าหน้าอกอวบเบียดเสียดอกแกร่ง
“คุณริสา.........”ฐาหน้าเครียดกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เป้ากางเกงแข็งขึ้นไม่ไว้หน้ากันเลย เมริสาหยุดชะงักผละออกห่างแล้วก้มมองเป้ากางเกงเขา ดิฐารีบงอตัวเอามือบังเป้าหน้าตาเหลอหลา หญิงสาวยืนขำยื่นหน้ากระซิบข้างหู
“ฉันพร้อมจริง ๆ นะ (ฟู่)”เสียงหวานแผ่วเบาแกล้งเป่าลมรดหูหนา ดิฐาสะดุ้งถอยหลังหนีหน้าตาตื่น ตั้งแต่โตมามีผู้หญิงมาจีบมากมายแต่ไม่มีใครจู่โจมไม่ทันตั้งตัวเหมือนเธอ เมริสาส่งสายตายั่วยวนเดินย่างกรายเข้าไปใกล้ดิฐารีบเบี่ยงตัววิ่งสวนขึ้นบันไดไปอย่างไว
“โห ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ!”เสียงหวานตะโกนตามแล้วหัวเราะชอบใจที่แกล้งคนตัวโตได้ เล่นตัวเก่งนักไม่อ่อนไหวสักทีต้องโดนจับปล้ำเร็ว ๆ จะได้กลับไปอยู่คฤหาสน์เหมือนเดิมสักที
