บทที่ 5. รุกและรุก...
ยอดรักยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่อัคราเป็นปกติดังเช่นทุกวันแต่หัวใจของเธอนี่สิ มันไม่ค่อยจะปกตินักเมื่อมันมักหวั่นๆ ไหวๆ ไปกับคนตัวโตที่คอยวนเวียนอยู่ข้างๆ เธอไม่ห่าง ซ้ำยังทำอะไรที่ทำให้เธอหน้าแดงและร้อนผ่าวไปทั้งกายอยู่บ่อยๆ อีกด้วย ยิ่งนับวันเธอก็ยิ่งหวั่นไหวไปกับเขาอย่างง่ายดาย แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับแมวที่คอยหาเรื่องเหน็บแนมจิกกัดเธอตลอดเมื่อมีโอกาส โดยที่เจ้าหล่อนนั้นทำตัวเสมือนว่าเป็นเมียเจ้าของไร่อย่างไร้ยางอาย ซึ่งยอดรักไม่เข้าใจเลยว่าแมวไม่รู้สึกตัวบ้างหรือไรว่าทำเกินหน้าที่ และแสดงออกนอกหน้ากับอาการอยากได้อัคราเป็นสามีจนหางสั่นระริกตามที่เธอมักเปรียบบ่อยๆ
“อยู่บ้านเขานานๆ เนี่ยรู้สึกอะไรบ้างมั้ยยะ” เสียงแหบๆ พูดเหน็บมาในขณะที่ยอดรักกำลังนั่งเลือกแบบผ้าอยู่ที่ระเบียงกว้างหน้าเรือนเด่น
“นี่แมว เธอเองก็ควรเจียมตัวบ้างนะ ว่าตัวเองเป็นใคร ไอ้ฉันเองก็ไม่ได้ว่าจะดีเด่นไปกว่าเธอหรือมีไรที่เหนือกว่ามากมาย แต่สิ่งที่ฉันจะไม่ทำแน่ๆ คือแกว่งปากหาอวัยวะที่ใส่รองเท้าของใคร...”
“นี่แกจะด่าว่าฉันแกว่งปากหาตีน... เหรอ...”
แมวขึ้นเสียงใส่ยอดรักอย่างขัดเคืองคำพูดจากิริยาก็เต็มไปด้วยความหยาบกระด้างบ่งบอกถึงจิตใจที่ไร้การขัดเกลา ยอดรักลุกขึ้นกอดอกมองแมวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ฉันเองก็ลูกกำพร้านะ โตมาก็อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หน้าพ่อแม่ก็ไม่เคยได้เห็นไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีเทือกเถาเหล่ากอมาจากไหน แต่ก็ได้รับการศึกษาขัดเกลาที่ดีและฉันยืนยันได้เลยว่าฉันไม่เคยทำกิริยาทรามๆ แบบนี้ เหมือนเธอที่เอาแต่แสดงออกแต่สิ่งที่เลวทรามบ่งบอกถึงจิตใจที่คับแคบเหมือนควายแก่ในกะลาครอบ... เฮ้อ จริงๆ แล้วฉันไม่น่าเอาควายมาเปรียบกับเธอเลยนะ เพราะควายมันมีโลกทัศน์ที่กว้างกว่า น่ารักกว่าเธอเป็นร้อยๆ เท่า”
ยอดรักร่ายยาวไม่เปิดโอกาสให้แมวได้เอ่ยปากแทรกซึ่งเจ้าหล่อนทำได้เพียงอ้าปากพะงาบๆ ชี้หน้ายอดรักตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ...
“แกๆ อยากโดนตบใช่มั้ย...”
“อ้อ เอะอะๆ ก็ใช้แต่กำลังด้วย... เอาสิยะ ฉันก็มีมือมีเท้านะและบอกเลยว่านางยอดไม่เคยยอมให้ใครตบฟรีๆ ที่สำคัญไม่มีใครกล้ามายุ่งกับฉันด้วย เพราะฉันแรงกว่า... คิดดีๆ ก็แล้วกันหากคิดจะมาเล่นกับฉัน...”
ยอดรักพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากร้าวและริมฝีปากสวยระบายยิ้มน้อยๆ เต็มไปด้วยอาการเชือดเฉือนทั้งยังเดินมาหยุดตรงหน้าแมวจนเกือบประชิดตัวด้วยทำให้แมวที่ทำปากกล้าเมื่อครู่ถอยไปหลายก้าวชนิดที่เรียกว่าเจอของจริงแล้วฟ่อกันเลยทีเดียว...
“ฝากได้ก่อนเถอะแกนังดำ”
“โอ๊ย ไม่รับฝากย่ะขี้เกียจเก็บขยะมารกสมอง อีกอย่างนะเรียกคนอื่นว่าดำเนี่ย เคยส่องกระจกดูหนังหน้าตัวเองบ้างมั้ยคะว่ามันเหมือนมนุษย์น้อยลงไปทุกที...”
“แก...” แมวถึงกับพูดไม่ออกสุดท้ายก็ต้องถอยล่าไปด้วยอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง...
ยอดรักมองตามแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เธอไม่เข้าใจเลยว่าแมวนั้นจงเกลียดจงชังอะไรเธอนักซ้ำยังแสดงอาการหวงอัครา หวงที่นี่ราวกับว่าตนเองเป็นเจ้าของ น่าเกลียดที่สุด... ยอดรักถอนใจหนักๆ อย่างสุดเซ็ง
“คนอะไรน่ารำคาญเป็นที่สุด ดีนะที่นางยอดคนนี้สติยังดีไม่ลดตัวลงไปแลกกับพวกประสาทเสีย...”
หญิงสาวหันกลับมาทำงานต่อแต่แล้วก็ต้องหยุดสิ่งที่คิดเมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าเดินยิ้มร่ามาหา...
“ยอดรักครับ วันนี้ไปขี่ม้าชมไร่กันมั้ย”
อัคราเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มพรายแววตาระยิบระยับจนเธออยากจะหาอะไรมาทิ่มตาเขาเสียด้วยความหมั่นไส้ แต่สิ่งที่ทำได้คือเชิดหน้าใส่เขาอย่างแง่งอน...
“ไม่ไป... ไม่ว่าง ทำงาน..” หญิงสาวตอบห้วนๆ ทั้งยังหน้าแดงก่ำเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน
“อ้าวเหรอ ไหนงานอะไร อ้อ กำลังดูลายผ้า ไม่ต้องดูแล้วเพราะวันนี้พี่เด่นให้ยอดรักหยุดทำงานหนึ่งวันไปขี่ม้าชมไร่กันดีกว่า...”
พูดจบเขาก็เดินมาเก็บข้าวของบนโต๊ะไม้สักตัวงามอย่างรวดเร็วแล้วร้องเรียกแม่บ้านคนหนึ่งมาเอาเอกสารต่างๆ ไปเก็บในห้องทำงานของเขา ยอดรักได้แต่ยืนมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก และกว่าจะตั้งตัวได้เธอก็ถูกเขาจูงแขนลงเรือนไปยังม้าตัวใหญ่งามสง่าสีเทาเข้มทั้งตัวที่ผงกหัวให้เธอเหมือนทักทายและพร้อมจะรับใช้เจ้านายคนสวย...
“นะ นี่ ฉัน เอ่อ รัก...” ยอดรักถึงกับใบ้กินเลยทีเดียวเมื่อเจอลูกเล่นทื่อๆ แบบนี้...
“มันชื่อเจ้าดวงดี เป็นม้าน่ารักนิสัยดี และหล่อมากเหมือนเจ้าของ ใช่มั้ย ดวงดี...”
อัคราพูดกับเธอแล้วก็หันไปพูดกับม้าตัวใหญ่ที่น้องฮี๊อย่างยินดีกับคำชมว่าตนรูปหล่อ ช่างน่าหมั่นไส้ทั้งคนทั้งม้า ยอดรักค้อนทั้งเขาและเจ้าม้าแสนรู้หน้าแดงก่ำ...
“จอมโมเม...”
“ยอมรับโดยดีครับผม... เราไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกดิน รับรองรักจะต้องชอบที่ที่พี่พาไป...”
อัครากล่าวตัดบทแล้วกุมเอวบางมั่นก่อนจะยกร่างแบบบางของเธอขึ้นไปนั่งบนหลังม้าได้อย่างง่ายดายก่อนจะโหนตัวขึ้นไปนั่งซ้อนหลังบางแล้วกระตุ้นให้เจ้าม้าหนุ่มควบเหยาะๆ ไปตามทางมุ่งสู่จุดหมายที่เขาจะพาเธอไปชม...
