คุณพ่อท่านสั่งสอนมาดีปานนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น
แอดดด
"ตื่นแล้วเหรอครับ คุณเล็กจะลงไปทานอาหารข้างล่าง หรือให้ผมสั่งขึ้นมาที่นี่ดีครับ"
เหนือลมเอ่ยถามคนที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเดินออกมาจากห้องอย่างสดใส ไร้ซึ่งสีหน้าเศร้าโศกเสียใจเหมือนค่ำคืนที่ผ่านมา
"ลงไปทานข้างล่างดีกว่าครับคุณเหนือ ไปกันเลยก็ได้ ทานเสร็จจะได้กลับบ้านกันเลย เล็กยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกหลายอย่าง"
"คุณเล็กทำใจได้แล้วจริง ๆ เหรอครับ"
เป็นอีกครั้งที่คนตัวโตเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง
"มันอาจจะเร็วจนไม่น่าเชื่อ แต่เล็กทำใจมาพักใหญ่แล้วครับคุณเหนือ เพียงแค่ตอนนี้พึ่งถึงเวลาของมัน เล็กจะเอาความเป็นตัวเองกลับมา เล็กรู้แล้วว่าการเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น มันไม่ได้ทำให้เค้ารักเรามากขึ้นเลย"
เหนือลมยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ วันนี้เขามองไม่เห็นความหวาดกลัวในสายตาของรามิลอย่างเช่นทุกวัน กลับเป็นสายตาแห่งความมุ่งมั่นทะนงตนเข้ามาแทนที่
"ผมดีใจที่คุณเล็กคิดได้แบบนั้นครับ"
"คุณเหนือกำลังจะบอกว่าเล็กโง่มาตั้งนานว่างั้นเถอะ!"
คนตัวเล็กยิ้มทะเล้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เหนือลม ทำเอาอีกฝ่ายละสายตาจากริมฝีปากอวบอิ่มไม่ได้เลยทีเดียว
"ผะ..ผมไม่ได้พูดนะครับ"
"ฮะ ฮะ คุณเหนือเขินแบบนี้แล้วน่ารักจัง"
"ผมดีใจที่คุณเล็กยิ้มได้ ขอให้คุณเล็กมีความสุขแบบนี้ในทุก ๆ วันนะครับ"
"ก็ถ้าคุณเหนืออยู่กับเล็กตลอดไป คุณเหนือก็จะได้เห็นเล็กยิ้มแบบนี้ทุกวันเลย"
"ไปจัดการเรื่องทุกอย่างให้จบก่อนสิครับ แล้วผมจะอยู่กับคุณเล็กไปจนตายเลย"
"..."
คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้คนตัวเล็กหน้าขึ้นสีแดงเรื่อง ก่อนจะเดินนำออกจากห้องไปยังห้อง เพื่อเข้าลิฟต์ไปยังอาหารที่อยู่ชั้นล่างสุด
"หึ ไม่รอกันเลย~"
ร่างสูงโปร่งรีบเดินตามรามิลไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งเห็นคนตัวเล็กเขินจนต้องเดินหนี ในใจของเหนือลมก็ยิ่งมีความหวังมากยิ่งขึ้น
.
.
"คุณเหนือ~ คุณเล็กตักข้าวผัดอเมริกันมาให้คุณเหนือด้วยแหละ"
พอมาถึงห้องอาหาร เหนือลมก็รีบเดินไปเอาน้ำและนมอุ่น ๆ มาให้รามิลอย่างเช่นทุกวัน แม้จะสามารถสั่งอาหารไปทานได้อย่างง่ายดาย แต่รามิลก็ชื่นชอบการลงมาทานอาหารเช้ารวมกับแขกคนอื่น ๆ มากกว่า
หลายปีที่ผ่านมา รามิลต้องทนกินอาหารเช้าบนห้องเพราะคิรากรไม่ชอบการลงมาทานอาหารร่วมกับผู้คนที่พลุกพล่าน ทว่าทุกครั้งที่รามิลอยู่กับเหนือลม คนตัวเล็กสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการได้อย่างอิสระ
"ขอบคุณครับ แต่คราวหลังผมไปเอาเองก็ได้ เจ้านายที่ไหนเค้ามาคอยดูแลบอดี้การ์ดกันล่ะครับ"
"ที่นี่แหละ ก็คุณเล็กอยากดูแลคุณเหนือบ้างไม่ได้รึไง~ ถ้าคุณเหนือไม่ชอบก็เอาคืนมา คุณเล็กจะกินเอง"
หมับ
"ชอบครับ ชอบมาก งั้นคุณเล็กนั่งรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอาข้าวต้มกุ้งของโปรดของคุณเล็กมาให้"
เหนือลมจ้องมองนัยน์ตาคู่สวยพร้อมกับรีบดึงจานข้าวผัดเอาไว้อย่างทันท่วงที ก่อนจะเอ่ยบอกให้คนตัวเล็กนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
กริ๊งงง กริ๊งงงง
ติ๊ด
"ว่าไงปั้นสิบ"
รามิลกดรับสายเพื่อนสนิทที่โทรมาหาแต่เช้า แสดงว่าเจ้าตัวจะต้องมีเรื่องสำคัญไม่น้อย เพราะเวลาปกติที่เจ้ปั้นสิบเจ้าของไนต์คลับใจกลางเมืองจะตื่นก็เป็นช่วงเที่ยงวัน
"แกเห็นภาพคู่หมั้นแกไปนั่งพะเน้าพะนอกับแฟนเก่ารึยังไอ้คุณเล็ก"
น้ำเสียงจากปลายสายสะท้อนความเป็นห่วงปนหงุดหงิดออกมาจนรามิลเผลอคลี่ยิ้มออกมา
"เห็นแล้ว เห็นมากกว่ารูปนั้นอีก"
"ฉิบ! แล้วแกจะเอายังไง จะสู้กับมันยังไง!"
"เล็กรู้ว่าเล็กสู้เค้าไม่ได้หรอกปั้น เล็กมันผู้รากมากดี กิริยามารยาทคุณพ่อท่านสอนสั่งมาดีปานนี้ เล็กไม่ลดตัวใฝ่ต่ำถึงขั้นต้องใช้ผู้ชายร่วมกับใครหรอก ฮะ ฮะ ฮะ"
ท่าทางจีบปากจีบคอของรามิล ทำเอาคนที่เพิ่งได้ข้าวต้มมาถึงกับแอบขำก่อนจะเดินมาที่โต๊ะ
"เออ เจ้าสำบัดสำนวนขนาดนี้ แสดงว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม ว่าแต่ที่มากกว่ารูปมันคืออะไรอ่ะ ส่งมาให้ดูหน่อยดิ อยากรู้"
"สู่รู้ อ๊ะ ๆ เดี๋ยวส่งไปให้ ถ้าว่างก็มาเจอกันที่บ้านเล็กนะ ตอนนี้เล็กอยู่พัทยา อีก 2 ชั่วโมงน่าจะถึงบ้าน แค่นี้ก่อนนะ คุณเหนือรอทานข้าวอยู่"
"ตายแล้ว ขอฟังเสียงที่รักหน่อยได้ไหม~"
"ไม่ได้หรอก เล็กหวง เดี๋ยวปั้นจับคุณเหนือยัดลงท้องแล้วเล็กจะทำไงล่ะ บายนะเพื่อนรัก แล้วเจอกัน"
"กะ..แก~"
ติ๊ด
รามิลกดส่งคลิปทั้งสองคลิปที่ได้รับจากภีรภัสให้กับปั้นสิบตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตานับกุ้งว่าเหนือลมจะจำสิ่งที่ตนเองชอบได้หรือไม่
"กุ้ง 5 ตัว ครับ"
"คุณเหนือน่ารักที่สุด นอกจากคุณพ่อกับพี่ใหญ่ ก็มีคุณเหนือนี่แหละที่จำทุกอย่างเกี่ยวกับเล็กได้"
"คุณเล็กคิดจะทำอะไรต่อ พอจะบอกผมได้ไหมครับ?"
"เล็กต้องบอกคุณเหนืออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ทานข้าวกันก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยพร้อมกันที่บ้าน"
"ครับ"
เหนือลมเชื่อว่าทุกคนที่คฤหาสน์กีรติเมธาต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อนแล้ว ป่านนี้ข้อมมูลต่าง ๆ พร้อมกับคลิปวิดีโอและกล้องวงจรปิดทั้งหมดคงส่งถึงมือของ ราชันและราม กีรติเมธาแล้ว
.
.
คฤหาสน์ กีรติเมธา
กรอดดด~
"มันอยากตายใช่ไหม! มันกล้าทำแบบนั้นกับน้องเล็กได้ยังไงครับพ่อ ผมไม่ยอมจริง ๆ นะ"
ราม กีรติเมธา หรือ คุณใหญ่ ชื่อที่สงวนไว้ให้เพียงคนในบ้านเรียกขาน ใบหน้าหล่อเหลาขบกรามแน่นอย่างเดือดดาลเมื่อเห็นข้อมูลต่าง ๆ ที่เหนือลมให้คนส่งมาให้
"แล้วแกคิดว่าพ่อจะยอมอย่างนั้นเหรอ!"
เสียงทุ้มทรงพลังของผู้นำตระกูลเอ่ยขึ้นอย่างน่าเกรงขาม ราชันไม่เสียดายสักนิดหาจะยกเลิกการร่วมทุน หรือจะต้องเสียหายกี่สิบกี่ร้อยล้านเขาก็ไม่หวั่นหากทำให้ลูก ๆ ทั้งสองสบายใจได้
"ผมจะสั่งถอนทุนทั้งหมด ก่อนหน้านี้มันไม่ใส่ใจดูแลก็พอทน แต่ตอนนี้มันถึงขั้นพาแฟนเก่าเข้าไปนอนด้วยกันที่เตียงของน้องเล็ก เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นบ้านนั้นเป็นเพื่อนพ่อล่ะก็ มันไม่ได้หายใจข้ามคืนมาจนป่านนี้หรอกครับ"
"รอฟังน้องก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวก็น่าจะถึงแล้วใช่ไหม"
"ครับ เห็นไอ้เหนือมันบอกว่าใกล้ถึงแล้ว"
"นี่ก็อีกคน เมื่อไหร่จะบอกน้องว่าเพื่อนของแกเป็นใคร มัวแต่มาเล่นบทบอดี้การ์ดแบบนี้เดี๋ยวเจ้าเล็กรู้ทีหลังก็โกรธอีก"
"ปล่อยมันเถอะครับพ่อ มันเลือกที่จะเฝ้ามอง มากกว่าการได้ครอบครองก็ปล่อยให้มันทำไปเถอะ"
ลึก ๆ แล้วราชันกลับเห็นด้วยกับการกระทำของเหนือลม ที่เลือกจะเฝ้ามองคนที่ตนเองรักอยู่ห่าง ๆ มากกว่าจะแย่งชิงเพื่อให้ได้ครอบครอง คนไร้ใจพยายามเท่าไหร่ก็ไร้ค่า เหมือนเช่นที่ลูกชายคนเล็กของเขากำลังประสบพบเจออยู่
นับแต่วันที่ราชันสูญเสียภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไปเมื่อ 10 ปีก่อน เขายังคงเลี้ยงลูกโดยให้ลูกเรียนรู้โลกภายนอกด้วยตัวเอง การห้ามไม่สู้ปล่อยให้เรียนรู้และเจ็บด้วยตัวเอง
การหมั้นของรามิลก็เช่นกัน จากสายตาของคนที่ผ่านโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ราชันย่อมรู้ดีว่าลูกชายคนเล็กของตนไม่อาจมีความสุขได้จากความรักครั้งนี้
"แต่ถ้าเจ้าเหนือเลือกที่จะแย่งชิง ความสัมพันธ์ของทั้งสองอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ ทุกอย่างคงมีเวลาของมัน"
"คุณพ่อ~ พี่ใหญ่~ งื้อออ คิดถึงจังเลยครับ"
พรึบ
ทันทีที่ลงรถได้ รามิลก็เดินตรงเข้ามาหาพ่อและพี่ชายที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อยังคงอบอุ่นเสมอเหมือนเช่นทุกครั้งที่รามิลเจอปัญหาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
"ไหวไหมลูก ตัวเล็กของพ่อ ถ้าลูกอย่างร้องไห้ก็ร้องออกมาได้เต็มที่เลย"
มือหนาของผู้เป็นพ่อลูบหัวลูกชายคนเล็กอย่างทะนุถนอม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหาเล็กใหญ่แค่ไหนราชันก็พร้อมเผชิญทุกอย่างไปพร้อมกับลูก ๆ
"ไม่ร้องครับ เล็กไม่ร้อง เล็กร้องมาพอแล้ว คุณพ่อกับพี่ใหญ่สบายใจได้เลยครับ เรามาวางแผนเอาคืนคนทรยศกันดีกว่า"
ราชันกับลูกชายคนโตรู้สึกแปลกใจทั้งดีใจในเวลาเดียวกัน อะไรที่ทำให้ดวงใจของพวกเขาเปลี่ยนความคิด ราวกับว่าพวกเขาได้รามิลคนเดิมกลับมา คนที่มีแต่รอยยิ้มสดใสแสนซุกซน ไม่ใช้มัวแต่อมทุกข์ จะทำอะไร จะไปไหนก็กลัวแต่คู่หมั้นจะไม่พอใจ
"พ่อได้ตัวเล็กคนเดิมกลับมาแล้วเหรอลูก ฟอดดด/ มา ๆ ขอพี่ใหญ่จุ๊บเหม่งที จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ"
"ฮะ ฮะ ฮะ พอแล้วพี่ใหญ่ น้ำลายเต็มหน้าเล็กเลยเห็นไหม"
"ว้ายย ที่รักครับ ปั้นคิดถึงที่รักมากเลยรู้ไหม ขอกอดทีได้ไหมครับ"
ปั้นสิบตั้งท่าจะโผเข้ากอดเหนือลมจนรามิลต้องรีบผละออกจากอ้อมกอดของบิดาและพี่ชายเพื่อมากั้นกลางเอาไว้อย่างหวงแหน
"ไม่ได้ ๆ อย่านะ ห้ามปั้นกอดคุณเหนือของเล็กเด็ดขาด!"
เหนือลมถูกดึงตัวให้มาหลบหลังคนตัวเล็กไปโดยปริยาย เจ้าตัวจ้องมองการกระทำของผู้เป็นเจ้านายในนามด้วยรอยยิ้ม หัวใจที่ห่อเหี่ยวมานานกลับมาพองโตจนจังหวะการเต้นกลับมารัวเร็วอีกครั้ง ส่วนสาเหตุคงหนีไม่พ้นคนที่กำลังห้ามเพื่อสนิทไม่ให้เข้ามาใกล้เขานี่เอง
"ทำม๊ะ หวงอ่อ ก็เค้าจะกอด เค้าอยากกอด"
"ไม่ได้เล็กหวง คุณเหนือก็เหมือนกัน ถ้าต่อไปนี้ปล่อยให้คนอื่นโดนตัว คุณเล็กจะโกรธจริง ๆ ด้วย ฮึ"
พูดจบรามิลก็เดินหน้างอกลับไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ข้างพ่อและพี่ชายของตนเอง
พรึบ
หมับ
"งื้อ ที่รัก ขอกอดหน่อยก็ไม่ได้ หวงเนื้อหวงตัวชะมัด!"
ปั้นสิบยังคงพยายามที่จะเข้าประชิดตัวเหนือลม ทว่าคนที่สูงกว่ากลับใช้มือข้างหนึ่งดันศีรษะเพื่อนสนิทของรามิลไว้ได้อย่างทันการ
"ได้ยังไงกันครับ ผมต้องรักนวลสงวนตัวไว้ให้ว่าที่คนรักของผมสิ"
ภาพที่เห็นกลับทำให้รามิลที่กำลังนั่งหน้างอกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ก่อนที่ราชันจะยุติสงครามระหว่างทั้งสามคน
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือกำลังมีใครบางคนแอบคันยุกยิกในใจจนใกล้จะเก็บอาการไม่อยู่เต็มทีแล้ว
