บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3.

“ลูกต้องเชื่อฟังผม น้องมุกกับอาเทียนสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก คงรักกันไม่ยากหรอก ส่วนอาหมิงถ้ามีปัญหานัก ผมจะจับมันแต่งงานบ้าง”

จางหลงบอกภรรยา เขาไม่ห่วงเรื่องนี้มากมายเหมือนที่ภรรยาห่วง เพราะเชื่อว่าลูกๆ ต้องยอมทำตามคำสั่งของเขาเหมือนที่เป็นมาตลอด

“หนูยิ้ม อยู่ที่ไหนเนี่ย ใกล้เวลาเป่าเค้กแล้วนะ” หลินหลินมองหาเจ้าของวันเกิดอีกคน

“หนูยิ้มไปรอรับไมค์กับแซนเดรียครับ วันนี้คุณเอ็ดเวิร์ดเขาไม่ได้มาเลยส่งลูกชายลูกสาวมาแทน” หลี่เทียนบอก

“ไมค์กับหนูยิ้มเขาสนิทกันค่ะ สองคนนี่เขาทำงานร่วมกัน” ม่านไหมเอ่ยขึ้นบ้าง พร้อมกับเล่าให้ฟังอีกว่า

“เฮียเมฆกับพี่เอ็ดเวิร์ดเขาร่วมหุ้นกันเปิดโรงแรมแห่งใหม่ เลยให้หนูยิ้มกับไมค์ไปดูแล สองคนนี่เขาสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ สงสัยพี่เอ็ดเวิร์ดกับเฮียเมฆมีสิทธิ์ได้ดองกันอีกชั้น”

จางหมิงเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ พอได้ยินประโยคสุดท้าย ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา เขากับไมค์และแซนเดรียเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แม้ไม่ได้สนิทสนมกันมากแต่ก็พบปะกันอยู่บ่อยครั้ง ไม่คิดว่าไมค์กับหนูยิ้มจะสนิทสนมกัน ถึงขั้นที่ผู้ใหญ่เอามาพูดว่าจะดองกันแบบนี้

“หนูยิ้มมาแล้ว ดูสิเดินควงกับตาไมค์เหมือนคู่รักกันเลย” ม่านไหมเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้ม

ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่หันไปมองแล้วยิ้มให้กัน มีเพียงจางหมิงที่รู้สึกต่างจากทุกคน เขาเพ่งมองร่างสูงโปร่งของหญิงสาวในชุดราตรีสั้นสีทองแบบเกาะอกอย่างหมั่นไส้ ผ่านไปหลายปียายตัวแสบสูงขึ้นกว่าเดิมแถมยังหน้าตาสวยเฉี่ยว ไม่จืดชืดเหมือนตอนเป็นเด็ก คงเป็นเพราะการแต่งหน้าช่วยให้กลายเป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟันแบบนี้ ท่าทางราวกับสาวมั่นที่เจ้าตัวแสดงออกขัดตาคนมองจนแอบเบ้ปาก ดวงตาคมจับจ้องเรือนร่างสมส่วนราวกับนางแบบไม่ละสายตา จากประสบการณ์ของคาสโน่ว่าหนุ่มทำให้เขารู้ว่าเรือนร่างงดงามของโยธกาไม่ได้ผอมบางแต่อวบอิ่มและงดงามไม่แพ้ใคร ริมฝีปากถูกขบเม้มเมื่อหญิงสาวเดินเบียดกระแซะกับหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงใหญ่ราวกับคู่รัก หัวใจที่เคยสงบนิ่งกับร้อนเร่าด้วยความรู้สึกกึ่งหวงกึ่งหมั่นไส้

“สงสัยนายจะได้น้องเขยว่ะ เทียน” จางหมิงอดปากไม่ได้ หันไปเอ่ยกับเพื่อนสนิท

หลี่เทียนไม่ได้เป็นคนหวงน้องเหมือนจางหมิง จึงไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของเพื่อน

“ถ้านายไมค์เป็นแฟนหนูยิ้มจริง ลุงเมฆคงชอบใจ เห็นเขาลุ้นกันมานาน” หลี่เทียนเอ่ยยิ้มๆ หันไปมองหน้าสวยน่ารักของน้องมุก ด้วยแววตาอ่อนโยน

น้องมุกยิ้มให้พี่ชายใจดีของตัวเอง พยักหน้าเห็นด้วย “พี่หนูยิ้มกับไมค์เหมาะสมกันดีนะคะ พี่หนูยิ้มก็สวยไมค์ก็หล่อ พ่อแม่ก็ทำธุรกิจร่วมกันด้วย”

“แต่นายไมค์มันอายุน้อยกว่าหนูยิ้มตั้งสี่ปีนะ” จางหมิงเอ่ยท้วง

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลุงเมฆก็อายุน้อยกว่าป้าแยมเหมือนกัน ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอก”

คำแก้ของหลี่เทียนทำให้คนฟังขัดใจอย่างรุนแรง ลุกขึ้นเดินหนีก่อนที่คู่สร้างคู่สมจะเดินมาถึงโต๊ะ

“เฮียหมิงเดินไปไหนครับนั่น” ไมค์เอ่ยถามเมื่อพาน้องสาวกับโยธกามาถึงโต๊ะ

“คงไปเข้าห้องน้ำน่ะ นั่งก่อนสิ” หลี่เทียนตอบแทน

ทั้งสามคนพากันทำความเคารพผู้ใหญ่แล้วหาที่นั่ง ไมค์นั่งเก้าอี้ติดกับโยธกาส่วนแซนเดรียนั่งตรงข้ามกับหลี่เทียนและมุกอาภา

แซนเดรียมองหน้าเจ้าของวันเกิดด้วยแววตาอ่อนหวาน หญิงสาวแอบหลงรักหลี่เทียนมานานแต่ไม่กล้าบอกให้อีกฝ่ายรู้ ได้เพียงแต่พูดคุยปรึกษาเรื่องนี้กับพี่สาวอย่างมุกอาภาเท่านั้น มุกอาภาแนะนำให้เธอบอกความรู้สึกกับหลี่เทียนในคืนนี้ หญิงสาวจึงรอเวลาและหาโอกาสเหมาะที่จะได้พูดคุยกับเขาเพียงลำพัง

งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน ผู้ใหญ่พากันกลับหลังจากเจ้าของวันเกิดทั้งสองเป่าเค้กแล้ว เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้สนุกกันอย่างเต็มที่ หลี่เทียนขอมุกอาภาเต้นรำและไม่ยอมปล่อยให้เธอเต้นกับใครนอกจากเขาอีกเลย จาง หมิงกลับเข้ามาในงาน เขาไม่ได้พูดคุยกับโยธกาสักคำ มาเฟียหนุ่มสำราญกับสาวๆ ที่ผลัดเปลี่ยนมาเป็นคู่เต้นรำ ส่วนโยธกาก็เต้นรำกับไมค์และหนุ่มๆ คนอื่นหลายคน ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อพักเหนื่อย ระหว่างที่เดินกลับเข้าไปในงานอีกครั้งก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนัวเนียกันอยู่ในมุมสลัวข้างตึก

“คุณหมิงคะ คืนนี้ไปต่อกับลีน่านะคะ” เสียงหวานของหญิงสาวออดอ้อนชายหนุ่ม ที่กำลังซุกไซร้ซอกคอเธออยู่

“พรุ่งนี้นะ คืนนี้ผมไม่ว่าง” เสียงคุ้นหูของชายหนุ่มตอบเบาๆ

ทำให้คนแอบดูแอบฟังขมวดคิ้วด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อจะได้เห็นและฟังชัดๆ พอเห็นใบหน้าของชายหนุ่มถนัดตา โยธกานิ่วหน้ามองเขาตาขุ่น

“ไอ้พี่หมิงบ้ากามนี่เอง กี่ปีๆ นิสัยไม่เคยเปลี่ยน” หญิงสาวย่นจมูกใส่คนบ้ากาม ด้วยความรังเกียจ

ขณะจะหมุนกายเดินหนี ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นในสมอง ริมฝีปากอิ่มยิ้มเมื่อเกิดอยากแกล้งคนนิสัยเสียขึ้นมา จากที่จะเดินหนีโยธกากลับเดินตรงเข้าไปหาคนทั้งสองทันที แกล้งกระแอมกระไอเสียงดัง

“อะ แฮ่ม มาทำอะไรตรงนี้คะพี่หมิง” เสียงใสถูกดัดให้หวานกว่าปกติ

จางหมิงสะดุ้งรีบเงยหน้าจากทรวงอวบของหญิงสาวในอ้อมแขน ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“หนูยิ้ม”

“ใครกันคะ คุณหมิง”

ลีน่าเอ่ยถามขณะจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ มองคนที่เข้ามาขัดจังหวะด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่ได้อับอายสักนิด

โยธกาตวัดสายตามองสองหนุ่มสาวด้วยแววตาเหยียดหยัน “ถ้าอยากสมสู่กันทำไมไม่ไปโรงแรม หรือว่าไม่จำเป็นเพราะตรงไหนก็ทำได้ ไม่เลือกที่และโอกาส” หญิงสาวเอ่ยขึ้น

จางหมิงร้อนวูบไปทั้งหน้า เมื่อเห็นสายตาดูแคลนของอีกฝ่าย นึกรู้ว่ายายตัวแสบกำลังหาเรื่องเล่นงานเขาอีกแล้ว

“พี่จะทำอะไรกับใครตรงไหน มันทำให้เธอเดือดร้อนหรือไงหนูยิ้ม”

“เดือดร้อนสิคะ เพราะพี่หมิงเป็นคู่หมั้นของหนูยิ้ม เรื่องอะไรหนูยิ้มจะปล่อยให้พี่ มายุ่งกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง”

คนที่อ้างว่าเป็นคู่หมั้น เดินเข้ามากอดแขนของชายหนุ่มไว้ เบียดกายกระแซะร่างหนา พร้อมกับดันหญิงสาวอีกคนให้ถอยห่าง ทำเอาคนถูกแอบอ้างตกตะลึงพูดไม่ออก ไม่นึกว่าจะถูกเล่นงานไม้นี้

“ไม่จริงใช่ไหมคะคุณหมิง ผู้หญิงคนนี้โกหกใช่ไหมคะ” ลีน่าเอ่ยถามเสียงสั่น

“จริงค่ะ ฉันเป็นคู่หมั้นกับพี่หมิงตั้งนานแล้ว ไม่เชื่อก็ไปถามลุงจางหลงกับน้าน้ำอิงดูก็ได้ หรือจะไปถามอาหลี่ไท่หยางอาเขยฉันดูสิคะ” โยธกายกผู้ใหญ่มาอ้างหน้าตาเฉย มองหน้าซีดๆ ของคู่ขาของจางหมิงด้วยแววตาสะใจ

“ฉะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

ลีน่าไม่เสียเวลาไปสอบถามอย่างที่โยธกาบอก ชื่อของสองผู้ยิ่งใหญ่การันตีความจริงโดยไม่ต้องสอบถามให้มากความ หากไม่ใช่เรื่องจริงผู้หญิงคนนี้คงไม่กล้ายกมาอ้าง

จางหมิงไม่ทันจะเอ่ยแก้ ลีน่าก็เดินหนีไปแล้ว เขาเลยหันมาหาคนต้นเรื่องที่กำลังหัวเราะคิกคักอย่างโมโห

“เล่นอะไรแบบนี้ฮะ หนูยิ้ม”

“เสียดายเหรอ คาสโนว่าอย่างคุณคงหาสาวๆ ได้อีกหลายคน จะต้องแคร์อะไร” โยธกายักไหล่ ทำท่าจะเดินหนี เมื่อจัดการป่วนจางหมิงได้สมใจแล้ว

แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้คนที่แกล้งเขาลอยนวลไปง่ายๆ จางหมิงจับข้อมือบางกระชากรั้งร่างงามมาปะทะอก กอดรัดไว้แน่น โยธกาตกใจพยายามดิ้นรนให้หลุดจากปลอกแขนแข็งแกร่งนั้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกรัดแน่นขึ้น

“ปล่อยหนูยิ้มนะไอ้พี่หมิง!”

“ไม่ปล่อย คู่หมั้นจะกอดคู่หมั้น จะเป็นไรไป” จางหมิงแกล้งยกคำอ้างของเธอมาอ้างบ้าง เขายิ้มกริ่มขณะยื่นหน้าไปหาดวงหน้างดงามช้าๆ จ้องตากลมโตของเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel