บทที่ 2. เธอคือยอดรัก...
ยอดรักรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟฟ้านับแสนโวลต์ช็อตกระชากร่างกายจนชาแล้วยังถูกเหวี่ยงกระเด็นไปปะทะกำแพงหินแกร่งแล้วร่วงลงมานอนแอ้งแม้งบนพื้น เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่หัวใจเต้นแรงเหมือนวิ่งมาราธอนมาไกลแสนไกลกระนั้นเมื่อหันมาสบตากับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งหน้าตารกไปด้วยหนวดเคราและผมเผ้าที่ยาวประบ่ากว้างนั้นก็ยุ่งเหยิง...
“นาย...” ยอดรักตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะเจอเขาคนนั้นอีกครั้ง... คนที่ขโมยจูบเธอ... อีตาบ้านี่มาที่นี่ได้อย่างไร...
“เธอ...” ไม่ใช่แค่ยอดรักตกตะลึงเมื่อเห็นหน้ากัน อัคราเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเป็นเธอ...
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง / นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...”
เป็นคำถามที่ออกจากปากของทั้งคู่พร้อมกับต่างชี้หน้ากันด้วยความคาดไม่ถึง ยอดรักเดินมาเท้าสะเอวตรงหน้าเขาแล้วปัดนิ้วแกร่งที่ชี้มายังเธอแรงๆ อย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าสวยเฉี่ยวบึ้งตึงมองเขาตาเขียวปัด
“ฉันถามนายก่อนนะนายมหาโจรบ้ากาม..”
“ฉันถามเธอก่อนต่างหากยายแห้งปากเสีย”
หนุ่มสาวต่างไม่มีใครยอมใครทั้งที่ต่างก็หัวใจเต้นรัวกับการได้พบหน้ากันอีกครั้งหลังจากเมื่อปีที่แล้วพวกเขาได้เจอกันมาแล้วและก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งเขาและเธอลืมกันและกันไม่ลง...
“อ๊ายยย นายว่าใครยายแห้งยะ”
“ก็ว่าเธอไง ยายแห้ง แห้งเป็นไม้กระดานด้วย...” อัคราคักคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายียวนที่สุดในสายตาของยอดรักที่มองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เลือดในกายสาวเดือดพล่านเมื่อเจอคำสบประมาทเช่นนี้ เธอนี่นะได้ชื่อว่าเป็นนางแบบสาวผิวน้ำผึ้งตาคมเซ็กซี่มาหลายสมัยจากนิตยสารต่างๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย เขากล้าดีอย่างไรถึงได้มาว่าเธอแห้งเป็นไม้กระดาน มันจะหยามกันมากไปแล้ว...
“นายหน้าโหดปากเสีย กล้าดียังไงฮ้า มาว่านางแบบสุดฮอตอย่างฉันว่าแห้งเป็นไม้กระดานน่ะฮ้า”
“เหอะ... นางแบบที่อกหักรักคุดเป็นมือที่สามให้ครอบครัวเขาร้าวฉานจนต้องหลบหน้าสังคมมาเลียแผลใจที่ไร่ฉันล่ะไม่ว่า...”
“อะไรนะ ไร่ของนาย... นี่หมายความว่า นาย นายคือ...” ยอดรักชี้หน้าเขาตาโตดูน่าขัน อัคราไม่พูดอะไรได้แต่เลิกคิ้วมองเธอด้วยมาดของผู้ที่เหนือกว่า...
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับคุณผู้หญิง ผู้ชายคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณคนนี้คือ อัครา ดีแลนด์ หรือคุณเด่นนายใหญ่ของไร่อัครา... ชัดมั้ย... ยอดรัก สลักจิตอารี... นางแบบสาวผู้ฉาวโฉ่...”
อัครากล่าวเน้นย้ำด้วยอยากจะกวนประสาทยั่วให้เธอโกรธ ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ยอดรักโกรธจนเรียกว่าสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเลยทีเดียว ใบหน้าเรียวได้รูปของเธอแดงก่ำดวงตาเฉี่ยวคมวาววับราวแม่เสือสาว ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มที่เขาเคยลิ้มรสมันมาแล้วว่าหวานแค่ไหนสั่นระริก ซึ่งเจ้าหล่อนคงพยายามควบคุมอารมณ์ของตนอย่างที่สุด...
“นาย...”
“อ้าวคุณเด่นกลับมาตอนไหนคะเนี่ย ป้าไม่ได้ยินเสียงรถเลย...”
เสียงของป้าแก้วดังขึ้นทำให้หนุ่มสาวที่กำลังจะปะทะคารมกันหันไปมองนางพร้อมกัน หญิงชรามองหนุ่มสาวงงๆ และแปลกใจที่เห็นท่าทางเหมือนทั้งมีท่าทางเหมือนเด็กทะเลาะกันมากกว่า...
“ผมสักครู่แล้วครับ พอดีให้ไอ้พลมันมาส่งหน้าเรือนแล้วให้มันกลับบ้านเลยครับ วันนี้ไร่เรามีม้าคลอดใหม่สองตัวเดี๋ยวสักหน่อยผมก็ต้องออกไปอีกผมแค่แวะมาทานข้าวน่ะครับป้า”
“เป็นข่าวดีจริงๆ เลยนะคะ มาเหนื่อยๆ คงหิวแย่ไปค่ะเดี๋ยวป้าจะหาอะไรให้ทาน”
“ป้าแก้วไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมไปหาทานเองในครัวดีกว่าป้าไปพักผ่อนเถอะนี่ก็ดึกแล้ว...”
ชายหนุ่มพูดอย่างอ่อนโยนกับป้าแก้ว ท่าทางของเขาดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่แข็งกระด้างดิบเถื่อนด้วยเสื้อผ้าหน้าผมที่หากใครไม่ได้รู้จักเขามาก่อนก็คงคิดว่าเขาเป็นแรงงานต่างด้าวยากไร้สกปรกมอมแมมอย่างแน่แท้
ก็ดูเถอะ เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนด้วยทั้งดินโคลนและเลือดแห้งกรังทั้งผมเผ้าก็รุงรังหนวดเคราก็ยาวเฟิ้มจนไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร ยอดรักกอดอกมองเขาอย่างพิจารณา หัวใจก็เต้นตึกๆ ไปด้วยอย่างน่าโมโห...
“อ้อ... ป้าลืมไปค่ะ นี่คือคุณยอดรักแขกที่คุณเด่นบอกว่าจะมาพักไร่เรา คุณเด่นคงได้รู้จักเธอแล้วสินะคะ”
ป้าแก้วทำท่านึกได้หันมากล่าวถึงยอดรักที่ยืนกอดอกทำท่าเหมือนไม่สนใจเขาแต่ความจริงเธอกำลังลอบพิจารณาร่างสูงใหญ่ของเจ้าของไร่อัคราอย่างละเอียดลออต่างหาก...
“ครับ ผมกับเธอรู้จักกันมาก่อนหน้านี้อีก”
“จริงเหรอคะเนี่ย แหม คุณรักไม่เห็นบอกเลยค่ะว่ารู้จักกับคุณเด่นของป้ามาก่อน”
“ก็ เอ่อ... ก็รักไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหนนี่คะป้าแก้ว อีกอย่างรักมาที่นี่เพราะน้องบีชวนค่ะ” หญิงสาวตอบพลางถลึงตาใส่เขา
“ดีจังค่ะ คนกันเองทั้งนั้น ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวไปพักผ่อนเลยนะคะคุณเด่น คุณรัก”
“ค่ะป้า / ครับป้า” สองหนุ่มสาวพูดขึ้นพร้อมกันจนผู้สูงวัยยิ้มบางๆ ด้วยความขบขัน และแอบคาดหวังว่ายอดรักจะมาเป็นผู้ที่ทำให้ไร่แห่งนี้มีสีสันมากขึ้น...
“อ้าวนี่เธอจะรีบไปไหนล่ะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” อัคราร้องเรียกหญิงสาวที่สะบัดหน้าเดินฉับๆ หมายจะกลับเข้าห้องของตนเมื่อลับหลังป้าแก้ว หญิงสาวหันมามองเขาตาเขียว
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย และพรุ่งนี้ฉันจะก็กลับ”
“โธ่เอ๊ย นึกว่าจะแน่กว่านี้..” อัคราทำเสียงเยาะๆ
“นายว่าอะไรเมื่อกี้”
“เปล๊า...” อัคราทำเสียงสูงแล้วเดินเลี่ยงไปยังห้องครัวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซึ่งยอดรักไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะเธอมัวหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับท่าทางยียวนของอีกฝ่ายจนไม่ทันสังเกต
“นี่นาย อย่าเดินหนีฉันนะ หยุดนะ...”
“ไม่ได้เดินหนี แต่หิวข้าวจะหาอะไรกิน นี่เธอหลบหน่อยสิเกะกะจริงๆ จะไปไหนก็ไปไป๊...”
เขาพูดขณะหยิบจานออกมาวางบนโต๊ะรับประทานอาหารในห้องครัวอย่างคล่องแคล่วไม่สนใจคนตัวเล็กกว่าที่ยืนขวางแกะในขณะที่อีกคนเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ก็เธอเคยเข้าครัวเสียที่ไหนกันล่ะ
“นึกว่าอยากจะมาอยู่ใกล้นักรึไง...” ยอดรักบ่นอุบอิบแต่ก็หลบฉากออกมายืนห่างๆ มองคนตัวโตที่ทำให้ห้องครัวกว้างๆ ดูเล็กลงไปถนัดใจ ร่างสูงนำอาหารซึ่งอยู่ในตู้กับข้าวมาอุ่นบนเตาแก๊สด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย ยอดรักหน้างอหนักเข้าไปอีกเมื่อเขาไม่มีทีท่าจะสนใจเธอ
“นี่นาย คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“ไหนเมื่อกี้ว่าไม่มีอะไรจะคุยกับฉันไง...” เขาถามขณะเทแกงเขียวหวานที่อุ่นแล้วราดข้าวสวยในจานง่ายๆ และนั่งรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย...
“เมื่อกี้น่ายว่าอะไรฉัน นายว่าฉันป๊อดเหรอ”
“เรื่องอะไร ฉันไม่ได้พูดเลย”
“นายพูดว่า นึกว่าจะแน่กว่านี้ไง..” อัคราเงยหน้ามองเธออย่างขบขัน นัยน์ตาคมพราวพรายเหมือนกำลังหัวเราะเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ชวนเขาทะเลาะอย่างไรอย่างนั้น ยอดรักหน้าแดงด้วยความขุ่นเคือง...
“หูดีนี่ แล้วไง ฉันก็หมายความตามนั้น จะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ กลับไปนอนพักผ่อนเสียสิเดี๋ยวตื่นสายนะ” เจ้าของบ้านพูดเหมือนไล่เธอกรายๆ ยิ่งทำให้ยอดรักอยากเอาชนะ
“ทำไมฉันจะต้องรีบกลับด้วย ในเมื่อคุณแม่ดาราให้ฉันมาพักผ่อนที่นี่ เป็นแขกของที่นี่ ลูกชายท่านควรจะต้อนรับฉันอย่างดีมากกว่า” หญิงสาวเชิดหน้าตอบอย่างมาดมั่น ทั้งยังเรียกคุณดาราว่า คุณแม่ดารา อย่างสนิทสนมเสียด้วยทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ...
“โห.. นี่เธอเรียกคุณแม่ฉันว่า คุณแม่ดาราเลยเหรอ อะไรจะขนาดนั้น เส้นใหญ่ใช้ได้นี่ แต่เธอลืมไปรึเปล่า ว่าที่นี่ไร่ของฉัน ฉันจะให้ใครพักหรือไม่ให้ใครพักก็ได้”
“ก็ลองดูสิ หากนายไล่ฉันกลับ ฉันจะฟ้องคุณแม่ดารา แล้วนายจะเสียใจหากกล้าลองดีกับฉัน” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจเพราะคุณดารานั้นเอ็นดูเธอมากและท่านกับเธอก็ไปมาหาสู่กันด้วยความสนิทสนมอีกด้วย
“แหม... รู้แล้วว่าล่ะว่าเส้นใหญ่ แล้วไง...” ชายหนุ่มแอบซ่อนความยินดีไว้มิดชิด อยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าเขานี่ล่ะอยู่ภายใต้แผนการให้เธอมาที่นี่...
“ก็ไม่แล้วไง ฉันจะบอกแค่นี้ล่ะ” พูดจบเธอก็เดินออกไปหน้าตาเฉยทำให้คนตัวโตมองตามอย่างไม่เข้าใจแกมหมั่นไส้ท่าเริดๆ เชิดๆ ของเจ้าหล่อนนัก...
“หึ คุณแม่นะคุณแม่... แต่ก็ขอบคุณนะครับรับรองคุณแม่ไม่ผิดหวัง...” อัครายิ้มกว้างกับตนเองรู้สึกอิ่มเอมไปทั้งใจจนความหิวข้าวเมื่อครู่แทบจะติดปีกบิน...
