ตอนที่ 4 ไม่พร้อมดูแลใคร
กว่าจะเคลียกับลูกค้าฝ่ายชายก็ผ่านไปเป็นชั่วโมง พวกเขาจะเอาเรื่องทางร้านจึงเปิดวงจรปิดเห็นผู้ชายเข้าไปแตะต้องตัวหญิงสาวก่อน เธอเลยต้องป้องกันตัวฝั่งชายเถียงไม่ขึ้นจึงแยกย้ายเพราะหากเมริสาเอาเรื่องก็จะต้องไปเคลียที่โรงพักให้ยุ่งยาก
ดิฐานั่งทายาที่ข้อเท้าเมริสาอย่างเบามือ ริมฝีปากบางยิ้มแก้มปริดีใจที่เขาห่วงใย สหภพขมวดคิ้วสงสัยนั่งมองเพื่อนดูลั้ลลามากกว่าเจ็บ
“ฐา ทิ้งบาร์มานานแล้วลงไปดูหน่อย”สหภพเอ่ยขึ้นเพื่อแยกลูกน้องออกไปจากห้องทำงาน
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”ดิฐาเงยถามหน้าหล่อดูเปล่งประกายราวเทพบุตร เมริสามองตาค้างอย่างหลงใหล
“ยังเจ็บอยู่เลย......”เสียงหวานออดอ้อนแสร้งทำหน้าเจ็บ ดิฐาอมยิ้มขำท่าทางหญิงสาวที่ดูอ่อนแอต่างจากตอนที่จัดการกับพวกผู้ชายกลุ่มนั้น
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าดูเอง”สหภพลุกขึ้นเดินมาใกล้แล้วหรี่ตามองเมริสาที่ตาขวางเบะปากใส่สหภพ ดิฐาลุกขึ้นเดินออกไปทำงานต่อ เมริสามองตามตาละห้อย
“จะอ่อยฐาเหรอ”
“ดูออกด้วย...”คิ้วเรียวเลิกขึ้นเชิงคำถาม
“แน่นอน......ริสาก็เหมือนสาว ๆ ที่นั่งหน้าบาร์น้ำนั่นแหละพวกเธอมาอ่อยฐาแต่ไม่สำเร็จ อีกอย่างเมื่อกี้ริสาสำออยไม่เนียนด้วย”สหภพชี้ให้เพื่อนดูบาร์ด้านล่างผ่านกระจกบานใหญ่ลูกค้าสาวสวยนั่งเรียงจับจ้องไปที่ดิฐาคนเดียว
“งั้นฐาก็รู้ว่าเราสำออยสิ ทำไมเขายังช่วยเราหรือว่าเขาทำดีกับผู้หญิงทุกคน”
“ไม่นะ นอกจากลดาก็ไม่ค่อยดูแลใคร แต่เราขอบอกไว้ก่อนฐาไม่ได้รวย ชีวิตต้องดิ้นรน อย่ามาล่อเล่นกับความรู้สึกฐาเพื่อแก้เบื่อ เราสงสารฐา.....”สหภพไม่อยากให้เพื่อนสาวมาอ่อยดิฐาเล่น หากดิฐาชอบเมริสาจริง ๆก็มีแต่เสียใจเพราะฐานะที่แตกต่าง สายตาเมริสายังจับจ้องมองทุกอริยาบถของเขาไม่วางตา
“ลดาเป็นใคร?”เมริสาเสียงแข็งอยากรู้ว่าลดาที่เขาดูแลเป็นใคร
“ได้ฟังประโยคอื่นที่เราพูดบ้างไหมเนี้ย”สหภพหน้าเหวอเพื่อนแทบไม่ได้ฟังเขาพูด
“ฟังอยู่แต่อยากรู้ว่าลดาเป็นใคร”
“เพื่อนสนิทฐา ทำงานเป็นเด็กเสริฟในร้านนี่แหละ”
“เพื่อนสนิทหรือแฟน?”หน้าสวยหันขวับขุ่นเคือง
“อยากรู้เยอะไปถามเขาเองเลยดีไหมคุณเมริสา........”สหภพลากเสียงยาวประชดประชัน
“คนไหนลดา”สายตาสวยกวาดมองรอบ ๆ ร้านเพ่งมองอย่างเอาเรื่อง
“ถ้าเขาเป็นมากกว่าเพื่อนกัน เธอก็ไปหาเรื่องเขาไม่ได้นะริสา”สหภพเอามือกุมขมับยิ่งพูดห้ามก็เหมือนจะยิ่งเป็นเรื่อง เมริสายืนนิ่งกอดอกมองดิฐาทำงานด้วยสายตาวูบไหวอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมอยากได้ผู้ชายคนนี้นัก ความรู้สึกเหมือนเจอรักแรกพบยังไงอย่างนั้น
“ฉันจะกลับแล้ว”หญิงสาวหันมาหยิบกระเป๋าสะพายเดินเชิดฉายออกไปดื้อ ๆ สหภพมองตามหลังเพื่อนสาวแล้วหันมองดิฐาที่ทำงานวุ่นอยู่หน้าเคาเตอร์
เมริสาเดินลงไปข้างล่างพยายามอ่านป้ายชื่อพนักงานเสริฟเพื่อหาลดา ร่างสูงระหงเดินเกือบถึงหน้าประตูร้านหางตาสวยเห็นดิฐากำลังจะเดินมาทางเธอเลยทำเป็นเดินกะเผลกทันที
“กลับยังไงครับ”ดิฐาเอ่ยถามห่วงใย
“คนรถมารับ นายช่วยประคองหน่อยสิ ฉันเจ็บขา”หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ อ่อนแอ ร่างหนาจึงเข้ามาใกล้สอดแขนแกร่งรวบเอวบางมาแนบชิดค่อย ๆ พยุงเธอออกไปส่ง เมริสายิ้มกรุ้มกริ่มยกแขนเรียวคล้องลำคอหนาแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิมหน้าสวยเงยมองตาหวานเยิ้ม
“นายมีแฟนหรือยัง”
“ไม่มีครับ”
“มีคนกำลังคุยอยู่หรือมีเมียไหม”หญิงสาวถามต่ออยากรู้จะได้ทำใจ
“ผมยังโสด.......โสดสนิท”ใบหน้าคมหันมองแล้วยกยิ้ม เมริสาเคลิ้มตามรอยยิ้มมีเสน่ห์ของเขา
“โสดก็จีบได้สิ”เสียงหวานแผ่วเบาส่งสายตายั่วยวน
“อย่าเลยครับ ผมไม่พร้อมดูแลใครแค่นี้ภาระผมก็เยอะมากแล้ว”เขาพูดตรงตัดเยื้อใยรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรไปยุ่งกับนางฟ้าที่อยู่สูงเกินเอื้อม เมริสาหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“พูดตรงเกิน............แต่ฉันอยากได้นาย”
“คุณก็พูดตรงนะ”ดิฐาขำหญิงสาวแสนสวย เธอมีเสน่ห์น่ารักไม่เหมือนใครดี ทั้งสองต่างยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกดีทั้งคู่................
ผ่านไปหลายอาทิตย์เมริสาออกเที่ยวกลางคืนกลับดึกตื่นเช้าติดต่อกันหลายวันจนร่างกายอ่อนเพลีย
ณ บริษัทอุปโภคบริโภคของเจ้าสัว
ห้องทำงานของเมริสา มีแก้วกาแฟวางเรียงสามแก้วมือบางยันหัว พยายามพยุงหนังตาไม่ให้หลับเผลอสัปหงกไปหลายที
“ไหวไหมน้องสาวติดเที่ยว”เมธาวินเอ่ยแซวน้องสาวที่หน้าจะไหลฟุบโต๊ะทำงานแต่ยังฝืน
“ไม่ได้ไปเที่ยวค่ะ ไปทานอาหารร้านคู่เดทคนล่าสุด”
“สรุปคบกับคู่เดทคนนี้เหรอ รีบแต่งงานเลยนะจะได้มีลูกหลานผู้ชายมาสืบสกุล........พี่จะได้เป็นอิสระสักที”เมธาวินยิ้มกว้างอีกไม่นานก็จะได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองไม่ต้องวางมาดเป็นหลานชายคนโตของท่านเจ้าสัวอีก
“เป็นเพื่อนค่ะ ภพลูกเพื่อนพ่อที่เคยเล่นด้วยกันตอนเล็ก พี่ธาวินจำได้ไหม”
“ภพเหรอ อ่อ นึกออกล่ะ”เขาทำสีหน้าครุ่นคิดถึงเด็กผู้ชายที่อายุห่างจากเขาสี่ปี เมริสาอ้าปากกว้างหาวชุดใหญ่ เมธาวินส่ายหน้าขำน้องสาวนาน ๆ ทีเธอจะหลุดความโก๊ะไม่วางฟอร์มแบบนี้ ช่างน่ารักสดใสเหมือนเมื่อก่อนที่ไม่ได้เห็นมุมนี้ของน้องสาวมานาน
“อย่างนี้ก็ต้องหาคนดูตัวใหม่สิ”
“ไม่ค่ะ ริสาเจอคนที่ถูกใจแล้ว”หน้าสวยยิ้มกว้างมีความสุขเมื่อนึกถึงดิฐา
“ใครกันที่ทำให้น้องพี่ยิ้มได้แบบนี้”เมธาวินหรี่ตาจ้องน้องสาวอย่างอยากรู้
“ถ้าเขาตกลงคบกับน้อง ๆ จะบอกนะคะ ตอนนี้เขายังเล่นตัวอยู่เลยต้องตื้อเยอะหน่อย”เธออมยิ้มแววตาสุกใสเป็นประกาย
“โอ้มายก็อต คนอย่างริสาเนี้ยนะจีบผู้ชาย”เมธาวินยิ้มตามน้องสาว
“รักแรกพบเลยนะคะ”
“แมนมากน้องพี่ ขอให้ได้คบกันนะ”เมธาวินยิ้มขำ ๆ ไม่อยากเชื่อว่าน้องสาวจะลดความหยิ่งไปตามจีบผู้ชายก่อน และแทบไม่อยากเชื่อว่าคนสวยรวยเก่งอย่างเธอจะมีผู้ชายที่ไหนกล้าปฏิเสธ........
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
ดิฐาเดินยิ้มหอบถุงอาหารขึ้นมายังห้องพักของแม่ดา เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องถึงกลับชะงักที่มีกลุ่มชายใส่สูทสามคนยืนอยู่ในห้อง หน้าหล่อเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมไม่พอใจ
“มาทำไมอีก”
“ขอโทษครับ นายท่านให้ผมมาเยี่ยมอาการคุณดาและให้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการักษา”เลขาโจก้มหน้าเล็กน้อย
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง ผมดูแลแม่เองได้ไม่ต้องรบกวนคนอื่น”ดิฐาเสียงแข็งสีหน้าขุ่นเคือง
“ฐา.....”แม่ดาเรียกลูกแล้วส่ายหน้าปรามลูกให้ใจเย็น
“นายท่านทราบดีว่าคุณฐาดูแลได้ ท่านเพียงอยากช่วยแบ่งเบาภาระบ้างเท่านั้น”
“แม่ไม่ใช่ภาระของผม ไม่จำเป็นต้องตัดภาระทิ้งเหมือนใครบางคน”ดิฐาแววตาแข็งกร้าว เขาไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวที่จะทิ้งคนรักไว้ข้างหลังได้ลงคอ เลขาโจนิ่งฟังที่นายท่านพูดผ่านบลูทูธข้างหูแล้วพูดตาม
“นายท่านบอกว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เสมอ”
“บอกเขาว่าช่วยไม่มายุ่งกับพวกเราอีก!”เขาพูดเสียงดังหวังให้เสียงเล็ดรอดเข้าไปปลายสาย ซึ่งมิสเตอร์จางก็ได้ยินจริง ๆ
“ให้ฉันคุยกับมัน”มิสเตอร์จางเสียงเข้มหงุดหงิด
“นายท่านอยากคุยด้วยครับ”
“ผมไม่คุยกลับไป แล้วไม่ต้องมาอีก!”เขาตวาดไล่ผู้ชายสามคนในห้อง สายตาคมดุดันมองตาขวาง ชายทั้งสามได้แต่โน้มตัวลงนอบน้อมเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
“เงินของเขาช่วยให้ลูกลำบากน้อยลงนะ”แม่ดาเสียงอ่อนรู้ว่าลูกทำงานหนักเพื่อมารักษา ดิฐาหันหลังเดินไปมุมห้องหลับตาข่มใจแกะถุงอาหารใส่จาน
“กินข้าวกันเถอะแม่ ฐาซื้อข้าวหมกไก่มาฝากด้วยนะ”เขาเปลี่ยนเรื่องคุยถือจานอาหารมาวางจัดช้อนเลื่อนโต๊ะอาหารเข้าหาแม่ แม่ยิ้มเล็กน้อยเข้าใจว่าลูกไม่อยากพูดถึงพวกเขาอีก
