ตอนที่ 3 :: เพื่อนไม่จริง
ตอนที่ 3
เพื่อนไม่จริง
แกร็ก!
"หึ เธอลืมไปแล้วเหรอนาขวัญ ว่าฉันมีกุญแจสำรองห้องของเธอ" ธีรวัฒน์ยกยิ้มพอใจ หลังจากที่เขาใช้กุญแจสำรองที่เคยบังคับให้นาขวัญปั้มมาให้ไขประตูแล้วเดินเข้ามาภายในห้อง
"นาขวัญ!" คนที่กำลังโกรธจัดตะโกนเรียกหญิงสาว พลางเดินไปรอบ ๆ ห้องเพื่อหาตัวเธอ
ตึกตึก ตึกตึก
"นาขวัญ! เธอคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ ออกมา!"
ร่างบางซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าใช้มือปิดปากของตัวเองเอาไว้แน่น ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอสั่นระริก นัยน์ตากลมโตเริ่มมีน้ำใส ๆ เอ่อคลอ สถานการณ์ในตอนนี้มันช่างไม่ต่างจากหนังโรคจิตเลยแม้แต่น้อย
ตึกตึก ตึกตึก
ธีรวัฒน์ยังคงเดินไปรอบ ๆ ห้อง แม้แต่ในห้องน้ำเขาก็ไม่เว้น และทันใดนั้นเอง...
"หึ"
ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มทันทีเมื่อสายตาคมเหลือบไปเห็นชายเสื้อที่โผล่พ้นออกมาจากตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ ๆ อย่างพยายามทำเสียงให้เบาที่สุด จากนั้นจึงค่อย ๆ ยกมือขึ้นเพื่อจะเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา
ทว่า...
ครืดดด ครืดดด
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงของธีรวัฒน์ เขาจึงชะงักมือลงแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา ซึ่งเสียงนั้นก็ทำให้ร่างบางในตู้เสื้อผ้าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเช่นกัน
ลดา
"ฮัลโหลครับ" ชายหนุ่มกดรับสายทันทีเมื่อได้เห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
"ครับลดา ได้สิครับ แล้วเจอกันนะครับ"
ตึกตึก ตึกตึก
จบประโยคนั้นเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังห่างออกไป ตามมาด้วยเสียงประตูห้องที่ถูกปิดลง คนที่แอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าเลยค่อย ๆ แง้มประตูออกมาดู เมื่อเห็นว่าซาตานร้ายออกไปแล้ว นาขวัญจึงปล่อยให้หยาดน้ำตาขับไล่ความหวาดกลัวออกไป
"ฮึก! ฮือ ๆ ๆ ๆ" เธอร้องไห้และได้แต่กล่าวขอบคุณชลดาอยู่ในใจที่หญิงสาวโทร เข้ามาหาซาตานร้ายอย่างธีรวัฒน์ได้ทันท่วงที ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเธอให้รอดพ้นจากน้ำมือของเขาไปได้ในครั้งนี้ แค่ครั้งนี้...ก็ยังดี
อีกด้านหนึ่ง
@ร้านอาหารบนดาดฟ้า
"ว่าไงลดา ไอ้ธีร์มันจะมาไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า
"มาสิค่ะนพ ลดาเป็นคนโทรชวนขนาดนี้ ธีร์ไม่ปฏิเสธแน่นอน" หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้เจ้าของคำถามอย่างอารมณ์ดี พลางวางโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูไว้บนโต๊ะ หลังจากที่เธอเพิ่งโทรชวนธีรวีฒน์ให้มาทานอาหารเย็นด้วยกัน
"ลดารู้ใจไอ้ธีร์ขนาดนี้ แล้วเมื่อไหร่จะยอมใจอ่อนให้มันสักทีล่ะครับ" นพดลเอ่ยถามหญิงสาวอีกครั้ง พลางวางแก้วไวน์สีอำพันลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าพึงพอใจกับรสชาติของมัน แต่คนถูกถามกลับนิ่งไปชั่วขณะ
"ไม่รู้สิคะ แต่ลดาคิดว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีแล้วนะ"
"แต่ไอ้ธีร์มันอยากเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เเค่เพื่อน ลดาก็รู้"
"..." คำพูดของนพดลทำเอาหญิงสาวชะงักไป
ชลดารู้ดีว่าเพื่อนชายอีกคนคิดยังไงกับเธอ แม้ว่าธีรวัฒน์จะไม่ได้บอกว่าเขาคิดยังไงกับเธอตามตรง แต่การกระทำของเขามันก็ฟ้องทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่เขาและเธอเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ หญิงสาวจึงคิดว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนคงจะยั่งยืนกว่าความสัมพันธ์แบบอื่นเป็นไหน ๆ ซึ่งชลดาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับธีรวัฒน์ นอกเสียจากความเป็นเพื่อน เธอเลยต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป
ผิดจากคนตรงหน้าที่เธอไม่ได้คิดกับเขาแค่เพื่อน เพราะเธอรักนพดล แต่เธอก็ไม่กล้าบอกออกไปว่าเธอคิดยังไงกับเขา หนำซ้ำเธอกับเขาและธีรวัฒน์ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ธีรวัฒน์คิดกับเธอเกินสถานะเพื่อน ในขณะที่เธอเองก็คิดกับนพดลเกินสถานะเพื่อนไปแล้วเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าเธอสารภาพรักกับนพดล แล้วธีรวัฒน์รู้เข้าเขาก็คงเสียใจ และถ้านพดลไม่ได้รักเธอตอบ ตัวเธอเองก็คงเสียใจเช่นกัน หลังจากนั้นเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป หญิงสาวมองไม่ออกเลยว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนชายทั้งสองจะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า เธอเองก็ไม่รู้ ชลดาเลยเลือกที่จะเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้แค่ในใจก็พอ
"กินอาหารเถอะค่ะ" หญิงสาวบอกปัด ๆ ก่อนจะลงมือลิ้มลองรสชาติของอาหารตรงหน้า
นพดลเองก็ทำได้แค่ตักอาหารสุดเลิศหรูเข้าปากเพื่อลิ้มลองรสชาติเช่นเดียวกับหญิงสาว ในขณะธีรวัฒน์นั้นกำลังเดินทางมา
นานนับยี่สิบนาที ร่างสูงในชุดสูทสีดำผูกเนกไทราคาแพงก็เดินเข้ามาภายในร้าน เรียกสายตาจากลูกค้าสาว ๆ ให้หันไปมองทางเขาพร้อมกันเป็นตาเดียว
"โอ้โห ๆ นี่แค่มากินอาหาร ถึงขนาดต้องแต่งสูทมาเลยเหรอวะ" นพดลเอ่ยแซวผู้มาใหม่ด้วยความตกตะลึงปนขำขัน แต่คนถูกแซวกลับหัวคิ้วชนกันจนเป็นปม เมื่อเห็นว่าผู้เป็นเพื่อนนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับคนที่โทรชวนเขาออกมา
"นั่งลงก่อนสิธีร์" ชลดาเอ่ยชวนชายหนุ่ม
"มึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ธีรวัฒน์ถามเพื่อนทันทีทันใดขณะกำลังนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ หญิงสาว
"ก็ลดาโทรชวนกูมาทานข้าวด้วย เหมือนที่ชวนมึงนั่นแหละ แต่พอดีกูไม่ได้แต่งตัวจัดเต็มเหมือนมึง ก็เลยมาถึงก่อนยังไงล่ะ" เขาตอบกวน ๆ
"..." ร่างสูงถึงกับเงียบไป เพราะอุตส่าห์หลงดีใจคิดว่าหญิงสาวจะโทรชวนเขาเเค่คนเดียว ธีรวัฒน์เลยลงทุนใส่สูทมา แถมระหว่างทางชายหนุ่มยังแวะเข้าไปในร้านเสริมสวยเพื่อให้ช่างแต่งหน้าช่วยกลบรอยช้ำบนแก้มและทำผมเสริมหล่อให้อีกด้วย
"พอดีว่าลดาปิดร้านแล้วรู้สึกหิว ๆ ก็เลยโทรชวนธีร์กับนพออกมากินข้าวด้วยกันน่ะค่ะ" ชลดาชี้แจงให้ชายหนุ่มเข้าใจ เธอเปิดห้องเสื้อเล็ก ๆ และออกแบบแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ในขณะที่ธีรวัฒน์กับนพดลร่วมทุนกันเปิดคลับหรูใจกลางเมือง หลังจากที่ทั้งสามเรียนจบมาจากคณะเดียวกัน
"กินอาหารเถอะ จืดหมดแล้วมั้ง" นพดลมองผู้เป็นเพื่อนที่เพิ่งมาถึง พลางไหวไหล่อย่างกวน ๆ
ธีรวัฒน์นั่งกินอาหารด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก เพราะมันไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ ชายหนุ่มคิดว่าจะมีโอกาสได้ดินเนอร์กับหญิงสาวที่เขาคิดเกินเพื่อนอย่างชลดาแค่สองต่อสอง แต่ในขณะนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหญิงสาวดันชวนนพดลมาเป็นก้างขวางคอด้วย เขาเลยหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
มันช่างไม่คุ้มค่ากับการที่เขาลงทุนใส่สูทมาแม้อากาศจะร้อน แถมยังยอมแต่งหน้ากลบรอยช้ำที่แก้มเพราะกลัวว่าจะไม่ดูดีในสายตาของชลดา ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ชอบเครื่องสำอาง และยังยอมทำผมเสริมความหล่อเอาเสียเลย
