พี่ชาย2
บางครั้งเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่บางทีเขาก็ใช้ถ้อยคำเชือดเฉือนหัวใจของเมรี สุดท้ายคนที่เจ็บปวดที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวเธอเอง
Rrrr!!! เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเมรีดังขึ้น ซึ่งทำให้หญิงสาวดันคนตัวโตออกให้พ้น ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปกดรับสาย
“ฮัลโหลค่ะแม่”
‘หนูกลับหรือยังลูก ถึงบ้านหรือยัง’
“ค่ะแม่”
‘ใครไปส่งลูกสาวแม่นะ’ โมราแอบแซวลูกสาวเบา ๆ เพราะคิดว่านายแพทย์หนุ่มคงกุมหัวใจเมรีได้สำเร็จ ตั้งแต่โตเป็นสาวเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน คนแรกที่เทียวรับส่งเมรีมีเพียงนายแพทย์ชินดนัยเท่านั้น
“ก็หมอชินนั่นละค่ะแม่ แค่นี้นะคะเมจะเข้านอนแล้ว” คำตอบนี้ทำให้โมรามารดารของเธอยิ้มกว้างพอใจกับว่าที่ลูกเขย
‘กู๊ดไนท์จ้าสาวน้อย’
เมื่อวางสายจากมารดา สิ่งที่เมรีคาดไม่ถึงคือแววตาของรามเกียรติ์ เขามองมาที่เธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอทำอะไรผิดต่อเขานักหนา
“พี่ราม...” หญิงสาวถึงกับขยับตัวออกห่าง น้ำเสียงสั่นเครือบ่งบอกถึงความหวาดกลัว เธอรู้ดีว่าเขาสามารถทำให้ชีวิตของเธอดำดิ่งสู่หายนะได้ไม่ยาก
“ทำไม... กลัวเหรอ หืม” มือของเขาลูบลงมายังใบหน้าของหญิงสาวเบา ๆ พลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยผมทัดหูเมรี แล้วเชยปลายคางเธอหันมาสบสาคม
“พี่คิดจะทำอะไร”
“ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองในยามวิกาลแบบนี้เขาทำอะไรกันล่ะ... หืม”
“แต่ฉันเป็นน้องสาวของพี่นะ”
“ขอโทษนะเมรี พอดีว่าในสายตาฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นน้องสาวเลยสักครั้ง เธอไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้” คำพูดของชายหนุ่มทำให้เมรีนึกถึงตอนที่เธอก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ วันแรกรามเกียรติ์ได้มอบสร้อยคอจี้หัวใจครึ่งดวงให้กับเธอ ซึ่งอีกครึ่งดวงเก็บไว้ที่เขา พร้อมกับคำมั่นสัญญาว่าเขาจะปกปกและดูแลเธอประหนึ่งน้องสาวแท้ ๆ แต่ดูเหมือนเขาจะลืมมันไปแล้ว มันคงเป็นเพียงแผนการของรามเกียรติ์สินะ
เมื่อเวลาผ่านไปช่องว่างระหว่างเขากับเธอก็มากขึ้น จนกระทั่งนำมาสู่ความเกลียดชัง เพียงเพราะบิดาของเขายกย่องโมรีออกนอกหน้า ในฐานะภรรยาเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างทศกัณฐ์พีราฟามาซีกรุ๊ป แล้วยังแนะนำใครต่อใครให้รู้จักกับเมรีลูกสาวคนเล็กของบ้าน ผู้ที่จะมาสานต่อธุรกิจในตำแหน่งรองประธานบริษัท
“เมย์ไม่ต้องการอะไรจากพ่อเลยสักนิด เรียนจบเมย์จะย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ทันที ขอแค่แม่ได้อยู่กับพ่อก็พอ เมย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบ้านพีราวัชระกรณ์อีก สมบัติทุกชิ้นเมย์ไม่เคยต้องการ เมย์จะคืนให้พี่ทั้งหมด” เมรีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพราะเธอใกล้ฝึกงานจบแล้ว หญิงสาวคิดว่าถ้าหากเธอมีแฟนรามเกียรติ์คงไม่กล้าทำอะไรรุ่มร่ามแบบนี้
“มันสายไปแล้วเมรี ทุกอย่างที่เคยเป็นของฉันถูกเธอกับแม่ขโมยไปจนหมด อย่าทำให้ฉันต้องเหลืออด"
“พี่จะทำอะไร”
“ก็ทำแบบนี้ไง”
“จุ๊บ! จ๊วบ อืม....อือ” เมรีถึงกับประหลาดใจตัวแข็งหยุดนิ่งไปชั่วขณะไม่คิดว่ารามเกียรติ์จะกล้าบ้าดีเดือด
ริมฝีปากร้อนฉ่ากดจูบดูดดื่มร้อนแรง ทำเอาอีกฝ่ายเริ่มหัวใจเต้นแรงกับสัมผัสวาบหวามเกินต้านทาน ฝ่ามือทั้งสองถูกกดตรึงเอาไว้กับเตียงนุ่ม สมองของเมรีสั่งการให้ผลักไสไล่ส่ง ทว่าหัวใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกพิเศษวาบหวาม เกินกว่าที่จะปฏิเสธรสจูบแสนหวานนี้ได้
Rrrr!!! ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ จู่ ๆ เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของรามเกียรติ์ดังขึ้น ประหนึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้เขาได้สติ ชายหนุ่มผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเสียดาย ก่อนกดรับสายด้วยน้ำเสียงหวาน “ว่าไงครับแอน” ประโยคนี้ทำเอาเมรีเจ็บลึกสุดหัวใจ เธอเบือนหน้าหนีทำเหมือนไม่เป็นไร ทั้งที่หัวใจกำลังแตกสลายอย่างไม่รู้ตัว
‘กูเองไอ้รามมึงรีบมาดูแอนหน่อย’
“แอนเป็นอะไร”
‘เมาแล้วเอาแต่ร้องไห้ วิ่งออกมาจากผับโดนรถเฉี่ยวตอนนี้อยู่โรงบาล’
“โอเคกูจะรีบไป”
ท่าทางรีบร้อนของรามเกียรติ์ยิ่งทำให้เมรีรู้ว่าตัวเองเป็นได้เพียงแค่ศัตรูตัวฉกาจ ที่เขาพยายามเข้าใกล้เธอก็เพื่อเอาคืนเธอกับแม่ ชายหนุ่มรีบเดินออกไปจากห้องนอนของหญิงสาว เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเธอด้วยซ้ำ
“ฮึก ฮึก ฮื้อ!” เมรีร้องไห้สะอื้อนออกมาจนตัวโยน เธอดึงหมอนข้างเข้ามากอดบรรเทาความอ้างว้าง หญิงสาวถูกรามเกียรติ์รังแกแต่ก็ไม่เคยปริปากฟ้องบิดามารดา กระทั่งที่เขาแอบเข้าห้องเธอบ่อยครั้ง ลวนลามหยามเกียรติอยู่เป็นประจำ จนไม่รู้ว่าวันไหนความอดทนที่มีจะสิ้นสุดลง
