ตอนที่ 2.
เขาข่มขู่ยายตัวแสบกลับบ้าง ริมฝีปากกระตุกยิ้มร้าย เมื่อเห็นหน้าซีดๆ ของหนูยิ้ม ร่างสูงขยับเข้ามาจับไหล่บางของสาวน้อยไว้ ยื่นหน้ามาจ้องดวงตากลมโตใสแป๋วนั้นอย่างคนเหนือกว่า
“หนูยิ้ม พี่กับอาเทียนเราโตแล้ว มีสิทธิ์มาเที่ยวมาสนุกตามประสาผู้ชาย พ่อของเราสองคนไม่ว่าหรอกเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายเขาทำกัน แต่เรานี่สิเป็นสาวเป็นนาง แอบมาเที่ยวผับเที่ยวกลางคืนแบบนี้ ไม่กลัวถูกผู้ใหญ่ลงโทษบ้างหรือไง”
ดวงตากลมโตของสาวน้อย ระริกไหวก่อนจะแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างคนไม่ยอมแพ้
“ไอ้พี่หมิง ตัวเองนิสัยไม่ดีก็อย่าชวนพี่เทียนทำตามสิ หนูยิ้มจะพาพี่ชายหนูยิ้มกลับบ้าน ตัวเองจะเดือดร้อนอะไรด้วย ฮะ” โยธกาโต้กลับ
“ไม่เดือดร้อน แต่ไม่ชอบใจ” จางหมิงยังคงยิ้มยั่ว เขาหันมาสบตากับเพื่อนสนิท “อาเทียนนายอยากกลับหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ให้บอดี้การ์ดไปส่งยายนี่ที่บ้าน แล้วเราไปต่อกับสาวๆ กัน ปล่อยยายเด็กนี่กลับไปกินนมนอนเหอะ”
หลี่เทียนส่ายหน้า มองสองคู่กัดอย่างระอา “เรากลับดีกว่าหมิง เราไม่อยากให้หนูยิ้มกลับคนเดียว นายจะไปต่อก็ตามสบายนะ”
คำตอบของพี่ชาย ทำให้คนเป็นน้องสาวยิ้มกว้าง สะใจที่พี่ชายยอมกลับบ้านกับตัวเอง โยธกาเชิดหน้าเข้าใส่จางหมิงขณะเดินไปควงแขนหลี่เทียนลากพาออกไปนอกร้าน จางหมิงหมดอารมณ์สนุกเลยตามกลับบ้านบ้าง แต่เรื่องไม่ได้จบลงแค่นั้น ยายหนูยิ้มตัวแสบเอาเรื่องนี้ไปฟ้องม่านไหมกับอิงอร และยังไปเล่าให้น้องมุกฟังอีก หลี่เทียนลอยตัวพ้นผิดไปเพราะอีกฝ่ายยอมรับผิดและหลี่ไท่หยางออกตัวว่าอนุญาตให้ไปเที่ยวเอง ส่วนเขาโดนยายตัวแสบใส่ไคล้จนถูกอิงอรแม่เลี้ยงกับน้องมุกโกรธ
“ยายตัวแสบ สนุกนักใช่ไหม ฮึ” เขาตามไปจัดการกับยายตัวแสบถึงบ้านหลี่
“สนุกโค ตะ ระ เลยล่ะ เป็นไงบ้างไอ้พี่หมิง ถูกน้องมุกกับน้าน้ำอิงเกลียดน่ะ สลดบ้างไหม” หนูยิ้มตัวแสบลอยหน้ายั่วโทสะ ขณะนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านหลี่
ยามนั้นจางหมิงอยากจะบีบคอเล็กๆ ของหนูยิ้มให้หักคามือนัก แสบตั้งแต่เด็กจนโตมายังไม่หาย
“อย่าคิดว่าพี่ไม่กล้าทำอะไรเรานะหนูยิ้ม”
“ไอ้พี่หมิง จะกล้าทำอะไรหนูยิ้มเหรอ ลองทำอะไรหนูยิ้มสิ หนูยิ้มจะฟ้องอาไหม ฟ้องน้าน้ำอิง ฟ้อง อุ๊บ!”
เรียวปากสีแดงสดถูกริมฝีปากร้อนผ่าวกดประทับปิดกั้นคำพูดที่เหลือไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อถูกจู่โจม โดยไม่ทันตั้งตัว จางหมิงยิ้มกริ่มบดริมฝีปากหนักหน่วงขึ้นราวกับต้องการลงโทษยายตัวแสบให้เข็ดหลาบ แต่เมื่อสัมผัสรสชาติหอมหวานของเธอ เขากลับหลงลืมตัวดูดดื่มความหวานล้ำนั้นอย่างกระหายหิว ร่างเล็กถูกกอดรัดไว้แน่นจนเบียดแนบกับลำตัวหนาอ่อนระทวยสิ้นเรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ เมื่อโดนขโมยจูบแรกในชีวิตไป
เพียะ !!!
ฝ่ามือน้อยฟาดเข้าใส่ใบหน้าของจางหมิง หลังจากเขายอมปล่อยยายตัวแสบแล้ว ใบหน้าของโยธกาแดงก่ำดวงตาคลอคลองด้วยหยาดน้ำตา
“หนูยิ้มเกลียด... เกลียดไอ้พี่หมิง เกลียดที่สุดในโลก!” เจ้าตัวแผดเสียงด่าว่าเขาทั้งน้ำตา ก่อนจะหมุนตัววิ่งหนีไป
จางหมิงผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อรู้ตัวว่าเขาไม่เคยลืมยายตัวแสบนามว่าหนูยิ้มได้เลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม หลังจากวันนั้นหนูยิ้มก็ไม่เหยียบย่างมาที่ฮ่องกงอีก เขากับหลี่เทียนถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่หลายปี เมื่อเรียนจบก็กลับมาทำงานให้ครอบครัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหนูยิ้มอีกครั้ง มาเฟียหนุ่มหันมามองน้องสาว ก่อนจะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นน้องมุกนอนหลับตาพริ้มอยู่ น้องมุกคงจะเหนื่อยจากงานที่ร้านจิวเวลรี่เลยเผลอหลับไป ไว้ไปถึงบ้านหลี่เขาค่อยปลุกน้อง จางหมิงหันไปตั้งสมาธิกับการขับรถต่อ
ณ บ้านตระกูลหลี่
งานเลี้ยงวันเกิดขอทายาทคนเดียวของตระกูลหลี่ถูกจัดขึ้นที่สวนสวย ต้นไม้และดอกไม้ถูกประดับประดาด้วยหลอดไฟและริบบิ้นหลากสี แสงไฟกะพริบพราวส่องสว่างงดงาม โต๊ะจัดเลี้ยงถูกวางกลางสนามหญ้า มีอาหารมากมายวางเรียงรายให้ผู้มาร่วมงานได้รับประทานกันอย่างอิ่มเอม เค้กก้อนโตสองก้อนวางอยู่บนโต๊ะเตรียมพร้อมไว้สำหรับเจ้าของวันเกิดทั้งสอง คือหลี่เทียนและโยธกาสองพี่น้อง ที่เกิดวันเดียวกัน
“คุณเทียนมาแล้ว!”
เสียงใสๆ ของหญิงสาวหน้าตาสวยน่ารักคนหนึ่ง ร้องขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในงาน ใบหน้าของเขาหล่อเหลาจนทำให้สาวๆ ตาพร่า ยิ่งดวงตาคมกริบพราวระยับมองมาหัวใจของหญิงสาวหลายคนหล่นลงไปกองแทบเท้าคนมองอย่างสะเทิ้นอาย
วันนี้หลี่ไท่หยางเชิญบรรดาแกนนำของแก๊งค์มังกรและแก๊งหงส์ไฟ รวมถึงนักการเมืองในพรรคที่เขาสนับสนุนพร้อมครอบครัว มาร่วมงานวันเกิดของลูกชายและหลานสาว หัวหน้าแก๊งหงส์ไฟนั่งร่มโต๊ะกับคนในครอบครัวและจางหลงหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟพันธมิตรและญาติสนิทของเขา
“อาเทียนโตมาแล้วดูสง่างามน่าเกรงขาม เหมือนคุณหลี่ตอนหนุ่มๆ เลยนะครับ” จางหลงเอ่ยชม
หลี่ไท่หยางยิ้มรับ “อาหมิงลูกชายนายก็ดูดีไม่แพ้อาเทียนหรอก นี่ยังไม่มาอีกหรือ” เขาถามหาลูกชายของอีกฝ่าย
“อาหมิงไปรับน้องมุกครับคุณหลี่ เดี๋ยวสักครู่คงมาถึง” จางหลงยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นลูกชายกับลูกสาวเดินเข้ามาภายในงาน “พูดถึงก็มาพอดี”
สองพี่น้องกลายเป็นเป้าให้แขกภายในงานชื่นชมอีกราย ความหล่อเหลาของจางหมิงไม่ได้ด้อยกว่าหลี่เทียนเลย ดวงตาของเขาพราวพรายใบหน้าแต้มรอยยิ้มอยู่เป็นนิจ จึงทำให้คนมองรู้สึกหลงไหลได้ง่าย ด้านมุกอาภาผู้เป็นน้องสาวก็สวยน่ารักจนหนุ่มมองตามตาระห้อย ร่างบางสมส่วนอยู่ในชุดราตรีสีครีมแบบเกาะอก เผยให้เห็นเนินไหล่ขาวผ่องนวลเนียน ใบหน้างดงามชวนให้คนมองแทบไม่อยากละสายตา
“สุขสันต์วันเกิดนะอาเทียน” จางหมิงโอบไหล่น้องสาวพาเดินไปหาเจ้าของวันเกิด แล้วส่งกล่องของขวัญให้
“ขอบใจมากอาหมิง” หลี่เทียนพยักหน้า แล้วรับกล่องของขวัญมาส่งให้ คนรับใช้นำไปเก็บ ดวงตาคมกริบทอดมองใบหน้างดงามของน้องสาวเพื่อนสนิทไม่วางตา
“สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่เทียน ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ” มุกอาภาอวยพรพร้อมส่องกล่องของขวัญกล่องเล็กเท่าฝ่ามือ ให้หลี่เทียน
“ขอบใจครับน้องมุก”
เจ้าของวันเกิดยิ้มกว้างรับกล่องนั้นไปสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ส่งให้คนรับใช้ไปเก็บเหมือนของขวัญกล่องอื่น
“ไปที่โต๊ะกันเถอะน้องมุก ผู้ใหญ่รออยู่”
หลี่เทียนจับข้อมือน้อยมาเกาะแขน แล้วพาเดินควงพาเดินไปยังโต๊ะด้านหน้าเวที ปล่อยให้พี่ชายของน้องมุกทำหน้าเซ็งจัด ที่โดนฉกน้องสาวไปต่อหน้า แต่ไม่กล้าโวยวายเพราะอยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย ได้แต่เดินตามหลังมา
“เทียนพาน้องมุกมานั่งตรงนี้ลูก” ม่านไหมบอกลูกชาย ขณะหันไปยิ้มให้อิงอรแม่ของน้องมุก อย่างมีเลศนัย
สองหนุ่มสาวถูกจัดให้นั่งเก้าอี้ติดกัน โดยให้จางหมิงไปนั่งอีกฟากหนึ่ง สองแม่หันไปสบตากับพ่อของลูก หลี่ไท่หยางกับจางหลงยิ้มในหน้าสบตากันด้วยแววตาปลาบปลื้ม ขณะมองลูกชายและลูกสาวของตนที่นั่งเคียงคู่กันอย่างพอใจ
“อาเทียนกับน้องมุกเหมาะสมกัน ราวกับกิ่งทองใบหยก” หลี่ไท่หยาง เอียงหน้ากระซิบคุยกับภรรยา
ม่านไหมพยักหน้ารับเห็นด้วย “เด็กสองคนนี่เหมาะสมกันมาก ถ้าแต่งงานกันไปหลานๆ ของเราคงจะหน้าตาน่ารัก ว่าไหมคะ” คนเป็นแม่วาดฝันถึงอนาคตของลูกไว้ล่วงหน้า
ด้านพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็หันมาคุยกัน “อาหลงคะ ถ้าน้องมุกรู้ว่าคุณตกลงอะไรกับคุณหลี่ ลูกจะยอมรับหรือเปล่าคะ อาหมิงอีกคนแกจะยอมหรือคะ” อิงอรถามสามีเสียงเบาเกรงลูกชายกับลูกสาวจะได้ยิน
