บทที่ 1 พิณฟ้าสาวน้อยของบ้าน
ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
บริเวณหลังบ้านคฤหาสน์กฤษนันท์วรกุล ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้และสวนหย่อมมากมายอย่างสวยงาม มีบ่อปลาปลาคราฟที่กำลังว่ายวนกัน อยู่ในอ่างเลี้ยงปลาขนาดเล็ก มีสระบัวขนาดใหญ่ที่กำลังเบ่งบานกลายเป็นสีชมพูอยู่เต็มบ่อ ปรากฏร่างหญิงสาววัยกลางคน ผิวขาว ผมสั้นเพียงบ่า หน้าตาบ่งบอกถึงความสวยงามในอดีตว่าเธอเคยสวยงามแค่ไหน กำลังนั่งให้อาหารปลาด้วยความเพลิดเพลิน พร้อมกับหญิงสาวใช้อีกสองคน
"คุณหนูกลับมาแล้วหรือยัง"
"คุณหนูกลับมาแล้วค่ะคุณผู้หญิง แต่ดูเหมือนวันนี้คุณหนูจะทำงานมาเหนื่อย ๆ นะคะ ใบหน้าดูเหมือนไม่ค่อยสดชื่นเลยค่ะ"
"งั้นเหรอ สงสัยฉันคงต้องไปดูลูกพิณแล้วล่ะ ไม่รู้เป็นอะไรมากหรือเปล่า ช่วงนี้ที่บริษัทคงมีงานยุ่งแน่ ๆ เลย พวกแกเก็บของด้วยนะฉันจะไปดูลูกพิณสักหน่อย"
"ได้ค่ะคุณหญิง" หญิงสูงวัยกล่าวกับสาวใช้เสร็จก็หันหลังรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้สาวน้อยรูปร่างบอบบาง สูงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร ผิวขาวอมชมพู ผมยาว ดวงตากลมโตราวกับตากวาง ใบหน้ารูปไข่เรียวสวยหวานราวกับนางฟ้าที่อยู่ด้านในหันหน้ากลับมามองที่ประตูทันที ประตูเปิดเข้ามาปรากฏร่างหญิงสาววัยกลางคนผู้เป็นมารดาอยู่ในชุดผ้าไหมผสมผ้าลูกไม้อย่างสวยงามสมกับฐานะคุณหญิง ผู้เป็นภรรยาของนักธุรกิจชาวไทย ผู้เป็นเจ้าของบริษัทค่ายหนังรวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ และยังเป็นอดีตที่ปรึกษาทางการเมืองให้กับนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
"คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ไม่มีอะไรหรอกจ้า เห็นคนใช้บอกกันว่าลูกกลับมาแล้ว แต่ใบหน้าไม่สดชื่นเอาเสียเลยที่บริษัทมีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่วันนี้หนูแค่รู้สึกเหมือนเหนื่อย ๆเพลีย ๆ เหมือนจะไม่สบายตัวเท่านั้นเองค่ะ"
"ไหนแม่ดูซิ" คุณหญิงกล่าวพร้อมกับก้าวเดินมายืนต่อหน้าบุตรสาวและยกมือมาแตะที่ใบหน้า เพื่อวัดไข้ของสาวน้อยผู้เป็นบุตรสาวอย่างทะนุถนอมและอ่อนโยน
"ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา หรือว่าลูกจะเหนื่อยเกินไป"
"หนูไม่เหนื่อยหรอกค่ะ"
"ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักผ่อนบ้างนะลูก บริษัทก็ของเราเอง ว่าแต่พวกพ่อดาราทั้งหลาย ยังตามจีบลูกอยู่หรือเปล่า"
"ก็มีบ้างนะคะ"
"แม่ว่าลูกอย่าไปสนใจพวกนั้นเลย เป็นดาราดังอยู่ในสังกัดก็ดีอยู่แล้วยังจะคิดเลื่อนขั้นมาเป็นลูกเขยเจ้าของบริษัทอีก ชายหนุ่มพวกนี้นี่ไม่ไหวเลยจริง ๆ " หญิงวัยกลางคนกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ที่ดาราชายหลายคนในสังกัดบริษัทพยายามที่จะเข้ามาจีบหญิงสาวผู้เป็นลูกสาวเธอ เพราะสำหรับเธอแล้วเธอมองคนที่เหมาะสมและเป็นนักธุรกิจเช่นเดียวกับครอบครัวเธอเอาไว้ให้ลูกแล้ว
"คุณแม่อย่าเป็นห่วงเลยค่ะ หนูก็เห็นพวกเขาเป็นเพียงแค่พนักงานคนหนึ่งของบริษัทเท่านั้น"
"ดีแล้วล่ะจ๊ะ ที่หนูไม่คิดอะไรด้วย แม่จะได้หายห่วง นอนพักผ่อนเถอะ แม่ไม่กวนแล้วเดี๋ยวแม่จะให้คนยกอาหารเย็นขึ้นมาให้หนูทานบนห้องแล้วกัน"
"หนูรักแม่นะคะ" สาวน้อยกล่าวและเดินเข้ามากอดมารดาพร้อมกับหอมแก้มทั้งสองข้าง
"แม่ก็รักหนูเช่นกันจ้ะ"
พิณฟ้าสาวน้อยที่พึ่งเรียนจบจากอเมริกามาได้ปีกว่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัทกฤษนันท์วรกุล มีเดีย จำกัด ด้วยวัยเพียงแค่ยี่สิบสี่ปี คุณหญิงอรทัยและคุณวรภพ กฤษนันท์วรกุล มีบุตรสองคนโดยพิณฟ้าเป็นบุตรสาวคนโต ส่วนคนเล็กเป็นบุตรชายที่อายุห่างจากพิณฟ้าเพียงแค่สามปี
เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่สั่นอย่างถี่ ๆ บ่งบอกถึงสายเรียกเข้าแต่เช้ามืด
"ฮัลโหล… ว่าไงอิฐ" สาวน้อยที่พึ่งตื่นนอนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
"พี่พิณพรุ่งนี้โอนเงินให้หน่อยสิครับ"
"ทุกวันนี้คุณพ่อก็ให้นายเยอะแล้วนะ เมื่อไหร่จะเรียนจบสักที"
"โธ่… พี่ก็รู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ตัดเงินบัตรผมออกตั้งครึ่งหนึ่ง ถ้าพี่ไม่ให้แล้วผมจะไปขอใครล่ะ"
"ก็อยากเอาไปเลี้ยงสาวนักนี่"
"เมื่อก่อนอาจใช่ แต่ตอนนี้ผมต้องใช้ทำรายงานสำคัญก่อนจบด้วย เรื่องสาว ๆ ไม่เกี่ยวเลยนะ"
"ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โอนให้ ออ… พี่ลืมบอกไป คุณพ่อติดต่อนายไม่ได้แต่ฝากพี่บอกนายว่าอย่าลืมมาร่วมประชุมที่บริษัทเสาร์นี้ด้วยเก้าโมง ถ้านายไม่มาคราวนี้คุณพ่อได้ตัดเงินทั้งหมดของนายแน่"
"น้อมรับคำสั่งเลยครับผม… คุณพี่สาวสุดสวย" ชายหนุ่มกล่าวหยอกล้อพี่สาวของตนเองอย่างอารมณ์ดี
ทันทีที่สาวน้อยวางสายจากน้องชาย กลับมีสายเรียกเข้ามาใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้เมื่อสาวน้อยมองลงไปที่หน้าจอโทรศัพท์ กลับเป็นเบอร์ของเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อครั้งยังเรียนอยู่ด้วยกันที่อเมริกา แต่พอเรียนจบแล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันเพื่อกลับบ้านเกิดของตัวเอง
"ฮัลโหล สวัสดีจ้าไดอาน่า ฉันคิดถึงเธอมากเลยนะรู้มั้ย ตั้งแต่เราเรียนจบกันมาต่างคนต่างเงียบหายไปเลยนะ"
"พอดีฉันงานยุ่งต้องช่วยพี่ชายของฉันดูแล ฟาร์มม้าด้วยน่ะ"
"น่าเสียดายจริง ๆ ที่ตอนนั้นเธอเคยชวนฉันไปเที่ยวบ้านของเธอ แต่ฉันกลับไม่ว่างที่จะไปเที่ยวกับเธอ เลยอดเห็นความยิ่งใหญ่ของฟาร์มเธอเลย" หญิงสาวกล่าวไปในสายโทรศัพท์กับหญิงสาวที่อยู่อีกมุมหนึ่งของโลก ผู้เป็นเพื่อนสาวที่เรียนมาด้วยกัน
"แต่ครั้งนี้ ที่ฉันโทรมาก็อยากจะชวนเธอให้มาที่บ้านของฉัน แต่ถ้าครั้งนี้เธอไม่ยอมมา ฉันคงได้โกรธเธอแน่เลย"
