บทที่ 2. เธอคือยอดรัก...จบตอน
“บ้าที่สุดเลย ทำไมโลกมันกลมขนาดนี้นะ...” ยอดรักล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มแล้วบ่นกับตัวเองทั้งยังหน้าแดงจัดด้วยความขัดเขินเมื่อนึกถึงคนตัวโตเจ้าของไร่แห่งนี้
นายหน้าโหดหื่นกาม... ผู้ชายที่ขโมยจูบเธออย่างอุกอาจเร่าร้อนเมื่อปีก่อนแวบเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ และทั้งภาพและสัมผัสที่ติดตรึงตราก็เหมือนว่ามันเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้...
เมื่อต้นปีที่แล้วหลังจากที่เธอเดินแบบให้กับ ดีแลนด์ซิลด์ เสร็จสิ้นแล้วระหว่างที่เธอกำลังรออาทิตย์ซึ่งขณะนั้นเธอกับเขาเริ่มคบหากันใหม่ๆ มารับกลับ ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปรอคนรักที่ห้องรับรองของบริษัทบังเอิญว่าเดินชนกับผู้ชายคนหนึ่งจนเธอล้มกระเด็นราวกับชนกับยักปักหลั่นอย่างไรอย่างนั้น ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาขอโทษและช่วยเหลือเธอให้ไปถึงห้องรับรองด้วยการอุ้มเธอไปส่ง แต่เมื่อเธอขอบคุณเขา เขากลับไม่รับคำขอบคุณจากเธอแต่เขากลับ จูบ เธอแทนคำขอบคุณโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว... จูบแรกของเธอ จูบที่แสนเร่าร้อนตรึงตรา...
“บ้าจริง...” หญิงสาวบ่นอุบอิบกับตัวเองหน้าแดงจัดแล้วหลับตาลง มือเรียวยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตนเองอย่างเผลอไผล ความร้อนแปลกๆ ก็ไหลบ่าแล่นพล่านไปทั้งกาย
เธอยังรู้สึกถึงริมฝีปากหยักร้อนผ่าวของเขาที่ทาบลงมาบนกลีบปากบางเรียวลิ้นร้อนจัดสอดไซ้ดูดดื่มรัดรึงลิ้นเล็กของเธออย่างสนิทสนม... และเธอก็รู้สึกเหมือนแข้งขาอ่อนแรงระทดระทวยทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หัวใจสาวก็เต้นแรง ความหวามไหวก็คอยแต่รุมเร้าจนเธอต้องนึกโกรธเคืองเขาเรื่อยมา...
แต่ยอดรักไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาคืออัคราคือลูกชายคนโตของคุณดารา เธอเคยได้ยินเพียงชื่อของเขาและได้พบเจอเพียงน้องชายทั้งสองของเขา ทั้งอัคนีและอัครวัฒน์ สองหนุ่มที่หล่อเหลาเจ้าเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของสาวๆ ทั่วประเทศ
ทำไมเธอไม่เอะใจนะ... ยอดรักยังคงนึกก่อนด่าตัวเองที่ดูโง่เขลาอย่างไม่น่าจะเป็น... ก็จะให้เอะใจได้อย่างไร ในเมื่อทุกครั้งที่เธอเจอกับเขาสภาพเขาก็คือชายหนุ่มหนวดเครารุงรังแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าปอนๆ รูปร่างหน้าตาท่าทางดิบเถื่อนเหมือนคนงานต่างด้าวอย่างไรอย่างนั้น ไม่เหมือนทายาทนักธุรกิจพันล้านเลยสักนิด เธอเองก็ไม่ได้มองคนเพียงผิวเผินสักเท่าไหร่และไม่เคยดูถูกใคร หนำซ้ำเขาก็ทำให้เธอจดจำในแบบที่ไม่น่าประทับใจด้วย ใครจะคิดว่าเขาคืออัครา ดีแลนด์ ล่ะ...
แต่เอ๊ะ เธอไม่ประทับใจตอนเจอเขาจริงๆ น่ะเหรอ แล้วทำไมเธอถึงคิดถึงแต่นายหน้าโหดหื่นกาม อยู่ตลอดเวลาล่ะ... อ๊ายยย นี่คงไม่ได้หมายความว่า...
“ไม่จริงๆ ไม่ใช่ๆ ยายรัก เธอนี่ไร้สาระไปใหญ่แล้วนะ...”
ยอดรักหยุดความคิดของตัวเองด้วยความขัดเขิน ใบหน้าสวยเฉี่ยวร้อนผ่าวเหมือนโดนแดดร้อนๆ แผดเผาทั้งที่ในเวลานี้อากาศยามค่ำคืนในไร่อันสงบเงียบนั้นเย็นสบายกำลังดี สุดท้ายยอดรักก็พยายามข่มตาหลับด้วยความรู้สึกร้อนๆ รุ่มๆ หัวใจก็เต้นกระหน่ำราวสาวแรกรุ่นอยู่ทั้งคืน...
ในขณะเดียวกันนั้นยอดรักไม่รู้เลยว่าคนที่เธอกำลังหวนนึกถึงอยู่นั้นก็มีอาการเดียวกันกับตนไม่ผิดเพี้ยน และเขาก็กำลังวางแผนบางอย่างอยู่ในใจ และแผนการนี้มันเกี่ยวข้องกับเธอโดยตรงเลยทีเดียว
กุ้งเต้นมองเพื่อนรักที่นั่งหาวหวอดๆ อยู่หลายครั้งหลายคราทั้งหน้าตาก็เหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนด้วยความแปลกใจกะเทยร่างใหญ่ใจสาวน้อยจึงอดถามเพื่อนรักไม่ได้
“นี่แกไม่หลับไม่นอนรึยังไงนังยอดถึงได้นั่งหาวสามหาวสี่หาวอยู่เนี่ย...”
“อื้ม... นอนไม่ค่อยหลับ มันแปลกที่น่ะ”
“อย่างแกนี่นะ นอนไม่หลับเพราะแปลกที่นังยอด อย่ามาแถกะฉัน บอกมาตรงๆ เสียดีๆ” กุ้งเต้นเหลือบตามองอย่างรู้ทันจนยอดรักต้องค้อนคนแสนรู้ประหลับประเหลือก...
“แสนรู้ รู้ดี รู้ไปหมดทุกเรื่อง...”
“แน่นอน... บอกมาเลยแกอย่าแถ...” กุ้งเต้นยืดอกรับแบบแมนๆ ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
“แกรู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่”
“แน่นอนก็ต้องรู้สิ คุณอัคราไง”
“แล้วรู้มั้ยว่าเขาคือใคร...”
“อ้าว นังนี่... ถามยังไงวะเนี่ยกะเทยงง..” กุ้งเต้นวางถ้วยกาแฟลงแล้วหันมาจ้องหน้าเพื่อนรักงงๆ ก่อนจะค่อยๆ หันไปตามสายตาของเพื่อนรักซึ่งสื่อสัญญาณบางอย่างว่ากำลังมองอะไรบางอย่างอยู่...
“ตายห่... กะเทยหัวใจจะวาย... จุดไต้ตำตอ”
กุ้งเต้นยกมือทาบอกเมื่อเห็นคนที่เดินมายังพวกเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่เขาก็ทักทายพวกเธออย่างสุภาพขัดกับรูปรักดิบเถื่อนหนวดเคราเฟิ้มของเขา...
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณกุ้งเต้น คุณยอดรัก...” อัคราเน้นน้ำหนักเสียงที่คนบางคนที่ทำทีเมินหน้าหนีเขา
“อะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเด่น... เอ่อ... คือ...”
“ผมยินดีต้อนรับคุณทั้งสองคนและดีใจมากนะครับที่คุณมาเป็นแขกของที่นี่...” อัครากล่าวอย่างจริงใจทำให้กุ้งเต้นลดความเครียดลงได้บ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด
ก็แหม... จะไม่ให้เธอเครียดได้อย่างในเมื่อก่อนหน้านี้เธอเคยเจอเขามาก่อน และตอนเจอกันคราวก่อนนั้นเธอกับยอดรักก็แผลงฤทธิ์ใส่เขาไว้เสียเยอะทีเดียว เพราะคิดว่าเขาจะมาทำมิดีมิร้ายเพื่อนรักในวันที่ยอดรักกำลังหลบหน้านักข่าวซึ่งมาตามทำข่าวการเลิกราระหว่างยอดรักกับแฟนหนุ่ม ซึ่งกุ้งเต้นคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในคนงานของทีมงานจัดเตรียมเวทีเดินแบบของบริษัทดีแลนด์ซิลด์ ที่มีทีมงานจัดเตรียมเตรียมสถานที่ในงานต่างๆ ของบริษัทเอง ทั้งเวทีเดินแบบหรือบู้ทจัดงานพอีเว้นต์ต่างๆ ซึ่งเธอคิดว่าอัคราเป็นพนักงานที่ไม่มีมารยาทเข้ามาวุ่นวายในห้องรับรองซึ่งยอดรักเข้ามานั่งสงบสติอารมณ์จากความเครียดที่เจออยู่
วันนั้นกุ้งเต้นจำได้ดีว่าด่าเขาไว้เสียเยอะและด้วยยอดรักกำลังเสียใจทำให้หญิงสาวอาละวาดเอากับหนุ่มหน้ารกคนนี้อย่างชนิดที่ว่าทั้งเหวี่ยงทั้งวีน โดยที่อัคราได้แต่ยืนนิ่งให้ยอดรักสาดอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปดีๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นแม้แต่ตัวกุ้งเต้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอัครายืนเฉยให้ยอดรักสาดอารมณ์ใส่อย่างรุนแรง... แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเธอได้คำตอบคร่าวๆ แล้ว ตามเซ้นส์ของกะเทยที่ไม่เคยผิดพลาด...
“ค่ะ เราก็ดีใจมากค่ะที่ได้มาเป็นแขกของที่นี่ ใช่ไหมนางยอด”
“อื้ม...” ยอดรักเออออไปกับเพื่อนรักโดยไม่มองหน้าผู้มาใหม่ ในขณะที่แมวหัวหน้าแม่บ้านตามที่ตัวเธอเองได้กล่าวอ้างรีบเดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้เจ้านายหนุ่มอย่างเอาอกเอาใจ
“กาแฟค่ะนายใหญ่... จะทานมื้อเช้าที่นี่หรือข้างในดีคะ แต่แคท ว่าเข้าไปทานข้างในดีกว่านะคะ วันนี้อากาศตรงนี้ท่าทางจะไม่ค่อยดี...”
คำพูดของแมวทำให้ยอดรักคอแข็งจากที่มองแมกไม้ไปเรื่อยเปื่อยหญิงสาวก็หันมามองหน้าแม่บ้านสาวตาเขียวปัด แต่ไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ออกมา ยอดรักสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ กุ้งเต้นค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนรักแต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เพราะทะเลยามสงบนั้นมันน่ากลัวว่าทะเลที่มีคลื่นลม...
“พี่เด่นทานมื้อเช้ากับเราสิคะ รักคิดว่าเช้านี้เหมาะมากที่เราจะทานอาหารเช้าร่วมกันแบบสนิทสนม โดยไม่มีแม่บ้านหรือใครมายุ่งกับการทานมื้อเช้าของเรา มาค่ะ เดี๋ยวรักตักข้าวต้มให้...”
ยอดรักหันมายิ้มหวานให้กับอัคราซึ่งทำหน้าเหมือนกำลังจะสำลักกาแฟ ส่วนกุ้งเต้นหันหน้าหนีซ่อนหัวเราะแทบไม่มิดเมื่อเห็นหน้าขาวๆ ด้วยแป้งรองพื้นหนาเตอะของแม่บ้านสาวที่พยายามจะทำตัวเป็นเมียเจ้าของไร่นั้นเหรอหราด้วยไม่ทันตั้งตัวกับมุกของยอดรัก และลูกเล่นที่เหนือกว่าของนางแบบสาวที่ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ อัคราทำให้แมวซึ่งยืนอยู่ข้างๆ อัคราต้องถอยร่นออกไปโดยปริยาย ทั้งยอดรักยังตักข้าวต้มใส่ชามให้ชายหนุ่มอย่างเอาอกเอาใจเหมือนสนิทสนมกันมานาน...
“เอ่อ นายใหญ่คะ แมวว่า...”
“อุ้ย... รักรบกวนนิดค่ะคุณแม่บ้านขา... ช่วยทำน้ำส้มคั้นให้รักหน่อยสิคะ รักไม่ทานหวานนะคะไม่ต้องใส่น้ำตาลมานะคะ พี่เด่นอยากทานของหวานอะไรไหมคะ” ยอดรักเอียงคอยิ้มให้เขาอย่างน่ารักอัคราซ่อนยิ้มในหน้าเล่นตามน้ำไป...
“ครับ พี่อยากทานบัวลอยไข่หวาน ยอดรักเองก็ชอบทานไม่ใช่เหรอจ๊ะ เอาเป็นว่าแมวช่วยบอกป้าแก้วให้หน่อยนะว่าวันนี้ฉันกับคุณรักอยากทานบัวลอยไข่หวาน..."
“ค่ะ...” แม่บ้านสาวกระแทกเสียงรับคำก่อนจะเดินลงส้นเท้าออกไปอย่างฉุนเฉียวแบบที่เก็บอารมณ์ไม่มิด
“ชิส์ คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ...”
ยอดรักพึมพำเบาๆ กับตนเองพลางย่นจมูกตามหลังคนที่เดินสะบัดก้นออกไปอย่างสะใจแล้วคิดจะลุกไปนั่งที่ของตัวเอง แต่แล้วเธอก็รู้สึกว่ามีอะไรร้อนๆ แตะที่เอวบางของตนหญิงสาวจึงก้มมองแล้วก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นมือหนาคล้ำแดดของอัคราเกี่ยวมันไว้ทั้งใบหน้าที่รกด้วยหนวดเครานั้นโน้มมาใกล้ใบหูบางแล้วกระซิบเบาๆ...
“ทานข้าวต้มกับพี่ก่อนสิครับ ยอดรัก...”
ยอดรักนิ่งตัวแข็งใบหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าแม้แต่จะหันมามองหน้าเขาเพราะกลัวว่าแก้มนุ่มของตนจะชนกับจมูกโด่งคมของเขาทั้งยังกลัวว่าเขาจะเห็นแววไหวในดวงตางามของตน
“อุ้ย... ฉันอิ่มพอดีเลยค่ะคุณเด่นคงไม่ได้นั่งทานข้าวเป็นเพื่อน ยังไงขอตัวเดินชมวิวแถวๆ นี้สักหน่อยนะคะ ฉันไปก่อนนะนังยอด...”
กุ้งเต้นทำเสียงกระแอมเบาๆ ในลำคอก่อนจะลุกขึ้นเดินฉับๆ ออกไปทำเป็นไม่เห็นแววตาขึงขังของเพื่อนรักที่มองตามทั้งยังทำปากขมุบขมิบว่าให้เธออยู่ก่อน...
“ยี้... นังกุ้งเต้น ทิ้งฉันเฉยเลย...” ยอดรักต่อว่าเพื่อนรักเบาๆ
“ทานข้าวต้มกันดีกว่าครับยอดรัก...”
อัคราบอกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คำว่า ยอดรัก ที่ออกจากปากเขาเหมือนว่าเขาไม่ได้เรียกชื่อเธอแต่เป็นการเรียกด้วยสรรพนามที่มีความหมายว่าเธอเป็น ยอดรักของเขา กระนั้น...
“เอ... หรือว่าจะให้พี่เด่นป้อน”
“ไม่ต้องย่ะ.. กินของตัวเองไปเลย...”
หญิงสาวหน้าแดงกับคำพูดและการกระทำของเขาที่ทำท่าว่าจะป้อนจริงๆ เมื่อเจอมุกทื่อๆ แบบนี้สาวมั่นอย่างเธอก็ไปไม่เป็นเช่นกัน
ก็ใครจะคิดล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้... ยอดรักตักข้าวต้มเข้าปากด้วยความหวั่นไหวตื่นเต้นราวสาวน้อยแรกผลิ...
