บท
ตั้งค่า

บทที่ 5. รุกและรุก... จบตอน

ยอดรักรู้สึกเพลิดเพลินไปกับเขาเมื่อความงดงามและกว้างใหญ่ของไร่แห่งนี้ช่างมีความหลากหลายให้เธอได้สัมผัสจนหลงลืมไปว่าก่อนมาเธอนั้นไม่ค่อยจะเต็มใจมากับเขา แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายที่อยากจะไปตรงนั้นตรงนี้และคอยซักถามเขาเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไร่ราวกับตัวเองจะต้องมาคอยดูแลที่นี่เป็นเจ้าของที่นี่และเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ด้วยกระนั้น...

“ที่รีสอร์ตของรามีอะไรต้องเพิ่มหรือปรับปรุงอีกไหมคะ” อัคราอมยิ้มกับคำถามของเธอซึ่ง คำว่า รีสอร์ตของเรา ที่หลุดออกมาจากปากเธอนั้นมันทำให้หัวใจของคนฟังพองโตได้อย่างไม่น่าเชื่อ...

“ก็คงจะมีการทำประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมนิดหน่อยแล้วก็ดูแลปรับปรุงห้องพักกับการบริการให้ดีที่สุดเพื่อว่าคนที่มาพักจะได้รับการบริการที่ประทับใจและจะได้กลับมาใช้บริการของเราอีก จริงๆ แล้วพี่จะมีกิจกรรมให้กับคนที่มาพักแบบครอบครัวทำร่วมกันด้วยนะ เช่นการตั้งแคมป์ เดินป่า ขี่ม้า ว่ายน้ำหรือให้เยี่ยมชมการทอผ้าของเราอะไรทำนองนี้ มีอีกหลายกิจกรรมที่เรากำลังจะเพิ่มเข้าไปในแพ็กเกตบริการเสริมของเราแล้วแต่ว่าผู้มาพักจะเลือกแบบไหน”

“ดีจังค่ะ แต่รักว่าเราน่าจะเพิ่มการเยี่ยมชมการทอผ้าไหมแล้วก็ให้เขาได้ลองสวมใส่ออกแบบชุดสวยๆ ด้วยตัวเองแล้วก็ทำงานฝีมือจากผ้าไหมหรือวัสดุเหลือใช้เป็นของที่สามารถใช้เป็นของขวัญของฝากด้วยก็ดีนะคะ เช่นว่าให้เย็บประเป๋าใส่เศษเหรียญ ปักผ้าเช็ดหน้า หรือไม่ก็ทำเสื้อตุ๊กตาอะไรแบบนี้ค่ะ น่าจะสนุกและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ตอนนี้บ้านเราหันมาสนใจงานแนวนี้กันเยอะ ที่สำคัญเราก็ได้โปรโมทผ้าไหมของเราด้วยไงคะ แบบที่น้องบีออกแบบลายผ้ามาก็เยอะแยะ สวยเก๋แปลกตานอกจากจะหาซื้อที่ไหนไม่ได้ เมื่อเขาทำข้าวของพวกนี้เองก็จะกลายเป็นว่ามีของชิ้นเดียวที่ไม่ซ้ำใครด้วย ลูกค้าเราก็จะหลากหลายกลุ่มมากขึ้นแต่ไม่เป็นการดึงยอดขายของสินค้าอีกประเภทเพราะลูกค้าเหล่านี้ก็จะเป็นคนละกลุ่มกัน...”

ยอดรักเสนอความคิดและพูดคุยกับเขาอย่างออกรสเป็นกันเองทำให้คนที่นั่งซ้อนหลังฟังเธอพูดขณะควบม้าเดินเหยาะๆ ไปบนทุ่งหญ้าเขียวขจีในยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้อัสดง...

“เป็นความคิดที่ดีมากครับ และพี่เด่นว่าจะดีมากถ้ารักจัดการบริหารมันด้วยตนเอง...” อัคราพูดเข้าทางตนเองๆได้อย่างแนบเนียนพลางหยุดเจ้าดวงดีเมื่อมาถึงจุดหมายที่เขาตั้งใจจะพาเธอมา...

“หยุดทำไมคะ” หญิงสาวหันมาถามเมื่อเขาโหนตัวลงไปก่อนแล้วอุ้มเธอลงจากหลังเจ้าดวงดีอย่างอ่อนโยน

“มาเถอะพี่มีอะไรจะให้ดู...”

“อะไรคะ...” ยอดรักถามเขาอย่างอยากรู้แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มให้เธอบางๆ แล้วคว้ามือบางให้เดินตามเขาไป...

ยอดรักหลุบตามองมือเล็กของตนในอุ้งมือใหญ่กร้านงานของเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ กระแสความร้อนอุ่นอ่อนส่งผ่านมาจากเขาสู่เธอได้อย่างงง่ายดายและมันสามารถทดแทนสิ่งที่ขาดหายในชีวิตที่ไม่เคยมีจนเต็มตื้น... จะเป็นอย่างไรหนอหากชีวิตของเธอในทุกๆ วันมีเขาคอยอยู่เคียงข้างจับจูงมือไปด้วยกันในทุกๆ ที่ ตื่นเช้ามาก็ได้เจอหน้าเขา ก่อนนอนก็ได้เห็นหน้ากัน... ยอดรักอมยิ้มกับตนเองอย่างขัดเขินและเป็นสุขใจ...

“คิดอะไรอยู่...”

เสียงห้าวกระซิบข้างแก้มสีเรื่อทำให้ยอดรักเงยหน้ามองเขาตาโตแก้มแดงจัดกว่าเดิมเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้แค่ลมหายใจ...

“เปล่านี่คะ”

“จริงเหรอ ทำไมหน้าแดงล่ะครับ...”

“นี่คุณอัคราคุณจะถามทำไมคะ คุณบอกว่าจะพารักมาดูอะไรคะ ไหนคะสิ่งที่คุณจะให้ฉันดู...” หญิงสาวแกล้งขึ้นเสียงถลึงตาใส่เขากลบเกลื่อนความรู้สึกขัดเขินที่มี

“หึหึ แค่นี้ก็ต้องขึ้นเสียงใส่ด้วย...” ยอดรักค้อนที่เขาทำเสียงกลั้วหัวเราะเหมือนขบขันเธอ เขาก็คงขันเธอนั่นล่ะ ก็อยู่กันแค่สองคนนี่นะ...

“รักดูสิ พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว...” แล้วอัคราก็เปลี่ยนเรื่องชี้ชวนให้เธอมองไปตามมือใหญ่ของเขา

ยอดรักหันมองตามที่เขาเชิญชวนแล้วก็ต้องตาโตขึ้นอีกครั้งด้วยความตื่นเต้นกับความงดงามตรงหน้า... ท้องฟ้าสีส้มทองเปล่งประกายไปทั้งฟากฟ้าเหนือขุนเขาเขียวขจีสลับซับซ้อนมีน้ำตกสายยาวทอดทอเป็นสายอยู่กลางหุบเขาบรรยากาศอันเงียบสงบเย็นสบายอากาศก็สดชื่นจนเธอสูดหายใจได้เต็มปอดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีมลพิษเข้าสู่ร่างกาย

ดอกไม้ป่าออกดอกชูช่อไสวสลับกับทิวไม้เขียวและทุ่งหญ้าสีน้ำตาลสิ่งกลิ่นหอมรวยรื่น ลมเย็นๆ พัดพาแผ่วพลิ้วหากแต่เธอไม่รู้สึกหนาวแต่อย่างใดแม้ว่าช่วงนี้จะยังอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาวแล้วก็ตาม ต้นกัลปพฤกษ์ที่ขึ้นเรียงรายอยู่ตามเส้นทางทอดสู่ไร่อัคราผลัดใบและออกดอกชมพูดอมส้มตามกิ่งก้านละลานตา... ทำยอดรักเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ตนยืนอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้แสนงามราวกับอยู่ในสวนสวรรค์...

“สวยจัง รักเพิ่งสังเกต...” เธอพูดเหมือนคนละเมอแล้วหมุนกายไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ได้ของถูกใจ ใบหน้างามเปล่งประกายด้วยความสุขสดใสจนคนมองแทบอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ให้นานเท่านาน...

“สวย...”

“ใช่ค่ะ มันสวยมาก วิเศษที่สุดเลยค่ะ...” ยอดรักหลับตาแล้วเงยหน้าขึ้นสูงสูดลมหายใจเขาปอดลึกๆ ริมฝีปากระเรื่อแย้มเย้ายวนอย่างเป็นธรรมชาติแต่มันทำให้คนมองหายใจติดขัดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้... อัคราเดินมาชิดร่างบางดั่งต้องมนต์ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาเกือบชิดดวงหน้านวลของเธอ...

“อุ๊ย อื้มมม...” ยอดรักลืมตาขึ้นเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆ เป่ารดดวงหน้านวลของตนแล้วเธอก็หมดโอกาสที่จะทัดทานจุมพิตเร่าร้อนของเขาที่จู่โจมเข้ามา และท้ายที่สุดเธอก็เต็มใจล่องลอยไปกับจุมพิตอ่อนหวานเย้ายวน...

เรียวปากและลิ้นร้อนสอดไซ้เสาะหาความหวานจากโพรงปากสาวที่ยังคงงุนงงกับจุมพิตเร่าร้อนที่ร่ายมนต์ใส่เธออย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ยอดรักเลื่อนมือขึ้นมาเหมือนจะผลักจะดันอกกว้างของเขาไว้ แต่แล้วเธอกลับเลื่อนมันขึ้นมาโอบรอบลำคอแกร่งหลงเพริดไปกับจุมพิตร้อนแรงของเขาและค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองอย่างเอียงอายในคราแรกแต่ยอดรักก็ทำให้อัคราแทบสะดุดลมหายใจตนเองเมื่อเธอตอบสนองเขาอย่างน่ารักด้วยการเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กโรมรันกับเขา ทั้งยังแอ่นหยัดร่างสาวเข้าหาร่างแกร่งของเขาด้วยความลืมตัว

ทรวงสาวเสียดสีกับแผงอกแกร่งสร้างความซ่านกระสันให้กับคนตัวโตซึ่งเป็นผู้เริ่มจุมพิตร้อนแรงจนเพลิงเสน่หาลุกโชน จนเขาไม่อาจจะควบคุมมันได้ อัคราคว้าเอวบางให้แนบชิดก่อนจะรั้งเธอมาใต้ต้นไม้ ดันร่างบางเอนกายพิงกับโคนต้นกัลปพฤกษ์ที่ออกดอกไสวล้อลมยามเย็น ซึ่งอากาศก็เริ่มเย็นลงเมื่อตะวันดวงโตลับเหลี่ยมภูเขางามลงเรื่อยๆ ความมืดก็โรยตัวเข้ามาครอบคลุมพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่ดีที่ว่าวันนี้เป็นคืนข้างขึ้นทันทีที่ดวงตะวันลับไปพระจันทร์ดวงโตก็ฉายแสงสาดส่องความสว่างนวลตาอย่างลิงโลด...

“พะ พี่เด่น อย่า ค่ะ...” เสียงหวานครางห้ามเขาแผ่วพร่า ตอนนี้แม้กระทั่งจะยืนยอดรักก็แทบจะยืนไม่อยู่ เมื่อความซ่านรับจวนมันทำให้กระดูกของเธอนั้นอ่อนยวบราวของเหลว ทั้งแรงกำลังก็ไม่รู้หนีหายไปไหนจนต้องเกาะเกี่ยวร่างแกร่งของเขาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองล้มกองกับพื้นซึ่งมันทำให้อัคราพอใจมากที่เป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มลูบไล้เนื้อนวลราวไหมชั้นดีอย่างหลงใหลทั้งเลื่อนไล้ลิ้นร้อนมายังเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นเสื้อคอปาดไหล่ตัวสั้นที่เธอสวมใส่อยู่ ซึ่งคอเสื้อมันก็เลื่อนต่ำลงมาเพราะน้ำมือซุกซนของเขาอีกทั้งซิ่นตัวงามที่เธอสวมใส่ก็ถูกรั้งขึ้นสูงจนเรียวขาเสลารับรู้ถึงกระแสลมเย็นๆ ที่ผาดผิวเนื้อนางให้สั่นสะท้าน ยอดรักเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอหนาวเพราะหนาวลมหรือหนาวเพราะสิ่งใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอหายใจติดขัดสูดอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน...

“รักจ๋า พี่เด่นขอนิดเดียว ชื่นใจนิดเดียว...” อัคราครางชิดอกอิ่มที่มีบราลูกไม้สีนวลกางกั้นเมื่อเสื้อตัวสวยถูกรั้งต่ำลงในขณะที่อีกมือของเขาสอดไซ้ลูบไล้สะโพกหนั่นแน่นหยอกเย้าอยู่กับเนินดอกไม้ฉ่ำชื้นของเธออย่างย่ามใจโดยที่ผู้เป็นเจ้าของได้แต่ครางแผ่วหวิวด้วยความรัญจวนใจ

ปากร้อนยังคงสร้างความเสียวกระสันให้กับเธออย่างตั้งใจเขาทั้งไล้ทั้งเลียไปทั่วเนินอกอิ่มและยอดอกที่หดเกร็งสะท้านผ่านชั้นในที่กั้นขวางบางเบาจนมันเปียกชื้นจากฤทธิ์ของปากและลิ้นร้ายทั้งนิ้วแกร่งก็ซุกซนเขี่ยสะกิดยอดเกสรสาวอย่างหยอกเย้าก่อนจะค่อยๆ สอดไซ้เข้าไปหยอกเย้ากลีบดอกไม้ฉ่ำชื้นช้าๆ

“อื้ม จะ เจ็บ...” หญิงสาวครางประท้วงเบาๆ ทั้งรู้สึกเจ็บแปลบน้อยๆ และซ่านเสียวลึกๆ ความรู้สึกพลุ่งพล่านสับสนนี้สร้างความทรมานและคาดหวังให้กับร่างกายสาวจนเธอสับสนไปหมด แต่อัคราก็มีชั้นเชิงที่เหนือกว่า...

ชายหนุ่มตวัดลิ้นไล้เลียยอดอกสาวระรัวในขณะที่นิ้วแกร่งก็สะกิดสอดไซ้เนินนางเพียงภายนอกแผ่วพลิ้วนุ่มนวลอย่างอดใจไม่ไหวกับความเย้ายวนหอมหวานที่ทำให้เขารวดร้าวปวดหนึบไปทั้งกายแกร่งที่อยากจะกระโจนเข้าหาช่องทางคับแคบนุ่มนิ่มอ่อนไหวของอิสตรีเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่สถานที่และเวลามันยังไม่เหมาะสม เขาจึงต้องอดใจไว้แล้วส่งเธอไปเยือนแดนดาวก่อนอย่างงดงาม เมื่อสาวเจ้าสะท้านเกร็งตอดรักนิ้วแกร่งจนอัคราแทบคลั่ง...

“อา... ยอดรักจ๋า ยอดรักของพี่เด่น...”

อัคราครางแหบพร่าชิดแก้มนุ่มแดงก่ำของเธอ ยอดรักหลับตาพริ้มเผยอปากหอบเอาอากาศเข้าร่างกายเหมือนกลัวว่าอากาศจะหมดไปจากโลก และเธอจะไม่มีอากาศหายใจกระนั้นก่อนจะค่อยๆ ลืมตามองหน้าคนตัวโตที่จดจ้องเธอด้วยแววตาพราวระยับ...

“คนบ้า...” หญิงสาวพูดได้เพียงเท่านั้นและคนบ้าก็หัวเราะเบาๆ แล้วจูบแก้มนวลซ้ำๆ เหมือนมันเขี้ยวเสียอย่างนั้น

ยอดรักรู้สึกเหมือนหัวใจพองโตและใจสั่นหวั่นไหวจนเดินไม่เป็นจนเขาต้องอุ้มเธอขึ้นหลังเจ้าดวงดีก่อนจะควบมันเหยาะๆ มุ่งกลับเรือนเด่นอย่างอารมณ์ดี...

แมวเดินไปเดินมาหยุดตรงหน้ายอดรักทั้งยังมองอย่างหาเรื่องก่อนที่เจ้าหล่อนจะเท้าสะเอวขยับกายขวางหน้าไม่ให้ยอดรักเดินผ่านหน้าไปได้ ท่าทางของแมวทำให้ยอดรักที่กำลังจะหาทางหลบหน้าอัคราเพราะยังไม่กล้าสู้หน้าเขาถึงกับเลือดขึ้นหน้า ทั้งกลัวว่าชายหนุ่มจะตามมาทันและเคืองหญิงตรงหน้าที่ดูเหมือนเจ้าหล่อนพยายามหาเรื่องเธอให้ได้

“มีอะไร...” ยอดรักหยุดเดินแล้วกอดอกมองแมวด้วยความเบื่อหน่าย

“เมื่อไหร่พวกแกจะกลับไปเสียที...”

“นึกว่ามีเรื่องอะไร... จะบอกอะไรให้นะ จะได้ออกมาจากกะลาแลนด์เสียที ฟังดีๆ นะจ๊ะ ฉันเนี่ยได้ตำแหน่งรองประธานดีแลนด์ซิลด์ และกำลังจะมาเป็นเมียเจ้าของไร่นี้ ฉันจะต้องกลับไปไหนอีกไม่ทราบ อีกอย่างคำถามนี้คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ถามเลยนะ จะว่าไปเธอน่าจะมาขอให้ฉันเมตตาไม่ไล่เธอออกนะจึงจะถูก...” ยอดรักได้ทีใส่เป็นชุดเพราะรู้ดีว่าแมวนั้นคิดอะไรอยู่

“แก นังดำขี้ตู่ คุณเด่นไม่มีวันเอาแกมาเป็นเมียหรอก”

“อ้าว... เหรอ ถ้าเขาไม่เอาฉันเป็นเมีย เขาก็ไม่เอาเธอเหมือนกันย่ะ คนอย่างคุณเด่นไม่ตาต่ำกินของเน่าของเหม็นหรอกนะจะบอกให้ แค่นี้ใช่มั้ยธุระเธอ ถ้ามีเรื่องจะคุยแค่นี้ก็หลีกไป..”

“ไม่หลีกแล้วแกจะทำไม”

“ไร้การศึกษาและไร้มารยาทอย่างร้ายกาจเคยมีใครบอกเธอมั้ยแมว...”

ยอดรักหงุดหงิดแรงขึ้นและพยายามเก็บกดอารมณ์แรงๆ ไว้ข้างในทั้งยังตั้งสติให้มั่นไม่อยากเสียจริตเพราะคนอย่างแมว... อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง.. เธอบอกตัวเอง...

“แกนังดำ มันจะมากไปแล้วนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครยะ ก็แค่แขกมาอาศัยที่นี่แล้วก็เนียนจะทำตัวเป็นเมียเจ้าของบ้าน...”

แมวขึ้นเสียงด้วยความริษยาโดยลืมไปว่าตนเองนั้นอยู่ในฐานนะอะไร แต่จะว่าไปแมวนั้นไม่เคยมองว่าตนเป็นลูกจ้าง เป็นผู้น้อยหรือเป็นเพียงแม่บ้านเพราะโรคริษยาเข้าตาทำให้เธอแสดงออกมาแต่ละคำพูดและการกระทำที่แย่ๆ จนใครๆ ก็ไม่อยากจะยุ่งหรือถือสาเธอ

ใช่ว่าจะไม่มีใครบอกใครเตือนแต่ทุกครั้งที่มีคนเตือนสติแทนที่แมวจะได้สติ ได้คิด ว่าตนเป็นใครเธอกลับด่าคนคนนั้นกลับว่าอิจฉาริษยาตัวเอง และหาว่าเขาคอยกลั่นแกล้งทำร้ายตนเสียอย่างนั้น จนใครๆ ต่างก็ไม่อยากยุ่งกับเธอที่ดูเหมือนคนวิกลจริตเข้าทุกวัน เพราะแมวมักคิดว่าคนอื่นจะทำร้าย คิดร้ายกับตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครทำอะไรอย่างนั้น แต่แมวสามารถคิดอะไรเป็นตุเป็นตะเป็นเรื่องเป็นราวได้ แต่เป็นเรื่องแย่ๆ เหมือนอย่างเรื่องที่ยอดรักกำลังเจออยู่นี่ล่ะ

“โอ๊ย... แม่คุณ แม่คนหน้าขาว หน้าวอกเหมือนชะนีแก่ ว่าแต่คนอื่นเขาหัดดูเงาหัวตัวเองซะบ้างนะจ๊ะ และฉันก็ขอเตือนว่าให้หลีกไป ฉันรีบและไม่มีเวลาคุยกับพวกวิกลจริต...”

“แกว่าฉันเป็นคนบ้าเหรอ แกนังดำ แก... ฉันจะต้องตบแกให้คว่ำในวันนี้ล่ะ...”

พูดจบแมวก็โผนเข้ามาทั้งเงื้อมือขึ้นจะลงมือตามที่กล่าวแต่ยอดรักนั้นก็เตรียมตัวไว้แล้วจึงก้มหลบอย่างว่องไวแล้วยกเท้าขึ้นถีบบั้นเอวแมวเต็มแรงจนร่างผอมๆ นั้นพุ่งทะยานไปข้างหน้าซึ่งเป็นลำธารน้ำใสแจ๋วและหนาวเหน็บเลยทีเดียวในยามเช้าๆ เช่นนี้...

ตู้มมม... กรี๊ดดดด...

“เล่นน้ำให้สนุกนะจ๊ะ นางแมวฉึกๆ ...” ยอดรักกล่าวเบาๆ ก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วเดินจากไปอย่างอารมณ์ที่ปลอดโปร่ง...

เสียงน้ำกระจายและเสียงกรีดร้องของแมวดังก้องไปทั้งบริเวณทำให้คนงานที่กำลังพากันออกไปทำงาน และเหล่าแม่บ้านที่กำลังทำหน้าที่ของตนต้องเยี่ยมหน้าเข้ามาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ทางเดินริมลำธารซึ่งเป็นทางเดินเชื่อมไปยังตึกสำนักงานดีแลนด์ซิลด์ก็พบเพียงแมวที่ดีดดิ้นตีน้ำกระจายอยู่อย่างเดือดดาล...

“นังดำ นังมารร้าย แกทำร้ายฉัน ฉันจะฟ้องคุณเด่น กรี๊ดดด ฮือๆๆ”

แมวโวยวายอย่างไม่อายใคร ทำให้ป้าแก้วซึ่งก็ออกมาดูกับเขาด้วยส่ายหน้าอย่างระอา พอเข้าใจเหตุการณ์ได้ไม่ยาก นางหวังว่าแมวคงคิดได้ในเร็ววัน แต่นางก็ไม่รู้จะสอนสั่งหรือดึงสติแมวกลับมาได้อย่างไรเพราะแมวนั้นไม่เคยฟังใครและไม่เคยฟังนางเลยแม้แต่น้อย...

“หวังว่าแกจะคิดได้และคืนสติให้ได้เร็วๆ นะนังแมวเอ๊ย...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel