ตอนที่ 3 อุ้มหน่อยสิ
กว่าฝนจะหยุด กว่าจะมาถึงร้านอาหาร เมริสานั่งเปียกตัวสั่นมาตลอดทางพอถึงที่ร้านอาหารก็โล่งใจ ทั้งหนาวทั้งปวดท้องเบา หิวน้ำหิวข้าวจนท้องร้องไปหมด
ร่างบางเดินเร็วแทบวิ่งเข้าห้องน้ำปลดทุกข์สบายตัว เปิดประตูออกจากห้องน้ำจะล้างมือที่อ่างล้างมือสายตาสวยเหลือบมองกระจกบานใหญ่ตรงหน้า
“ว้าย!”เมริสาอ้าปากค้างมองตัวเองในกระจกผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าชุ่มปากซีดสภาพยุ่งเหยิงดูไม่ได้ มือเรียวรีบดึงกระดาษทิชชู่มาซับหน้าซับผมอย่างลนลาน
“บ้าไปแล้ว ๆ ให้เขาเห็นสภาพนี้ได้ยังไงริสา”เธอบ่นตัวเองในกระจก มือเรียวสางผม หยิบลิปสติกมาทาเพิ่มสีสันแต่งเติมหน้าสวย
“เห้อ จะบ้าตาย”ร่างบางยืนเกาะขอบอ่างปากบางพ่นลมหายใจไม่เคยต้องเหนื่อยเสียมาดขนาดนี้มาก่อน สักพักผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาแล้วเหล่มองเมริสามองผ่านกระจก เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นมองเลยยืนตัวเหยียดตรงยกนิ้วทำทีเกลี่ยลิปสติกบนริมฝีปากจนผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าห้องน้ำ หญิงสาวถึงกับลอบถอนหายใจอีกครั้งแล้วเดินออกจากห้องน้ำไปด้านนอก
ผู้บริเวณทางเดินชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีดำเดินสวนทางมาเมริสาเดินผ่านเขาไปเฉย ๆ ชายหนุ่มหันมองหน้าเหวอ
“คุณ”เขาเรียกเธอไว้ เมริสาหันมองคนที่เรียกเธอด้านหลัง ชายหนุ่มรูปหล่อร่างกายกำยำสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวดูสมาร์ท
“เรารู้จักกันเหรอคะ”
“ไม่รู้จักหรอกครับ ผมแค่พาคุณไปพบคุณสหภพตัวจริง”
“นาย นี่นายคนนั้นเหรอ”เมริสามองตาค้าง หล่อ เท่ ดูดีจนเธอเผลอยิ้มมุมปากมองสำรวจเขาอย่างไม่อาย ดิฐาเขินสายตาคู่สวยเม้มปากเน่น ยกมือหนาลูบต้นคอทำตัวไม่ถูกก่อนจะเบี่ยงตัวเดินผ่านหญิงสาวเพื่อพาเธอไปเจอสหภพ หญิงสาวมองตามเขาอย่างเผลอไผลถูกใจแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
ดิฐาพาเมริสามาที่ห้องทำงานสหภพ เมริสาเปิดประตูเข้ามาภายในห้องเห็นสหภพนั่งอยู่บนโซฟา สหภพอึ้งยกมือชี้หน้าเมริสา ๆ ชี้หน้าสหภพ
“ภพ”
“ริสา”สหภพพูดชื่อเมริสาแล้วหัวเราะ เมริสากระตุกยิ้มไม่มากนักทั้งสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ พ่อแม่เป็นเพื่อนกันเลยเจอกันบ่อยพอหลังจากพ่อแม่เธอเสียก็แยกย้ายไม่ได้เจอหน้ากันอีก
“ภพให้ใครไปออกเดทแทนได้ไง นี่เรากะจะมาด่าเลยนะ”เธอหน้างอมองเคืองเพื่อน
“เราไม่อยากถูกดูตัว ขอโทษนะ”สหภพทำเสียงอ้อนกุมสองยกขึ้นขอโทษขอโพย
“แล้วคนที่ไปแทนเป็นใคร”
“ฐา เป็นบาเทนเดอร์ร้านเราเอง”เขามองลงไปที่ชั้นล่างในส่วนของค็อกเทลบาร์ เมริสามองตามแววตาเป็นประกายเผลอยิ้มมุมปากความรู้สึกในตอนนี้คืออยากได้เขามาอยู่ข้างกาย.........
ผ่านไปสามวัน
เมริสานอนพักรักษาตัวจากอาการไข้หลังจากตากฝนสามวันติด ในทุกวันจะฝันหวานคิดถึงแต่ชายหนุ่มตอนที่เขาจับข้อมือ ปรับสายรัดใต้คางหน้าใกล้ชิดกันลมหายใจอุ่นกระทบแก้มเนียน ร่างบางนอนพลิกตัวไปมารอยยิ้มเขินอายผุดขึ้นดวงหน้าสวย รอยยิ้มที่เธอไม่เคยมีมานานกว่าสิบปีและเขาทำให้เธอยิ้มแบบนี้ได้อีกครั้ง
ร่างบางดีดตัวขึ้นในเมื่อคิดถึงก็ไปหาเขาสิยากตรงไหน เธอลงจากเตียงรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าสวยชุดเดรสสั้นเปิดแผ่นหลังเนียนสวมรองเท้าส้นสูงเดินลงบันไดจะไปที่ร้านอาหารของสหภพ
“ว้าว ว้าว ว้าว ตัวอะไรเข้าสิงน้องพี่ถึงได้แต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ด”เมธาวินแซวน้องสาวที่ไม่ค่อยแต่งตัวเปิดเผยเรือนร่าง
“พี่บอกให้ริสาใช้ชีวิตก่อนแก่ไง”เมริสาอมยิ้มเดินสวยสง่าไปหาพี่ชาย เมธาวินอึ้ง
“เมื่อกี้พี่เห็นริสาอมยิ้ม”
“....ตาฝาดมั้ง.........”เธออึกอักสายตาหลุกหลิก
“ไม่นะพี่เห็นจริง”เมธาวินยืนยันว่าเขาเห็นน้องยิ้มนั่นทำให้เขาดีใจ
“ไม่มีอะไรหลอกพี่ ไปล่ะ”เธอรีบบอกปัดเดินหนีออกนอกบ้านไปอย่างรวดเร็ว เมธาวินมองตามหลังน้องสาวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน้องสาวไม่เที่ยวกลางคืนและไม่ค่อยนัดเพื่อน ๆ ตอนกลางคืนแล้ววันนี้น้องสาวเขากำลังจะไปเที่ยวกับใคร
ณ ร้านอาหารกึ่งผับของสหภพ
ดิฐา ผสมเครื่องดื่มค็อกเทลให้กับลูกค้าขาประจำที่มานั่งเรียงรายกันหน้าบาร์ ต้องจองคิวล่วงหน้าถึงจะได้นั่งเพราะแฟนคลับของดิฐาค่อนข้างเยอะเป็นอีกจุดขายของทางร้าน
เมริสานั่งดื่มอยู่ไกล ๆ มองผู้หญิงหน้าบาร์อย่างอิจฉาวันนี้เธอลงจองคิวแล้วแต่คิวเต็มไปอีกสองเดือนข้างเดือนข้างหน้า หญิงสาวหงุดหงิดที่แค่ถูกใจผู้ชายหล่อ ๆ ฐานะธรรมดาคนหนึ่งต้องมาแย่งชิงกันขนาดนี้เลยเหรอตาถึงเหมือนกันนะเราถูกใจหนุ่มฮอตซะด้วย
เมริสานั่งดื่มคนเดียวลำพังเมื่อรู้ว่าเข้าไม่ถึงตัวดิฐาเลยเช็คบิลลุกขึ้นจะกลับ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินถือแก้วเหล้ามาหาเมริสาที่โต๊ะ
“จะกลับแล้วเหรอครับ”ชายหนุ่มหล่อดูรวยยิ้มโปรยเสน่ห์ เขามองเธอนั่งดื่มอยู่นานพอเธอจะกลับเลยรีบเดินมาดักคุยสานสัมพันธ์
เมริสาหน้าตึงไม่สบอารมณ์ เดินเชิดเลี่ยงออกไปอีกทาง ดิฐาคอยมองเธออยู่นานพอเห็นผู้ชายเดินตามหญิงสาวก็รู้สึกเป็นห่วง ชายหนุ่มหล่อเดินตามกระชากแขนเรียวให้หันไปหา
“ปล่อยหนึ่ง”เมริสาจ้องตาเขม็ง
“ทำเป็นเล่นตัว”ชายหนุ่มจ้องหน้ากลับท้าทาย ดิฐาเห็นท่าไม่ดีรีบวางอุปกรณ์วิ่งไปหาเมริสา
“ปล่อยสอง”
“ไม่ปล่อยโว้ย ถ้ามึงรู้ว่ากูรวยแค่ไหนแล้วจะอึ้ง”ชายหนุ่มหล่อน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เมริสากระตุกยิ้มแววตาดุดันเตะผ่าหมากดัง “ปึก”
“โอ๊ย!”ชายหนุ่มงอตัวเจ็บจุกแก่นกาย เข่าเรียวยกเสยคางดัง “ผัวะ”อย่างรวดเร็วชายหนุ่มหน้าหงายล้ม เมริสาเดินตามไปง้างขาจะเตะหน้าชายหนุ่มแต่เขายกสองมือขอร้องเธอไว้
“พะ พอ แล้ว..........ขอ โทษ ครับ ๆ”ชายหนุ่มหน้าเสียหวาดกลัว เพื่อนของชายหนุ่มรีบเข้ามาพยุงช่วยเพื่อน ผู้ชายอีกคนชี้หน้าต่อว่าเมริสาง้างมือจะไปตบ เมริสาคว้ามือแกร่งกระชากล็อคแขนหันหลังพยุงตัวผู้ชายแล้วทุ่มทิ้งลงพื้นร้าน “อัก”ผู้ชายนอนร้องโอดโอย เธอหันขวับตั้งหมัดตาขวางมองกลุ่มผู้ชายพวกเขาลังเลจะเข้าไปหรือไม่เข้าดี การ์ดของร้านวิ่งเข้ามาแยกลูกค้าที่ทะเลาะกัน การ์ดแตะแขนเธอ ๆ สะบัดออกบิดข้อมือการ์ดคนนั้นจนร้องโอดโอย หน้าสวยดุดันแววตาแข็งกร้าวคล้ายผู้ชาย
“ปล่อยเขาเถอะครับ เขาทำตามหน้าที่”ดิฐาเห็นการ์ดร้องเจ็บปวดเลยช่วยเพื่อนร่วมร้าน เมริสาตาขวางพอเห็นดิฐาสติก็กลับคืน รีบคลายมือการ์ดมองรอบข้างและผู้ชายสองคนโดนเธอสั่งสอน เมริสาหันขวับจะเดินออกจากร้าน
“โอ้ย!”เธอเดินเซขาพลิก ดิฐาเข้าไปช่วยประคองตัวเธอไว้
“เจ็บ...”หญิงสาวช้อนตามองออดอ้อนแสร้งทำอ่อนแอช่างต่างกับเมื่อครู่ราวฟ้ากับดิน ดิฐาก้มมองข้อเท้าหญิงสาว
“ลองเดินหน่อยนะครับ ผมจะพยุงไป”
“เดินไม่ไหว อุ้มหน่อยสิ”ดวงตาสวยเป็นประกาย ทำหน้าอ้อนเหมือนเด็กสองแขนเรียวยกขึ้นพาดลำคอแกร่งดื้อ ๆ ไม่ให้เขาตัดสินใจ ดิฐามองสบตาหญิงสาวเคลิ้มกับความน่ารักตรงหน้าจนลืมว่าตอนนี้คนทั้งร้านกำลังมองเขาและเธออยู่ ลดาเพื่อนสนิทของดิฐาไม่พอใจที่ลูกค้าอ่อยดิฐาดูก็รู้ว่าแกล้งเจ็บ
“เกิดเรื่องอะไร”เสียงของสหภพทำให้ดิฐาสะดุ้งท่าทางเลิ่กลั่ก ช้อนตัวเมริสามาอุ้มไว้ในอ้อมกอดหันไปหาสหภพ
“ริสา......”สหภพหน้าเสียเมื่อเห็นเพื่อนเจ็บตัว
