บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 :: สาเหตุแห่งความเจ็บปวด

ตอนที่ 1

สาเหตุแห่งความเจ็บปวด

เเสงแดดจากเช้าวันใหม่ลอดผ่านผ้าม่านสีเทาเข้ามากระทบใบหน้าเนียนใสของนาขวัญ หญิงสาวจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ พลางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้สายตาได้ปรับเข้ากับแสง

"โอ๊ย!" แต่แล้วเธอก็ร้องขึ้นทันทีเมื่อขยับร่างกาย เพราะรู้สึกเจ็บบริเวณใจกลางความเป็นหญิงจนลุกแทบไม่ไหว แค่ขยับตัวเธอยังทำได้ยากเลย

"ตื่นแล้วก็รีบกินยานี่ซะ ฉันไม่อยากมีลูกกับผู้หญิงอย่างเธอ" น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นที่ข้างเตียง นาขวัญจึงหันไปมองยังต้นตอของเสียง ก่อนจะเจอกับธีรวัฒน์ที่กำลังยืนมองเธออยู่ โดยที่ในมือหนามีแผงยาคุมกำเนิดฉุกเฉินพร้อมกับแก้วน้ำเปล่ายื่นมาให้ หญิงสาวจึงยื่นมือไปรับ

"รีบกินเข้าไปพร้อมกันทั้ง 2 เม็ดซะ แล้วก็อย่าเพิ่งคิดดีใจที่ฉันยอมให้เธอนอนร่วมเตียงจนถึงเช้าและเอาสดกับเธอล่ะ เพราะฉันขยะแขยงจะแย่อยู่แล้ว รีบกินยาแล้วก็รีบลุกขึ้นมาเก็บกวาดห้องให้ฉันซะ จะได้รีบไสหัวออกไปจากห้องฉันเร็ว ๆ" น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยบอก ทำให้คนฟังทำได้แค่กลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคออย่างเจ็บปวด

หึ ขยะแขยงงั้นเหรอ ถ้าขยะแขยงแล้วมาเอากับเธอทำไม ทำไมไม่ไปเอากับคนอื่น หญิงสาวอยากจะตะโกนถามคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน แต่เธอก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าเธอทำธีรวัฒน์ก็จะโมโหและทำร้ายเธออีก นาขวัญจึงรีบหยิบแผงยาขึ้นมาแล้วแกะเอาเม็ดแรกออกมา ก่อนจะกลืนแล้วรีบดื่มน้ำตามลงไปทันที

"หึ" เห็นดังนั้นธีรวัฒน์จึงหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ

"คราวนี้ก็รีบทำความสะอาดห้องให้ฉันซะ จะได้รีบไสหัวออกไปจากห้องฉันสักที ถ้าฉันกลับมาแล้วยังเห็นเธออีก ฉันจะเอาจนเธอเดินไม่ได้เลยคอยดู"

ปัง!

สิ้นคำประกาศิตเสียงปิดประตูก็ดังขึ้นกลาย ๆ บ่งบอกว่าผู้ชายใจร้ายคนนั้นออกไปจากห้องแล้ว เมื่อเป็นแบบนั้นนาขวัญจึงปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อคืนเธอถูกธีรวัฒน์ลงโทษด้วยการรองรับอารมณ์ป่าเถื่อน ซึ่งกว่าชายหนุ่มจะหยุดการกระทำทั้งหมดฟ้าก็เกือบสางแล้ว

มันเป็นความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยชินเลยสักครั้ง เมื่อคืนหญิงสาวแค่ยกกาแฟขึ้นมาให้เขาบนห้องตามคำสั่ง แต่โชคร้ายก็มาเยือนเธอจนได้ เมื่อเท้าเจ้ากรรมเดินสะดุดขาตัวเองล้มจนแก้วกาแฟกระเด็นไปโดนกรอบรูปที่ชายหนุ่มหวงแหนยิ่งกว่าชีวิต มันคือรูปของชลดา หญิงสาวที่เขารักจนหมดหัวใจ...

เนื่องจากนาขวัญทำให้กรอบรูปของชลดาหล่นลงพื้นจนแตก ชายหนุ่มจึงโกรธมากจนมีอะไรกับเธอโดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยเช่นทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา และเขาก็ยังโมโหจนมีอะไรกับเธอจนเกือบถึงเช้า และต่างฝ่ายต่างก็สลบไปบนเตียง นาขวัญจึงได้นอนร่วมเตียงกับเขา หากเป็นเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา เมื่อเขาลงโทษเธอเสร็จ ธีรวัฒน์ก็จะไล่หญิงสาวออกไปจากห้องทันที ไม่ว่าตอนนั้นเธอจะเจ็บหรือไม่เจ็บก็ตาม

นาขวัญก้มลงมองฝ่ามือของตนเองแล้วพบว่าบาดแผลเมื่อคืนยังคงมีเลือดแห้งเขรอะ โชคดีที่มันไม่ลึกมากนัก ร่างบางจึงพยายามยันตัวลุกขึ้นเพื่อพาร่างกายโทรม ๆ ลงจากเตียงอย่างยากลำบาก เธอฝืนตัวเองเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของชายหนุ่มออกมาใส่แทนชุดนอนที่ขาดจากการกระทำของซาตานร้ายเมื่อคืนนี้อย่างถือวิสาสะ เพราะหญิงสาวคิดว่าเสื้อของเขามีตั้งมากมายหลายตัว ธีรวัฒน์คงจำไม่ได้หรอกว่าเสื้อตัวไหนหายไปบ้าง...

นานนับสิบนาทีหญิงสาวจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ เธอยกกระเป๋าพยาบาลออกมาทำแผลให้ตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะลงมือเก็บกวาดห้องที่เพิ่งผ่านศึกรักอันป่าเถื่อนด้วยความยากลำบาก จากนั้นจึงค่อย ๆ เก็บเศษแก้วที่แตกกระจายออกมาจากกรอบรูปช้า ๆ ซึ่งมันมีเพียงแค่เศษกรอบรูปเท่านั้น เพราะรูปภาพนั้นหายไปแล้ว

"คุณธีร์คงจะเก็บไปแล้วสินะ"

"คุณช่างน่าอิจฉาจังเลยนะคะ แค่รูปภาพของคุณยังคุณธีร์ยังห่วงและรักมากขนาดนี้" เธอพึมพำทั้งน้ำตาเมื่อนึกถึงใบหน้าของชลดา

เกือบหนึ่งชั่วโมงที่หญิงสาวเก็บกวาดห้องและซักผ้าปูเตียงเปื้อนคราบน้ำกามจนเสร็จ ก่อนจะค่อย ๆ เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างหวาดระแวง เพราะด้วยความที่เธอสวมใส่เสื้อของธีรวัฒน์ และถ้าดูจากสภาพตอนนี้แล้ว ถ้าคนในบ้านเห็นเข้าย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าเธอไปโดนอะไรมา แต่โชคดีที่คุณท่านไม่อยู่บ้านเพราะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับพวกเพื่อน ๆ ตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้ว

"เฮ้อ" นาขวัญถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเข้ามาถึงห้องของตัวเองได้อย่างปลอดสายตาของคนในบ้าน ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะแก้ตัวหรือโกหกป้าสายใจกับบัวลอยว่ายังไงดี ถ้าจะให้ออกไปทำงานในสภาพแบบนี้คงไม่ได้แน่ ๆ

ก๊อก ๆ ๆ

เฮือก! หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก ๆ ๆ

"พี่ขวัญ ๆ ตื่นรึยังจ๊ะ"

ก๊อก ๆ ๆ

"พี่ขวัญเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมเงียบล่ะจ๊ะ"

"พะ...พี่ไม่ค่อยสบาย วันนี้ขอลาหยุดสักวันนะบัวลอย" เธอบอกอย่างเหนื่อยล้า เพราะถ้าวันไหนที่หญิงสาวไม่มีเรียนเธอจะต้องออกไปทำงานบ้านช่วยบัวลอยกับป้าสายใจตามปกติ

"เป็นอะไรมากรึเปล่าพี่"

"ปวดหัวเหมือนเดิมแหละ นอนพักสักหน่อยคงดีขึ้น"

"ถ้างั้นก็นอนต่อเถอะจ้ะ เดี๋ยวบัวลอยจะบอกป้าสายใจให้ ยังไง ๆ วันนี้ก็ไม่มีงานอะไรให้ทำหรอกจ้ะ คุณธีร์ก็ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว ข้าวเช้าก็ไม่กิน"

"ขอบใจนะบัวลอย"

"จ้า นอนพักเถอะพี่"

นาขวัญรอจนเสียงฝีเท้าของบัวลอยค่อย ๆ ห่างออกไป แล้วจึงเดินมาล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดเล็กอย่างอ่อนแรง โชคดีที่วันนี้เธอไม่มีเรียน ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคงพาร่างกายโทรม ๆ ของตัวเองไปเรียนไม่ได้แน่ ๆ

"พ่อจ๋าแม่จ๋า ขวัญคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน" ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังกรอบรูปบนหัวเตียง ก่อนฝ่ามือเล็กจะเอื้อมไปหยิบมาสวมกอดเอาไว้แนบอกอย่างห่วงหา

รูปภาพของหญิงและชายวัยกลางคนคู่หนึ่งกำลังยืนส่งยิ้มมาให้เธออย่างมีความสุข แต่มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าพวกท่านทั้งสองยังอยู่กับเธอในตอนนี้

สองปีแล้วที่ทั้งสองจากเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ พ่อและแม่ของนาขวัญจากไปพร้อมกับคุณหญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่บังเกิดเกล้าของธีรวัฒน์ ผู้ชายที่เห็นเธอเป็นแค่ลูกคนใช้ในบ้านของตัวเอง เขาเกลียดเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะชายหนุ่มคิดว่าเธอได้รับความรักจากพ่อและแม่มากกว่าตัวเองที่เป็นลูกในไส้แท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอก็เป็นแค่ลูกของคนรับใช้ในบ้าน แต่กลับได้รับความรักและความเอ็นดูมากกว่าเขา

เนื่องจากคุณท่านทั้งสองอยากมีลูกสาวมาก ๆ แต่กลับได้ลูกชาย และคุณหมอบอกว่าคุณหญิงไม่มีโอกาสมีลูกอีกแล้ว พวกท่านจึงเศร้าใจอยู่ไม่น้อย จนเมื่อเวลาผ่านมาสามปี แม่ของนาขวัญก็ให้กำเนิดเธอ พ่อกับแม่ของธีรวัฒน์เลยดีใจกันยกใหญ่ที่จะได้เห็นเด็กผู้หญิงมาคอยวิ่งเล่นในบ้าน พวกท่านเลยเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ ทั้งส่งเรียนหนังสือ ซื้อของเล่นให้ ดูแลเอาใจใส่ราวกับเธอเป็นลูกในไส้แท้ ๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เอ่ยปากขอหรืออยากได้ก็ตาม ซึ่งไม่มีใครคาดคิดเลยว่าสิ่งที่พ่อกับแม่ของธรีวัฒน์ทำให้เธอ มันจะสร้างปมในใจที่ทำให้เขาเกลียดเธอจนไม่อยากแม้แต่จะเข้าใกล้ ลามไปจนถึงเกลียดพ่อกับแม่ของเธอด้วย เพราะชายหนุ่มคิดว่าท่านทั้งสองคงให้ท้ายลูกให้คอยออเซาะพ่อกับแม่ของเขาจนพวกท่านรักและหลงเธอหัวปักหัวปำ

และแล้วจากความเกลียดที่เคยมีมากอยู่แล้ว ธีรวัฒน์ยิ่งเกลียดเธอเป็นทวีคูณ เมื่อพ่อของหญิงสาวเป็นคนขับรถพาคุณหญิงไปร่วมงานเลี้ยงทางสังคม โดยที่มีแม่ของเธอนั่งรถไปด้วยกัน แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุขึ้นจนทำให้ทั้งสามเสียชีวิตในคืนนั้น

งานศพของทั้งสามกำลังจะถูกจัดขึ้นพร้อมกันที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะพ่อกับแม่ของนาขวัญไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนหลงเหลืออยู่เลย แม้กระทั่งบ้านเกิดแท้ ๆ ก็ขายที่เข้ากรุงจนหมด พลวัฒน์จึงให้จัดงานศพพ่อกับแม่ของเธอพร้อมกับคุณหญิงผู้เป็นภรรยา แต่ธีรวัฒน์ไม่ยอมให้ตั้งศพของทั้งสองร่วมกับมารดาของตน เพราะเขาโทษว่าทุกอย่างมันเป็นความผิดของพ่อกับแม่ของเธอ และบอกว่าพวกท่านทั้งสองคือฆาตกรที่ทำให้เขาสูญเสียมารดาผู้เป็นที่รักไป วันนั้นธีรวัฒน์จึงยื่นคำขาดอย่างไม่ยอมว่า ไม่มีทางที่จะยอมเผาผีกันแน่นอน จนทุกคนที่ยืนอยู่ในศาลาทำพิธีของทางวัดต้องเดินหนีออกไปข้างนอกกันหมด ผู้เป็นพ่ออย่างพลวัฒน์จึงเข้ามาห้าม และเสนอว่าจะให้เงินนาขวัญเพื่อนำไปจัดงานศพให้พ่อกับแม่ แต่ธีรวัฒน์ก็ยืนกรานว่าถ้าพ่อทำแบบนั้นเขาจะตัดพ่อตัดลูกกับท่านซะ หลังจากนั้นสองพ่อลูกจึงทะเลาะกันอย่างไม่มีใครฟังใครจนพลวัฒน์ต้องเป็นฝ่ายเดินออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก

พอนาขวัญเห็นแบบนั้นจึงเดินเข้ามาถามธีรวัฒน์อย่างจำนนว่าต้องทำอย่างไร หรือมีวิธีไหนบ้างที่เขาจะเลิกเกียจชังครอบครัวของเธอ และยอมให้จัดงานศพพ่อและแม่ของเธอร่วมกับคุณหญิง เพราะถ้ามี...เธอก็ยินดีที่จะทำ เพราะเธอคงไม่มีปัญญาจัดงานศพให้ผู้เป็นพ่อและแม่ได้ด้วยตัวเพียงคนเดียวแน่ ๆ

แน่นอนว่าธีรวัฒน์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยกยิ้มร้ายกาจแล้วมองมาที่เธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เธอเองก็ยังจำได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้

"ฉันมีกฎอยู่แค่ข้อเดียว คือถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอทำให้ฉันโมโห เธอจะต้องถูกฉันลงโทษ...บนเตียง" นาขวัญรู้ดีว่าการลงโทษบนเตียงอย่างที่ชายหนุ่มบอกมันคืออะไร เธอจึงเม้มปากแน่นด้วยความลำบากใจ

"ว่าไงล่ะนาขวัญ ฉันว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลยนะ เธอก็แค่อย่าทำให้ฉันโมโห ก็แค่นั้นเอง..." ธีรวัฒน์มองเธออย่างคาดคั้น ซึ่งแน่นอนว่าหญิงสาวเองก็ไม่มีทางเลือก เธอจึงยอมตอบตกลงในที่สุด เพราะคิดเพียงว่าอยากจะจัดงานศพให้กับพ่อและแม่เพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องกฎของเขา นาขวัญก็คิดเพียงว่าเธอจะไม่ทำให้เขาโมโหเด็ดขาด เธอจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ

แต่ใครจะคิดว่าหลังจากงานศพเสร็จสิ้นไป ไม่ว่าธีรวัฒน์จะใช้ให้เธอทำอะไร ทั้งทำความสะอาดห้อง ซักผ้า ทำอาหาร ชายหนุ่มก็มักจะไม่พอใจและโมโหทุกครั้ง ซึ่งบทลงโทษของเธอก็มักจะจบลงที่เตียงเสมอ นาขวัญต้องคอยรองรับอารมณ์ป่าเถื่อนและเซ็กซ์ที่รุนแรงของเขา แม้แต่ครั้งแรกและพรหมจรรย์ที่เธอหวงแหนธีรวัฒน์ก็พรากมันไปอย่างไม่ได้เห็นคุณค่าอะไรเลย

แต่สิ่งที่มันเลวร้ายไปกว่านั้น คือเธอแอบเผลอใจไปรักเขาทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันผิดอย่างมหันต์ และมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เรื่องของความรู้สึกเธอรู้ว่ามันห้ามกันไม่ได้ แต่เธอก็บอกกับตัวเองเสมอว่าเธอต้องเลิกรักเขาให้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะรู้ดีว่าธีรวัฒน์มีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว และคนอย่างเขาที่เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรก็คงไม่มีวันรักเธอได้อย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel