บทที่ 5 สามีภรรยาคุยกัน
"ไม่เป็นไรค่ะคุณพิณ ไม่ต้องเกรงใจพี่นะคะมันเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้ว" หญิงสาวผู้เป็นเลขากล่าวกับเจ้านายของตนเองด้วยความนอบน้อม
ประตูปิดลงพิณฟ้าใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความใส่ใจของเลขาสาวของตนเองถึงอายุจะมากกว่าเธอถึงสิบปี แต่เลขาส่วนตัวก็ให้ความนอบน้อมและเคารพกับเธออย่างเอ็นดู
คฤหาสน์กฤษนันวรกุล
ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ปูพื้นด้วยผ้าพรมเปอร์เซียที่มีราคาแสนแพง โคมไฟขนาดใหญ่ส่องแสงราวเพชรประดับสวยงามอยู่บนเพดาน
"ป่านนี้แล้วทำไมยัยหนูยังไม่กลับมาอีกเหรอคุณ"
"ไม่รู้สิคะคุณพี่ ปกติยัยหนูจะต้องโทรมาบอกเราอยู่แล้ว ถ้าแกกลับมาถึงหรือว่าแกจะลืมโทรกลับมากันแน่"
"คุณไม่ลองโทรไปสอบถามลูกหน่อยล่ะ"
"ได้ค่ะคุณพี่ เดี๋ยวหญิงจะรีบโทรตอนนี้เลยนะคะ"
เสียงเพลงรอสายที่ดังมาจากโทรศัพท์เครื่องหรูของสาวน้อย ที่อยู่ภายในกระเป๋าสะพายของเธอทำให้สาวน้อยต้องรีบยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋าสะพายข้าง ขึ้นมาดูชื่อผู้โทรเข้ามาทันที
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะคุณแม่ ขอโทษด้วยนะคะที่หนูกลับมาแล้ว ลืมโทรกลับไปบอก หนูมาถึงตั้งนานแล้วล่ะค่ะ แต่ว่ากำลังเคลียร์เอกสารอยู่เพราะหนูไม่อยากให้พรุ่งนี้งานต้องเยอะเกิน อีกสิบนาทีเดี๋ยวหนูก็จะกลับมาบ้านแล้วค่ะ เหลืออีกแค่นิดเดียวสองสามหน้าก็เรียบร้อยแล้วค่ะ บอกคุณพ่อด้วยนะคะ ว่าหนูคิดถึงแล้วเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะคะ สวัสดีค่ะ"
"ว่าไงล่ะคุณ ลูกว่ายังไงบ้าง"
"แกกลับมาถึงแล้วค่ะคุณพี่ แต่ว่าแกแค่แวะเข้าไปในบริษัทไปเซ็นเอกสารที่เหลืออยู่ก็แค่นั้นเอง แกคงรีบจนลืมโทรมารายงานให้เรานะค่ะ แกฝากความคิดถึงมาให้คุณด้วยนะคะ"
"ว่าแต่ปีนี้ลูกสาวของเราอายุอานามก็น่าจะสมควรแต่งงานได้แล้วนะ คุณว่าไหม"
"น้องก็คิดคิดอยู่นะคะ แต่น้องว่าเราควรมองคนที่สมฐานะกับเรานะคะ น้องไม่ชอบเลยที่ดาราชายในสังกัดของเรา หรือสังกัดอื่นเข้ามาจีบยัยหนูพิณของเรา"
"คุณอย่าไปถือสาเลยมันเป็นเรื่องธรรมดาผู้ชายเรา ก็ล้วนแต่ชอบผู้หญิงที่สวยทั้งนั้นแหละ"
"คุณก็พูดได้สิคะก็คุณเป็นผู้ชายนี่ แต่ฉันเป็นคนคลอดลูกออกมา ฉันก็อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด ผู้หญิงเราถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแต่งงานเพียงแค่ครั้งเดียวนะคะคุณพี่" หญิงสาววัยกลางคนกล่าวกับสามีของเธอด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ กับคำพูดของสามีก่อนหน้านั้นด้วยความโกรธเคืองนิด ๆ
"เอาล่ะ… ผมขอโทษคุณด้วยก็แล้วกัน ผมก็พูดไปตามความคิดของผู้ชายโดยทั่วไป แต่ในฐานะของผมที่เป็นพ่อคนผมก็คิดเหมือนอย่างคุณนั่นแหละ ว่าอยากให้ลูกของเราได้เจอกับคนที่แกรักและอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดไป แกรักคนไหนผมก็รักคนนั้น ผมเกรงแต่ว่าถ้าลูกสาวคุณไปชอบคนที่ไม่มีฐานะเท่าเทียมกับเรา คุณจะว่ายังไง"
"ไม่ได้นะคะคุณพี่ เราเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมใคร ๆ ก็รู้จัก เกิดยัยหนูพิณจะชอบคนแบบนั้นเกิดสักวันเขาไม่มีอะไรเลี้ยงลูกเรา หากนานไปแก่ตัวลงเขาจะไม่ทิ้งหนูพิณของเราเหรอคะ ไหนจะลำบากอีก"
"เอาล่ะ! เอาล่ะ! ผมยอมแพ้คุณ คุณก็รู้ว่าใครก็คงฝืนชะตาของตัวเองไม่ได้หรอก ถ้ายัยหนูโชคดีก็คงจะได้สเปคผู้ชายอย่างที่คุณต้องการละนะ ผมเองก็ได้แต่ภาวนา ไม่อย่างนั้นคุณคงโกรธลูกแย่แน่ ไหนจะไม่อยากยอมรับให้มาเป็นลูกเขยอีก"
"ไม่ใช่ว่าน้องรังเกียจคนจนนะคะ แต่น้องเคยเห็นมาตั้งหลายคนแล้วที่ฐานะไม่เท่าเทียมกัน สุดท้ายชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด"
"เอาละ ๆ คุณ ผมว่าให้ฟ้าเป็นผู้ลิขิตดีกว่าเราอย่าไปยุ่งเลย"
"แต่ถึงยังไงน้องก็คงต้องหาคนที่เหมาะสมมาแนะนำให้กับลูกบ้างแล้วล่ะค่ะ"
"ว่าแต่ตาอิฐได้โทรกลับมาหาคุณบ้างหรือเปล่า คุณหญิง"
"ไม่เลยนะคะ พักนี้หายเงียบไปเลยพ่อลูกชายตัวดี สงสัยสักวันหนึ่งดิฉันคงต้องบุกไปให้ถึงที่คอนโดให้ได้ ไม่รู้ว่าจะแอบซุกสาวน้อยสาวใหญ่ไว้ที่นั่นเยอะแค่ไหนหรือเปล่า ความเจ้าชู้ของคุณเนี่ยไม่ทิ้งแถวเลยนะคะ" หญิงวัยกลางคนกล่าวบ่นกับสามีแต่ก็ไม่วายพูดแดกดันประชดประชันนิด ๆ ใส่สามีถึงความเจ้าชู้ที่เหมือนจะสืบทอดกันมา
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณก็รู้ว่าผมรักคุณคนเดียว ตั้งแต่ที่ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตกับคุณ ผมก็หยุดความเจ้าชู้แล้วนี่ไง สำหรับตาอิฐคุณจะโทษผมก็ไม่ได้นะความเจ้าชู้มันต้องอยู่ที่แต่ละคน ว่าเมื่อไหร่จะเจอคนที่เราพร้อมจะหยุดความเจ้าชู้ ก็เหมือนอย่างที่ผมพร้อมที่จะหยุดแล้วกับคุณไง"
"แหมคุณพี่พูดออกมาได้ไม่อายคนใช้เลยนะคะ" หญิงวัยกลางคนถึงกับหน้าแดงกับคำเยินยอของสามี
"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ คุยจีบอะไรกันอยู่เหรอคะ คุณแม่ถึงกับหน้าแดงอายม้วนทีเดียวเชียว" น้ำเสียงที่ดังมาจากหน้าประตูถึงกับทำให้ทั้งสองถึงกับตกใจ
"อ้าว… ยัยหนูพิณกลับมาแล้วเหรอลูก พ่อกับแม่ก็ตกใจหมด"
"โชคดีจังเลยนะคะ ที่หนูพิณได้เห็นคุณพ่อคุณแม่คุยหยอกล้อจีบกันแบบนี้ด้วย"
"เราเนี่ยนะ โตแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ ดูสิเนี่ยแม่เขินหมดเลยไม่เอาละแม่ว่าแม่ขอตัวก่อนดีกว่า ไปขอดูในครัวว่ามีอะไรทานบ้างเย็นนี้" หญิงวัยกลางคนกล่าวกับบุตรสาวและสามีด้วยใบหน้าที่ขัดเขิน รีบหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีด้วยความอับอายนิด ๆ กับบุตรสาว
"คุณพ่อล่ะคะ สบายดีหรือเปล่าหนูคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ" สาวน้อยกล่าวกับบิดาพร้อมกับเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง
"ออดอ้อนพ่ออย่างนี้โตแล้วนะเรา ยังทำตัวเป็นเด็ก ๆ อ้อนขอความรักอยู่อีก แบบนี้สงสัยพ่อคงต้องรีบหาคนมาให้เรากอดแล้วดีไหม"
"โถ่… คุณพ่ออ่ะค่ะ หนูยังเด็กอยู่นะคะ เพิ่งหาเงินใช้เองได้สองปีเอง"
"ฮ่า ๆ ๆ พ่อล้อเล่นน่ะ แต่ถ้าพูดถึงแล้วลูกเองอายุก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย โบราณว่ามีลูกเช้าๆ เด็กจะได้แข็งแรง พูดไปแล้วถ้าตาอิฐเรียนจบมาช่วยเราบริหารงานบริษัท บางทีพ่ออาจจะออกมาเป็นแค่ที่ปรึกษาก็พอ พ่อแก่แล้วอยากใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของเราเลี้ยงหลานอยู่บ้าน"
