ตอนที่ 2 อยากอยู่ใกล้ผู้ชาย
ณ ร้านอาหารหรูในโรงแรมชื่อดัง
เมริสาสวมชุดกางเกงสแลคขายาวเสื้อสายเดี่ยวตัวในสวมสูททับ เครื่องประดับน้อยชิ้นทำให้เธอดูทะมัดทะแมงเป็นเวริคกิ้งวูแมนที่คล่องตัว ร่างสูงระหงส์เดินเชิดเข้ามาในร้านอาหาร ลูกค้าที่นั่งทานอาหารอยู่เหลือบมองหญิงสาวสวยคล้ายนางงามเดินผ่านโต๊ะอาหาร ไม่ว่าโต๊ะไหนก็มีแต่คนลอบมองความสวยสง่าของเธอ
ร่างบางนั่งลงวางกระเป๋าข้างกายนั่งหลังตรงทุกอย่างที่ทำดูมีมาดทุกกระเบียดนิ้ว มือเรียวหยิบเมนูขึ้นมาสั่งอาหารบางส่วน ระหว่างกำลังดูเมนูอาหารหางตาสวยเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ หน้าสวยเงยขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดกระตุกเล็กน้อยสายตาไม่พอใจที่ชายหนุ่มตรงหน้าใส่เสื้อยืดสีดำเก่าซีดจนแทบไม่หลงเหลือความดำกางเกงยีนส์ขาดเข่าสีขมุกขมัว หญิงสาวไล่มองขึ้นไปยังบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อใส่แว่นหนากรอบแว่นสีดำทรงโบราณผมเผ้ายุ่งเหยิง กลิ่นเหงื่อโชยมาอ่อน ๆ นั่นยิ่งทำให้เธอขุ่นเคืองสุด ๆ
“คุณเมริสาหรือเปล่าครับ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม เมริสาหายใจเข้าออกแรงจนหน้าอกกระเพื่อมระงับความโกรธจนตัวเกร็ง มือเรียวพับเมนูโบกมือให้พนักงานเสริฟออกไป
“คุณคือสหภพ?”หน้าสวยมองอย่างสงสัย
“ครับ”ดิฐานั่งลงบนเก้าอี้อย่างประหม่า เหล่มองเมริสาที่ดูสวยแต่น่าเกรงขามไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เขามาเดทแทน
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้อยากมาดูตัวแต่ควรแต่งตัวให้เกียรติฉันบ้าง”เมริสากอดอกไม่พอใจอารมณ์ขุ่น พยายามเพ่งมองสำรวจหน้าตาของเขาอย่างพิจารณาเทียบกับรูปที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สหภพ
“ผมรีบ เลิกงานผมก็มาเลยยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัว”
“โกหก สหภพอยู่ไหน!”
“ผมนี่ไงสหภพ”ดิฐากลืนน้ำลายลงคอหน้าตาเลิ่กลั่ก มือเรียวฟาดลงโต๊ะอาหารเสียงดัง
“อย่าทำให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นนายจะรู้ว่านรกมันเป็นยังไง บอกมาว่าสหภพอยู่ไหนและนายเป็นใคร!”สายตาสวยแข็งกร้าวโกรธที่ถูกหลอก ดิฐาพ่นลมหายใจหลับตาทำใจเขาหลอกผู้หญิงคนนี้ไม่ได้และเธอก็ดูน่ากลัวจนเขาทำตัวไม่ถูก
“คุณภพอยู่ที่ร้านครับ เขาจ้างให้ผมมา”
“พาฉันไปหาเขา”ดิฐาหนักใจ ท่าทางอึกอัก
“ถ้านายไม่พาไปฉันจะฟ้องนายที่ตั้งใจหลอกลวงทำให้เสียทรัพย์ ฉันยัดข้อหาให้นายได้”เมริสายักคิ้วเหนือกว่าให้เขารู้ว่าเธอมีอำนาจเงินทำให้เอาเรื่องเขาได้แม้เขาไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาม
“ครับ ผมจะพาไป”ดิฐาหน้าเครียดรับคำอย่างจำยอม เมริสากระตุกมุมปากเล็กน้อยจ้องมองตัวปลอมตาไม่กระพริบ
ดิฐา เดินนำเมริสาไปยังลานจอดรถ หญิงสาวมองเขาทางด้านหลังร่างสูงโปร่งแผ่นหลังกว้างกำยำ เธอมองเขาอย่างพิจารณาอยากเห็นหน้าชัด ๆ ว่าภายใต้แว่นหนานั้นเขาจะดูดีเหมือนด้านหลังหรือเปล่า สายตาสวยมองเพลิน ๆ เขาก็หยุดกะทันหันทำให้เธอเดินชนหลังแกร่ง
“โอ้ย!”มือบางยกจับหน้าผากอย่างหงุดหงิดเท้าเรียวก้าวไปข้างหน้าเขาจะต่อว่าที่เขาหยุดกะทันหัน มือหนาคว้าหมับจับแขนเรียวดึงไว้เพราะมีรถเก๋งกำลังแล่นผ่าน เมริสาชะงักจะดึงข้อมือออกแต่บังเอิญเห็นมือที่กุมข้อมือเธอไว้มือหนาดูแข็งแกร่งเส้นเลือดขึ้นเป็นทางมีขนรำไร เมริสาเผลอมองไล่ขึ้นมายังโคนแขนล่ำแล้วลอบกลืนน้ำลายกลิ่นเหงื่อโชย ๆ ของเขาชัดขึ้นเปลือกตาสวยหลับตาพริ้มสูดดมกายหนุ่มอย่างลืมตัว
รถเก๋งแล่นผ่านไป เขาคลายมือออกแต่หญิงสาวยังหลับตาสูดกลิ่นกายชายหนุ่มตรงหน้า ดิฐาขมวดคิ้วสงสัย
“คุณครับ”
“ห๊ะ!”เมริสาสะดุ้งลืมตาเม้มปากพยายามปรับสีหน้านิ่ง
“ไปได้แล้ว”
“ก็ไปสิ”เมริสาเชิดหน้านิ่งกลบเกลื่อนความเขินแอบดมกลิ่นผู้ชายนี่ฉันเป็นคนโรคจิตไปแล้วเหรอ
ดิฐาพาเธอข้ามฝั่งไปยังลานจอดมอเตอร์ไซต์เขาพาเธอเดินเลาะมาเรื่อย ๆ เมริสาขมวดคิ้วมองรถมอเตอร์ไซต์แต่ละคันแล้วหยุดชะงัก เมื่อเขาจับมอเตอร์ไซต์เก่า ๆ คันหนึ่ง เมริสาหน้าเหวอคิดว่าขับหรูตามเขาไปน่าจะดีกว่า
“เดี๋ยวฉัน....”เธอจะพูดบอก ในขณะที่เขายื่นหมวกกันน็อคมาให้หน้าสวยก้มมองหมวกกันน็อคเก่าก่อนจะเงยมองหน้าเขาอย่างอึกอัก
“กลัวสกปรกเหรอครับ”ดิฐาเห็นท่าทางเธอแล้วพอเข้าใจหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงวางลงในหมวก เมริสามองการกระทำของเขาแล้วรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ คนที่ไม่เคยแคร์ใครอย่างเธอกลับรู้สึกดีในสิ่งที่เขาทำ
“ผมยังไม่ได้ใช้สะอาดแน่นอน”เขายิ้มให้อย่างอ่อนโยน หญิงสาวมองรอยยิ้มแล้วเคลิบเคลิ้มใจเต้นแรง ตึก ตึก มือบางรับหมวกกันน็อคที่เขายื่นให้อย่างเชื่องช้า เท้าเรียวก้าวถอยหลังเขยิบให้เขาถอยมอเตอร์ไซต์ออก ดิฐาสวมหมวกกันน็อคกำลังจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์หันไปมองเมริสาที่สวมหมวกกันน็อคแต่ยังไม่ได้รัดสายใต้คาง
“ผมขอปรับสายให้นะครับ”ร่างหนาเขยิบเข้าใกล้ หญิงสาวเอนตัวเล็กน้อย ตามสัญชาตญาณพอนึกขึ้นได้ก็ยืนตัวตรงเหลือบมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนใกล้เพียงปลายจมูก สายตาเขามองสายรัดเพื่อเลื่อนให้พอดีคางอย่างตั้งใจ หญิงสาวใจเต้นรัวไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้เธอได้มากขนาดนี้นอกจากคนในครอบครัว
“พอดีไหม”เขาจ้องหน้าหญิงสาวแสนสวย รู้สึกหน้าตัวเองร้อนผ่าวที่อยู่ใกล้แต่พยายามเก็บอาการ
“อืม..........”เมริสาหลุบตาลงพยักหน้าเบา ๆ ไม่กล้าสบตาเขา ดิฐาผละออกเขิน ๆ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์สตาร์ทเครื่องเมริสายืนเล็งว่าจะก้าวขึ้นคร่อมยังไง ขาเรียวพาดข้ามเบาะอย่างทุลักทุเล เขามองกระจกหลังแล้วอมยิ้มกับท่าทางงก ๆ เงิ่น ๆ ของหญิงสาว
เมริสาเอามือจับที่จับด้านหลังนั่งไม่ค่อยถนัดดีที่เขาขับเรื่อย ๆ ผมยาวสลวยสะบัดไปมาหน้าสวยปะทะลมจนชา เมริสารู้สึกถึงความไม่สะดวกอยากลงรถไปต่อแท็กซี่เสียด้วยซ้ำติดที่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้ชายเลยทนนั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์ครั้งแรกในชีวิต ดิฐาขี่มาได้สักพักก็จอดที่ป้ายรถเมล์ เมริสามองอย่างสงสัย
“ข้างหน้าฝนตก ท่าทางจะหนัก เราต้องหลบที่ป้ายรถเมล์กันก่อน”เขาเอียงคอมาบอกหญิงสาวด้านหลัง เมริสาชะเง้อมองเห็นทางข้างหน้าเหมือนหมอกคลุมมองไม่เห็นถนนและมีเม็ดฝนตกลงมาใส่เสื้อผ้าเธอเลยรีบลงไปหลบฝนที่ป้ายรถเมล์
ไม่นานนัก ฝนก็ตกลงมาซู่ใหญ่สาดเข้าป้ายรถเมล์ที่แทบไม่ช่วยบังฝนเลยสักนิด ร่างบางยืนกอดตัวเองหนาวสั่น มองฝนตกแล้วละเหี่ยใจ ได้แต่คิดนี่มันวันอะไรของเธอกันนะถึงต้องมาเจอสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจนัก
“เอาเสื้อผมคลุมก่อนไหม”เขาถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเธอยืนตัวสั่นเลยถอดเสื้อคลุมส่งให้ เมริสาก้มมองเสื้อคลุมกลัวเสื้อไม่สะอาดแต่ก็นะตอนนี้หนาวจนสั่นขอใส่เสื้อให้ร่างกายอบอุ่นสักหน่อยก็ยังดี มือเรียวยื่นออกจะหยิบเสื้อคลุมแต่เขาคลี่เสื้อออกแล้วคลุมให้เธอ เมริสาเงยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอใจไม่นิ่งรู้สึกประหม่าเมื่ออยู่ใกล้เขามันคืออะไร มันคืออะไร ฉันเป็นบ้าอะไร ฉันเป็นบ้าอะไร...............
